ต้นบอนสี ไม้มงคล

ต้นบอนสี ไม้มงคล

ต้นบอนสีไม้มงคล

ต้นบอนสี ไม้มงคล  ปัจจุบันเทรนด์การปลูกต้นไม้ เพื่อประดับตกแต่งตามส่วนต่างๆภายในบ้านนั้น ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากเลยทีเดียว โดยจะเห็น เป็นความนิยมนี้ได้จาก ภาพต่างๆบน Social Network หลายหลายช่องทาง ของผู้คนมากมายที่มักถ่ายรูปมาแบ่งปัน  อย่างไรก็ตามสำหรับไม้ใบหรือไม้ดอกที่ผู้คนสนใจและนิยมปลูกกันนั้น ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน แต่หากจะพูดถึงหนึ่งในสายพันธุ์ที่ผู้คนนิยมเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีความโดดเด่น ทางด้านรูปลักษณ์ และสีสัน เชื่อว่าหลายๆคนคงจะต้องนึกถึง ราชินีไม้ใบ (Queen of the Leafy Plants) อย่างบอนสีแน่นอน

สำหรับต้นบอนสีนั้น ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ของพืชใบ ที่อยู่คู่กับวงการไม้ประดับของไทยมาอย่างยาวนาน ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า ไม้ไทยพาณิชย์ ไม่เพียงแต่จะมีความโดดเด่นในเรื่องของรูปทรงใบ และขนาดของลำต้นที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายเท่านั้น แต่อีก 1 จุดเด่นสำคัญที่ผู้คนชื่นชอบนั่นก็คือ สีสันของใบที่มีความแตกต่างกันตามแต่ละสายพันธุ์ อีกทั้งพืชชนิดนี้ยังเลี้ยงง่ายโตไวไม่เป็นภาระของผู้ดูแล นอกจากนี้ไม่เพียงแต่ความสวยงามเท่านั้น แต่ผู้คนมากมาย ยังเชื่อกันอีกว่า ต้นบอนสี คือไม้มงคล ที่จะนำพาโชคลาภมาสู่ผู้ปลูกอีกด้วย

ความเชื่อเกี่ยวกับบอนสีไม้มงคล

สำหรับความเชื่อเกี่ยวกับบอนสี ไม้มงคล นั้น สันนิษฐานกันว่าน่าจะเกิดจากช่วงที่ต้นบอนสีถูกนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยใหม่ๆ บริเวณบ้านพักของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้านายชั้นสูงในประเทศ จนต่อมาได้มีการขยายพันธุ์ออกไปสู่ผู้คนทั่วไป ทำให้หลายๆคนเชื่อกันว่า การปลูกไม้ชนิดนี้เอาไว้ภายในบ้านนั้น จะทำให้ผู้คนในบ้านอยู่เย็นเป็นสุข เสริมสร้างสิริมงคลให้แก่ผู้อยู่อาศัยนั่นเอง

สายพันธุ์บอนสีไม้มงคลที่ผู้คนนิยมปลูกในปัจจุบัน

ในส่วนของสายพันธุ์บอนสีไม้มงคลที่ผู้คนนิยมปลูกกันในปัจจุบันนั้น มีอยู่ด้วยกัน 5 สายพันธุ์ดังต่อไปนี้

  1. บอนสีมิ่งมหามงคล

ลักษณะเด่นของสายพันธุ์นี้คือใบขนาดใหญ่ที่มีสีแดงสด ซึ่งมาพร้อมกับเส้นสายสีเขียวเข้มบนใบซึ่งมองดูแล้วสวยงามตัดกันเป็นอย่างดี โดยในส่วนของความเชื่อนั้นผู้คนเชื่อกันว่าการปลูกบอนสีมิ่งมหามงคลเอาไว้ในบ้าน จะเป็นการช่วยส่งเสริมกิจการต่างๆให้ประสบความสำเร็จ ช่วยส่งเสริมบารมีให้กับคนในบ้าน รวมไปถึงเสริมสร้างสิริมงคลและขจัดภัยต่างๆไม่ให้มากล้ำกราย


  1. บอนสีม่วงมงคล

ลักษณะเด่นของสายพันธุ์นี้คือใบแก่ขนาดใหญ่ที่มีสีแดงเข้มอมม่วง และใบอ่อนที่มีสีเขียวออกขาว โดยบอนสีสายพันธุ์นี้ ได้รับการยกย่องให้เป็นบอนที่ปลูกเพื่อเป็นตัวแทนแห่งความสำเร็จ และจะส่งเสริมความรักของสามีภรรยาที่อาศัยอยู่ภายในบ้านให้ราบรื่นด้วยดีตลอดไป


  1. บอนสีจอมทัพ

ลักษณะเด่นของบอนสีสายพันธุ์นี้คือ ใครทรงกลมขนาดใหญ่ที่มีขอบหยักเป็นเส้นสาย เล็กน้อย โดยแต่ละใบนั้นจะมองเห็นเป็นสีแดง เข้มผสมกับสีเขียวซึ่งความอ่อนแก่ของสีคนแต่ละใบนั้นจะดูแตกต่างกันออกไป ซึ่งว่ากันว่าการปลูกบอนสีสายพันธุ์นี้เอาไว้จะคอยดูแลคุ้มครองป้องกันภัยร้ายต่างๆให้กับผู้อยู่อาศัยภายในบ้านนั่นเอง


  1. บอนสี บ่อเงิน

ลักษณะเด่นของบอนสีสายพันธุ์นี้ก็คือ ใบขนาดใหญ่ที่มีเส้นขอบหยัก ซึ่งลวดลายบนใบนั้นดูสวยงามด้วยการไล่เฉดสีขาวจากบริเวณกางไปออกไปจนกลายเป็นสีเขียวเข้มบริเวณเส้นขอบใบ ซึ่งจะให้เฉดสีที่ตัดกัน มองดูแล้วสวยงามเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ในส่วนของความเชื่อนั้นผู้คน เชื่อกันว่าการปลูกบอนสีบรอนซ์เงินเอาไว้ในบ้านนั้น จะเป็นการช่วยส่งเสริมโชคลาภเงินทองให้กับผู้อาศัยนั่นเอง


  1. บอนสีฮกหลง

ลักษณะเด่นของสายพันธุ์นี้คือลวดลายบนใบแต่ละใบจะมีลักษณะเป็นสีด่างผสมกันระหว่างแดง ชมพู และเขียวเข้ม ซึ่งมองดูแตกต่างกันออกไปเป็นลวดลายเฉพาะตัวของแต่ละใบ ด้วยความสวยงามนี้ได้รับการขนานนามว่าบอนสีฮกหลงนั้นคือราชินีแห่งฤดูฝนเลยทีเดียว ซึ่งผู้คนเชื่อกันว่าการปลูกบอนสีฮกหลงนั้นจะช่วยเสริม บารมี วาสนา และโชคลาภให้กับผู้ปลูกและผู้อยู่อาศัยภายในบ้านที่ปลูกบอนสีสายพันธุ์นี้เอาไว้นั่นเอง

ต้นบอนสี ไม้มงคล

 

 

ต้นบอนสี ไม้มงคล


 1000maidee.com

ต้นบอนสี

ต้นบอนสี

ต้นบอนสี

ต้นบอนสี ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าเทรนความนิยมการปลูกไม้ใบเพื่อประดับตกแต่งตามมุมต่างๆของบ้านหรือภายในส่วนนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งความนิยมที่กำลังมาแรงอย่างมากเลยทีเดียวในประเทศไทย โดยจะเห็นได้ว่าผลของความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นนั้นส่งผลให้ราคาไม้ใบในตลาดซื้อขายปัจจุบันดีดตัวขึ้นไปสูงมากกว่าในอดีตหลายเท่าตัว แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่า ราคาจะสูงมากเท่าไร แต่ความนิยมในตระกูลไม้ใบนั้น ก็ยังคงไม่ลดลงอยู่ดี

และหนึ่งในไม้ใบที่ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจเป็นอย่างมากในปัจจุบันนั่น ซึ่งต้นไม้ชนิดนี้ถือเป็นไม้ใบที่มีลักษณะความสวยงามของต้นและใบเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้บอนสี ยังมีความสวยงามของสีและลวดลายบนใบที่ไม่ดูแตกต่างกันออกไปตามแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งความสนุกของกลุ่มคนรักต้นไม้ ที่จะเลือกซื้อหาต้นบอนสี ลวดลายต่างๆ มาประดับตกแต่งเอาไว้ในบ้านของตนเลยทีเดียว ทั้งนี้สำหรับใคร ก็ตามที่เป็นสาวกของไม้ใบ ชนิดนี้เช่นเดียวกัน ในวันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับต้นบอนสีให้มากขึ้นกัน

 

 

ลักษณะทั่วไปและสายพันธุ์ของต้นบอนสี

สำหรับต้นบอนสีสายพันธุ์ที่ผู้คนนิยมเลี้ยงกันอยู่ในปัจจุบันนั้นได้แก่บอนสีสกุล คาลาเดียม(Caladium) วงศ์ Araceae  โดยสายพันธุ์นี้จะมีหัวคอยดูดซับสารอาหารอยู่ใต้ดินซึ่งดูมีลักษณะคล้ายกับหัวมันฝรั่ง ในส่วนของใบนั้นจะมีขนาดและรูปทรงที่แตกต่างกันไป ตามที่มองเห็นไม่ว่าจะเป็นรูปสามเหลี่ยม รูปวงรี และ รูปหัวใจ นอกจากนี้ความสวยงามของบอนสีที่ทำให้ได้รับความนิยมนั่นก็คือลวดลายและสีสันที่แตกต่างกันบนใบของต้นบอนสีนั่นเอง โดยสีของต้นบอนสีที่พบได้มากในปัจจุบันได้แก่สีชมพู สีแดง สีเหลือง สีขาว และสีเขียว เป็นต้น นอกจากนี้ในส่วนของการใบนั้น มีลักษณะเป็นทรงกลมโดยมีทั้งแบบสั้นและแบบยาว ช่อดอกของบอนสี จะมีลักษณะเป็นช่อ แบบเชิงลดและมีกาบห่อหุ้ม ทั้งนี้ช่อดอกของบอนสีนั้น มีทั้งช่อดอกเพศเมียและช่อดอกเพศผู้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะให้ความสวยงามเท่านั้นแต่ดอกของต้นบอนสียังจะส่งกลิ่นหอมอ่อนๆในเวลาช่วงตอนเย็นอีกด้วย

วิธีเลี้ยงและดูแลต้นบอนสี

สำหรับต้นบอนสีนั้น โดยธรรมชาติแล้ว เป็นพันธุ์ไม้ที่มีความต้องการน้ำและความชื้น ในระดับสูง นอกจากนี้พื้นที่สำหรับเลี้ยง ยังจะต้องมีแสงแดดส่องรำไร อีกทั้งยังต้องไม่ อยู่ในสภาวะอากาศที่ร้อนอบอ้าวจนเกินไปอีกด้วย

บอนนั้นจะมีการพักตัว เมื่อฤดูหนาวมาถึงโดยสามารถสังเกตได้จากการผลัดใบ บนต้นออกทั้งหมด และจะเหลือไว้เพียงหัวที่อยู่ใต้ดินสำหรับคอยดูดซับสารอาหารต่างๆเท่านั้น ทั้งนี้หากฤดูหนาวผ่านพ้นไปจนเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน บอลสีก็จะทำการปิดไฟและเจริญเติบโตขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้การจะเลี้ยงบอลสีให้มีใบออกทั้งปีรัฐสามารถทำได้โดยการเลี้ยงในพื้นที่ปิดและรักษาอุณหภูมิความชื้นให้คงที่นั่นเอง

 

 

สายพันธุ์บอนสีที่นิยมเลี้ยงกันในปัจจุบัน

ในส่วนของสายพันธุ์ของต้นบอนสีที่ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจและนิยมปลูกกันในปัจจุบันนั้นมีอยู่มากมายหลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน โดยสามารถยกตัวอย่างบางสายพันธุ์ได้ดังต่อไปนี้

  • โพสแมนจอยเนอร์ (PostmanJoyner)
  • พิ้งคิ์บิวตี้(PinkBeauty)
  • อิเหนา (Angel Wing)
  • ฮกหลง (Thai Beauty)

และทั้งหมดนี้คือรายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับบอนสีที่มือใหม่ควรจะต้องรู้เอาไว้ อย่างไรก็ตาม การจัดเรียงความถี่ให้ประสบความสำเร็จได้นั้นยังจะต้องมีรายละเอียดอื่นๆที่ต้องศึกษาเพิ่มเติม นอกจากนี้ สำหรับมือใหม่ที่ ยังไม่เคยเลี้ยงพืชชนิดนี้มาก่อน การขอคำแนะนำจากผู้ที่ มีประสบการณ์นั้นก็จะเป็นอีกหนึ่งวิธีการเรียนรู้ที่ช่วย ให้ เข้าใจแนวทางในการเลี้ยงบอลสีได้มากขึ้นอีกไม่น้อยเลยทีเดียว

ต้นบอนสี



 1000maidee.com

วิธีทำบอนไซ

วิธีทำบอนไซ

วิธีทำบอนไซ

วิธีทำบอนไซ คือการนำต้นไม้มาจำลองหรือย่อส่วนให้มีขนาดเล็กลง โดยยึดตามรูปแบบของต้นไม้ขนาดใหญ่ซึ่งพบเห็นได้ตามธรรมชาติหรือพบเห็นโดยทั่วไปเป็นหลัก  โดยต้นไม้ส่วนใหญ่ที่นำมาทำบอนไซ จะเป็นไม้ยืนต้นและมีใบขนาดเล็ก

ตามแบบที่นักเล่นบอนไซของไทยได้ทำกัน ส่วนใหญ่จะเน้นในการสร้างกิ่งแบบ 1 2 3  เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว  ซึ่งจะเน้นความเป็นระเบียบของกิ่งเป็นสำคัญ   เราจะต้องจินตนาการเองว่าตอไม้ที่นำมาทำบอนไซตรงไหนเป็นด้านหน้าและด้านหลัง  เพื่อที่จะได้ทำการจัดระเบียบกิ่งได้ถูกต้อง

 

 

อย่างเช่น ตำแหน่ง ของ กิ่ง 1 กิ่ง 2 และกิ่ง 3 ในลักษณะของไม้ทรงต้น  (กิ่ง 1  คืออยู่ด้านล่างสุด จะอยู่ทางซ้ายหรือขวามือก็ได้ )  ( กิ่ง 2  คืออยู่ตรงข้ามกับกิ่ง 1 แต่อยู่สูงกว่า)   (กิ่ง 3 จะอยู่ข้างหลังหรือเรียกว่ากิ่งหลัง แต่จะอยู่สูงกว่ากิ่ง 2 หรือจะอยู่ระหว่างกิ่ง 1 กับกิ่ง 2 ก็ได้ )  (กิ่ง 4 จะอยู่ตรงข้ามกับกิ่ง 2 โดยเยื้องมาด้านหน้า)

ส่วนกิ่งต่อๆ ไป ให้ทำการวนไปรอบๆ ต้น  แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกต้นจะสามารถนำมาสร้างแบบมาตรฐาน 1 2 3 ได้ทั้งหมด  จะมีบางต้นที่จะนำมาทำกิ่งหลัก หรือกิ่งรองนั้น  จะต้องดูตามทรงตอไม้ที่นำมาทำ   โดยดูตามความเหมาะสม และการออกแบบประกอบกัน

ข้อดีของการวางกิ่งแบบมาตร  1 2 3   ก็เพื่อเป็นการกระจายกิ่งไปรอบต้นทำให้เกิดความสมดุล และความสวยงามนั่นเอง    หลังจากที่เราได้ทำการเลี้ยงบอนไซมาได้ซักระยะหนึ่ง   กิ่งจะเริ่มโตขึ้นและแตกซ้ายขวา   ให้เราทำการตัดกิ่งที่ไม่ต้องการออก    แล้วทำการเข้าลวดโดยรัดเบาๆ  เพื่อเป็นการประคองกิ่งไว้ ไปในทิศทางที่ต้องการ

 

 

จากนั้นให้ทำการดัดกิ่งให้ได้ตามรูปแบบที่เราต้องการ   เมื่อทำขั้นตอนนี้เสร็จแล้วให้เราทำการเลี้ยงบอนไซต่อไปเรื่อยๆ จนโต    หลังจากนั้นพอบอนไซโตจนมีขนาดพอเหมาะ  เราก็จะมาทำการเช็คดูบอนไซอีกครั้งว่าได้กิ่งตามที่เราต้องการหรือไม่  หากยังไม่เป็นที่พอใจ ให้ทำการเบรคกิ่งนั้นไว้ก่อน  โดยทำการตัดกิ่งหรือริดใบออก  เพื่อชะลอการเติบโต  และเพื่อเป็นการไล่แต่ละกิ่งให้โตสมส่วนกัน    ให้ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะได้ต้นบอนไซที่ได้ขนาดและตามรูปแบบที่เราต้องการ

 

ทั้งนี้  วิธีการทำบอนไซนั้น   จะต้องอาศัยระยะเวลาการเรียนรู้  จากการเก็บเกี่ยวประสบการณ์รวมทั้งฝีมือในการทำเช่นกัน  เพราะการทำบอนไซเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งที่เราจะต้องคิดออกแบบ พัฒนา  และจินตนาการอย่างสร้างสรรค์  เพื่อให้เกิดรูปแบบที่ออกมาดูดีและดูสวยงามที่สุด

 

 

 

 

วิธีทำบอนไซ


 1000maidee.com

 

ต้นกระเช้าสีดาปีกผีเสื้อ

ต้นกระเช้าสีดาปีกผีเสื้อ

ต้นกระเช้าสีดาปีกผีเสื้อ

ต้นกระเช้าสีดาปีกผีเสื้อ กับต้นกระเช้าสีดาไม่ใช่ต้นเดียวกัน แต่ต้นกระเช้าสีดาปีกผีเสื้อจะเป็นพืชประเภทเฟิน ไม่ใช่ต้นไม้อิงอาศัยแบบต้นกระเช้าสีดา และต้นกระเช้าสีดาปีกผีเสื้อไม่ใช่กาฝากเหมือนที่หลายคนเข้าใจ หรืออีกชื่อหนึ่งที่นิยมเรียกกันคือ เฟินกระเช้าสีดา บางพื้นที่ก็เรียกแตกต่างกันออกไปอย่างเช่น ชายผ้าสีดา สไบสีดา ห่อข้าวสีดา หัวเฒ่าย่าบา ชื่อที่เรียกก็จะแตกต่างออกไปตามพื้นที่ของประเทศไทย

หลายคนคงไม่ค่อยจะรู้จักต้นไม้ชนิดนี้สักเท่าไหร่ ถ้าไม่ได้เป็นคนที่ปลูกต้นไม้หรือชื่นชอบต้นไม้อยู่แล้ว แล้วอยู่ๆ ต้นกระเช้าสีดาเป็นที่รู้จักขึ้นมาได้อย่างไร ทั้งๆ ที่เป็นพืชหายาก คนค่อนข้างรู้จักน้อย นั่นเป็นเพราะกระแสละครอย่างกระเช้าสีดาที่มาแรงมาก ๆ และฉากหนึ่งของละครก็มีการเปรียบเทียบต้นกระเช้าสีดากับตัวร้าย ซึ่งฉากนี้ก็เป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมาก แต่ในละครมีการพูดถึงว่าต้นกระเช้าสีดาเนี่ย เป็นต้นไม้ประเภทกาฝาก แต่จริงๆแล้วทั้งต้นกระเช้าสีดาและต้นกระเช้าสีดาปีกผีเสื้อเนี่ยไม่ใช่กาฝากทั้งคู่ เพราะเวลาอาศัยหรืออิงต้นไม้อื่น จะไม่แย่งสารอาหาร น้ำ หรือทำให้ต้นไม้ที่ไปอาศัยอยู่เนี่ยเดือดร้อน

 

 

ต้นกระเช้าสีดาปีกผีเสื้อมีลักษณะสีเขียว ใบกาบขนาดใหญ่ คนนิยมปลูกเป็นไม้สวยงาม เอาไว้ประดับบ้านเรือน และสวน ปลูกแยกหรือขึ้นเกาะบนต้นไม้ยืนต้นที่มีอยู่แล้วก็ได้ เอาไว้ประดับสวยงาม และไม่ส่งผลเสียต่อต้นไม้ที่ถูกเกาะตามที่หลายคนเข้าใจอีกด้วย ต้นกระเช้าสีดาปีกผีเสื้อหรือเฟินกระเช้าสีดาปีกผีเสื้อเนี่ยมีขายตามร้านต้นไม้ที่เอาไว้ประดับสวยงาม สำหรับใครอยากได้มาไว้ประดับก็สามารถหาซื้อมาเลี้ยงหรือมาปลูกได้ ตามอินเตอร์เน็ตหรือร้านใกล้บ้านก็หาได้

นอกจากจะเป็นไม้ประดับแล้ว ต้นกระเช้าสีดาปีกผีเสื้อยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย เพราะมีสรรพคุณ บรรเทาปวด ลดไข้ วิธีกินหรือวิธีใช้คือการเอาใบมาต้มน้ำอาบ และผสมสมุนไพรบางชนิด เพื่อแก้ไข้ได้ บางคนก็ใช้ใบของต้นกระเช้าสีดาปีกผีเสื้อต้มน้ำดื่ม เพื่อรักษาอาการอ่อนเพลีย เหนื่อย หรือนำมาลวกกินกับน้ำพริกก็ทำได้เช่นกัน

 

 

เฟินกระเช้าสีดาปีกผีเสื้อมีอยู่ 2 ประเภท คือ เฟินกระเช้าสีดาปีกผีเสื้อต้นเดี่ยวและเฟินกระเช้าสีดาปีกผีเสื้อแตกหน่อ แตกต่างกันตรงที่ต้นเดี่ยวจะผลิใบกาบมหญ่โอบต้นไว้ ส่วนแตกหน่อจะสามารถแตกหน่อที่ปลายรากได้ และแตกหน่ออย่างรวดเร็ว ประเภทนี้เป็นแบบพึ่งพาอาศัยกันและเฟินประเภทนี้จะใหญ่มาก บางทีอาจทำให้ต้นที่เกาะกิ่งหักได้ ถ้าต้นนั้นมีกิ่งที่เล็กจนเกินไปสำหรับใครที่จะหามาปลูกก็ควรเลือกต้นที่จะให้กระเช้าสีดาปีกผีเสื้ออาศัยมีความแข็งแรงและใหญ่หน่อย

สำหรับคนที่สงสัยเรื่องต้นกระเช้าสีดาปีกผีเสื้อเป็นกาฝากหรือไม้ก็สามารถสบายใจได้แล้วนะคะ ว่าต้นกระเช้าสีดาปีกผีเสื้อไม่ใช่กาฝาก แต่เหมาะจะเป็นไม้ประดับสวยงามเท่านั้นยังไม่พอยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย มีประโยชน์ขนาดนี้ หามาไว้ประดับบ้านสักต้นกันนะคะ

 

 

 

ต้นกระเช้าสีดาปีกผีเสื้อ


 1000maidee.com

 

ราคาต้นถุงเงินถุงทองด่าง

ราคาต้นถุงเงินถุงทองด่าง

ราคาต้นถุงเงินถุงทองด่าง

ราคาต้นถุงเงินถุงทองด่าง ถือว่าเป็นกระแสที่กำลังมาแรงในช่วงปี 2562 มาจนถึงปี 2565 ในเรื่องของต้นไม้ด่าง ที่หลายคนที่ชื่นชอบการสะสมต้นไม้ ถึงกับยอมจ่ายมากถึง 8 หลักเพื่อต้นไม้ด่างที่ชื่นชอบ และกระแสนี้จะยังอยู่ในกลุ่มคนรักและสะสมต้นไม้อยู่ไปอีกนานเลยทีเดียว

สำหรับต้นไม้ที่มีราคาสูงมากในตลาดต้นไม้ปัจจุบัน เห็นว่าจะเป็นต้นกล้วยด่าง ถือว่ามีราคาสูงถึงหลักล้านเลยทีเดียว แต่วันนี้เราไม่ได้มาแนะนำต้นกล้วยด่างแต่อย่างใด เพราะยังมีต้นไม้ด่างอีกมากมายที่มีราคาสูงในตลาด แถมยังให้คุณประโยชน์ และก็มรต้นไม้ที่ราคาสามารถจับต้องได้ทั่วไป ที่ให้คุณประโยชน์เช่นเดียวกัน อย่างต้นถุงเงินถุงทอง มาดูกันว่าราคาต้นถุงเงินถุงทอด่างในตลาดต้นไม้ จะมีราคาอยู่ที่ช่วงประมาณไหน และสามารถจับต้องได้แบบกระเป๋าไม่แบนหรือเปล่า

 

 

ทำไมต้นไม้ด่างถึงราคาแพง?

ต้นไม้ด่างขึ้นชื่อว่าเป็นต้นไม้หายาก มีลวดลายที่แปลกไปจากที่เคยนิยม และรวมไปถึงความต้องการส่วนตัว ในกลุ่มคนรักต้นไม้อาจจะมีคนต้องการต้นไม้ชนิดนี้มากพอสมควร จึงทำให้เกิดการดันราคาขึ้นเพื่อแย่งกันซื้อไปสะสมนั่นเอง

ความด่างของต้นไม้เกิดจากอะไร?

ส่วนมากต้นไม้ด่างที่ถูกตีราคาตลาดสูง ๆ รอยด่างจะมาจากพันธุกรรม หรือความบกพร่องทางพันธุกรรมของไม้ชนิดนั้น ๆ ไปจนถึงการขาดสารอาหารในต้นไม้จนเกิดเป็นใบด่าง แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบจนทำให้ต้นไม้เหี่ยว หรือตายแต่อย่างใด แต่เมื่อเริ่มมีกระแสต้นไม้ด่างราคาสูง ก็มีหลายคนที่เริ่มทำการย้อมสีเพื่อขาย เพราะฉะนั้นต้องระวังในส่วนนี้ให้ดีนะคะ

 

 

ราคาต้นถุงเงินถุงทองด่างแพงไหม? เนื่องจากว่าต้นถุงเงินถุงทองธรรมดา ถือเป็นต้นไม้มงคลที่ใครหลาย ๆ คนต้องการอยู่แล้ว และเนื่องด้วยลักษณะของใบที่มีความด่างเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงไม่เข้าขั้นต้นไม้หายาก ราคาจึงมีเริ่มต้นที่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน แต่หากว่าใครที่ชื่นชอบลวดลาย หรือเจอต้นถุงเงินถุงทองที่มีลวดลายแตกต่าง แบบหายาก ก็อาจจะถูกตีราคาในตลาดได้สูงกว่าหลักพัน

 

 

ราคาต้นถุงเงินถุงทองด่าง เริ่มต้นที่ 100 – 5000 บาท แล้วแต่ลวดลายและรอยด่างของต้นนั้น ๆ

ปัจจุบันราคาของต้นไม้ด่าง ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อ เมื่อต้นไม้ชนิดไหนหายาก ก็จะมีราคาที่สูงขึ้นตามลำดับ แต่ไม่ตายตัว หากใครที่อยากเริ่มต้นเข้าวงการต้นไม้ด่าง แนะนำว่าให้ศึกษาข้อมูลราคา ลักษณะของรอยด่างที่หายาก และรอยด่างที่เกิดจากธรรมชาติ ที่ขาดไม่ได้คือเรื่องของการดูแลหลังซื้อให้ดีด้วยนะค

 

 

 

ราคาต้นถุงเงินถุงทองด่าง


 1000maidee.com

พึ่งพารักษาตนเองด้วย ฟ้าทะลายโจร

พึ่งพารักษาตนเองด้วย ฟ้าทะลายโจร

พึ่งพารักษาตนเองด้วย ฟ้าทะลายโจร

พึ่งพารักษาตนเองด้วย ฟ้าทะลายโจร  เป็นที่รู้กันว่าในช่วงการระบาดโควิด 19 ในแต่ระลอก การหาซื้ออุปกรณ์ทุกอย่างที่จำเป็นและสำคัญในการป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อนั้น ปัญหาไม่ใช่แค่เรื่องหาซื้อยากอย่างเดียว ราคาก็พุ่งนำหน้าความต้องการของผู้ซื้อเช่นกัน

จนของบางอย่างประชาชนคนชั้นกลางก็ได้แต่มองตากันปริบๆ หาเงินไม่ทันเพื่อที่จะซื้อของอุปโภคเหล่านี้มาไว้ป้องกันชีวิต ไล่ไปตั้งแต่ แมสปิดจมูก ถุงมือยาง แอลกอฮอล์ เป็นต้น ฟ้าทะลายโจรก็ไม่น้อยหน้าเค้า ทั้งที่เป็นสมุนไพรไทยที่แต่เดิมราคาหลักสิบ พอเป็นที่ต้องการขึ้นมาอย่างแรกที่เห็นคือขาดตลาด ตามมาด้วยราคาใหม่หลักร้อย และของปลอมก็มีมาให้ปวดใจ  มีแต่เรื่องหัวเราะไม่ออกซะจริงๆ

 

 

เมื่อวงจรการตลาดมันดีดราคาแพงขึ้นขนาดนี้ หลายคนจึงหันมาหาปลูกติดบ้านไว้เพื่อป้องกันและเยียวยาเงินในกระเป๋าตังตัวเอง เกษตรกรหลายรายหันมาปลูกต้นฟ้าทะลายโจรเพื่อจำหน่ายกันมากขึ้น มีทั้งขายเมล็ดเพื่อนำไปเพาะกันเองและต้นกล้าพร้อมปลูก ซึ่งต้นฟ้าทะลายโจรเป็นพืชโตไวและใช้ระยะเวลาหลังการปลูกเพื่อนำมาใช้เป็นยาเพียงแค่ 3-5 เดือนเท่านั้น เรียกว่าใช้เวลาไม่นานเราก็มียาขนานดีไว้พร้อมใช้ติดบ้าน ไม่ต้องออกไปแย่งกันซื้อกับใคร

 

การปลูกฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรคู่บ้านเพื่อพึ่งพาตนเองนั้น มีวิธีทำง่ายๆดังนี้

นำเมล็ดมาแช่น้ำอุ่นทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นเตรียมดินร่วนพร้อมปลูก หรือจะผสมทรายก็ได้ รดน้ำให้ชุ่ม เลือกเมล็ดที่จมน้ำมาโรยลงดินที่เตรียมไว้ รดน้ำให้พอชุ่ม วางตั้งไว้ที่แดดรำไร รดน้ำทุกวันเป็นเวลา 15 วัน แล้วจึงย้ายกล้าลงกระถางปลูก รดน้ำทุกวัน ถ้าแดดจัดให้รดวันละ 2 ครั้งเช้าเย็น หลังจากอายุครบ 2 เดือนค่อยรดวันเว้นวันโดยสังเกตหน้าดินเป็นหลัก รอจนครบ 4-5 เดือนในการปลูกครั้งแรก หรือสังเกตว่าต้นเริ่มออกดอกจนถึงดอกบานประมาณ 30-50 % ของต้น ก็เก็บทุกส่วนของต้นมาทำเป็นยาได้ ทำการตัดทั้งต้นโดยวัดจากหน้าดินขึ้นมา 5-10 ซม. เพื่อให้ต้นตอที่เหลือเจริญเติบโตให้ผลผลิตในรุ่นต่อไป ซึ่งจะใช้เวลาในการเก็บเกี่ยวครั้งต่อไปเร็วกว่าการปลูกครั้งแรกเพียงแค่ 2-3 เดือนเท่านั้น และต้นฟ้าทะลายโจร 1 ต้นสามารถเก็บเกี่ยวแบบนี้ได้ 3-4 ครั้ง  ส่วนการนำมารับประทานเป็นยาจะเป็นแบบสดหรือนำมาตากแห้งก็ได้ โดยใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน ตากเพื่อไล่ความชื้นจนแห้งสนิท ก็สามารถเก็บได้นานประมาณ 1 ปี

 

 

 

พึ่งพารักษาตนเองด้วย ฟ้าทะลายโจร


 1000maidee.com

กล้วยด่างมีกี่สายพันธุ์ยอดฮิต 2565

กล้วยด่างมีกี่สายพันธุ์ยอดฮิต 2565

กล้วยด่างมีกี่สายพันธุ์ยอดฮิต 2565

กล้วยด่างมีกี่สายพันธุ์ยอดฮิต 2565 ถ้าจะลองนับกล้วยด่างมีกี่สายพันธุ์ในประเทศไทย คงจะไล่นับกันไม่หมดแน่ๆ ผู้เขียนขอเลือกพูดถึงสายพันธุ์ที่เป็นไฮไลท์ของกระแสดีกว่า ว่าลักษณะแต่ละสายพันธุ์สวยขนาดไหน ทำไมที่ผ่านมาราคาถึงได้เท่าราคาบ้านขนาดนี้ สำหรับปี 2565 กล้วยด่างมีกี่สายพันธุ์ที่เป็นไฮไลท์บ้าง

 

กล้วยฟลอริดาด่าง เป็นสายพันธุ์ที่มีแหล่งกำเนิดที่ฮาวาย ค้นพบครั้งแรกที่ฟลอริดาทางตอนใต้ ประมาณ 70 กว่าปีมานี้เอง เป็นสายพันธุ์ที่มีลักษณะใบโดดเด่นมาก โดยมีแผ่นใบใหญ่ค่อนข้างเรียวสีพื้นใบเขียวเข้มไล่โทนสีเขียวอ่อนแซมด้วยลายด่างขาวชัดเจนตลอดตามแนวเส้นใบ ลวดลายแต่ละใบไม่ซ้ำกัน โคนใบมน ขอบเรียบ ยิ่งมองยิ่งหลงเสน่ห์ราวกับภาพวาดงานศิลปะ ลำต้นเทียมเกิดจากกาบใบที่ทับซ้อนกัน มีช่อดอกตั้งแกนดอกสีเขียว ดอกจะออกในช่วงฤดูหนาวอากาศเย็น ความสูงประมาณ 3-6 เมตร


กล้วยด่างแดงอินโด หรือกล้วยด่างทับทิมสยาม เป็นสายพันธุ์พื้นเมืองของอินโดนีเซีย สีใบเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนกล้วยชนิดอื่น เนื่องจากเป็นสีน้ำตาลแดงตัดกับลายด่างที่ออกสีเขียวตองไปจนถึงขาว เป็นคู่สีตรงกันข้ามที่ธรรมชาติจัดให้มาอยู่ด้วยกันได้อย่างน่าทึ่งและงดงามมาก ซึ่งลายด่างบางต้นอาจจะเป็นสีชมพูอ่อนหรือขาว กาบใบสีน้ำตาลแดงซ้อนทับกันแน่นจนเป็นลำต้นเทียม ความสูงประมาณ 3 เมตร เป็นต้นกล้วยที่ดูมีพลังและน่าสะสมเป็นเหตุให้ราคายังติดลมบน เป็นที่ต้องการของนักสะสมอย่างต่อเนื่อง


กล้วยด่างเทพพนม สายพันธุ์นี้ราคาก็ไม่น้อยใครเหมือนกัน มีถิ่นกำเนิดในฟิลิปปินส์ ลักษณะเป็นลำต้นเทียมที่เกิดจากกาบใบทับซ้อนเช่นกัน ใบสีเขียวใหญ่ยาวได้ประมาณ 3.5 เมตร มีลายด่างขาวหรือเหลืองสลับตามเส้นใบ เอกลักษณ์ที่ไม่มีสายพันธุ์ไหนเหมือนคือผล ใน 1 หวีแต่ละผลจะมีเหลี่ยมชัดเจนเรียงติดกันประมาณ 16-17 ผล คล้ายพนมมือเรียงกัน รสชาติดีหวานอร่อย ไม่มีเมล็ด ถือว่าเป็นกล้วยที่มีอัตลักษณ์ที่เป็นมงคล แถมยังเก็บผลกินได้ ราคาปัจจุบันของต้นที่สมบูรณ์เกิน 8 แสนบาทแล้ว

กล้วยด่างเทพพนม


กล้วยน้ำว้าค่อมด่าง เป็นกล้วยพันธุ์ผสมระหว่างกล้วยป่าและตานี ลำต้นเดี่ยวลักษณะกลมอ้วนเตี้ยตั้งตรงสีน้ำตาลปนเขียว ใบเลี้ยงเดี่ยวแบนยาวใหญ่ สีเขียวแก่ด่างขาว ปลีออกที่ปลายยอด ผลเรียงคล้ายพัด รสชาติของผลเหมือนกล้วยน้ำว้าปกติ สูงประมาณ 2 เมตร เป็นพันธุ์ที่ราคาก็ไม่ธรรมดาและกำลังได้รับความสนใจจากนักสะสมอยู่ในตอนนี้

กล้วยด่างมีกี่สายพันธุ์ยอดฮิต 2565

 

 

 

 

กล้วยด่างมีกี่สายพันธุ์ยอดฮิต 2565


 1000maidee.com

 

กล้วยด่าง เกิดจากอะไร

กล้วยด่าง เกิดจากอะไร

กล้วยด่าง เกิดจากอะไร

กล้วยด่าง เกิดจากอะไร ว่ากันตามจริงไม่ว่ากระแสอะไรก็ตาม จะผิดจะถูก จะจริงจะปลอม ถ้าขึ้นชื่อว่ากระแสก็ทำให้เป็นที่สนใจขึ้นมาแล้ว จากไม่เป็นที่รู้จักก็จะเป็นที่รู้จัก ยิ่งเฉพาะกระแสอะไรก็ตามที่ทำเงินได้ คนจะยิ่งแห่มาสนใจเพื่อที่จะผันตัวเองมาเป็นผู้ขายหากำไรทำเงิน แล้วไม่นานของก๊อปปี้เกรดเอ บี ซี ก็จะก่อกำเนิด คราวนี้อยู่ที่ดวง
ผู้ซื้อ..ถ้าช่วงนั้นดวงตก มีอันต้องน้ำตาไหลเสียตังแล้วกลับได้ของที่ไม่ใช่มาครอบครอง

 

 

กล้วยด่างก็เช่นเดียวกันตอนนี้กลายเป็นเกลื่อนตลาด เพราะด่างแท้ก็มีผู้ที่ปลูกขยายพันธุ์กันมากขึ้น แต่ที่เพิ่มเติมมาซะเยอะก็คือด่างเทียมหรือเทียบเท่า หลายคนที่ซื้อต้องมาลุ้นเอาว่าใบต่อมามันจะกลับไปเขียวหรือด่าง กว่าต้นจะโตรู้ความจริงคนขายก็ปิดเพจไปซื้อรถซื้อบ้านกันเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลที่ว่าควรซื้อจากแหล่งขายที่น่าเชื่อถือเป็นคำแนะนำที่ควรทำตามที่สุดตอนนี้ ยิ่งต้นไหนราคาแพงควรไปรับของที่ร้านหรือที่อยู่ของผู้ขายกันเลยเพื่อความมั่นใจว่าตามได้ จิกได้ โอกาสถูกหลอกขายก็ลดน้อยลง และก่อนซื้อมาปลูกควรศึกษาข้อมูลเบื้องต้นด้วยเช่น กล้วยด่างเกิดจากอะไร ดูแลรักษาแบบไหน เป็นต้น

ของแท้กล้วยด่างเกิดจากอะไร? Musa เป็นชื่อเฉพาะทางวิทยาศาสตร์ของกล้วยด่าง เป็นการเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติซึ่งเกิดการกลายพันธุ์ในระดับพันธุกรรม เรียกได้ว่า Born to be เลยทีเดียว  สายด่างจะรู้ดีว่าด่างแท้จะมาให้เห็นตั้งแต่หน่อหรือยอดใบอ่อน ต่อให้โตขยายก้านใบก็จะด่าง ผลออกมาก็ด่าง พอเป็นแม่พันธุ์ให้หน่อใหม่ก็จะให้หน่อด่าง และจะเป็นแบบนี้ตลอดอายุของต้นไม่มีการกลายพันธุ์เปลี่ยนเป็นสีอื่นอีกเด็ดขาดไม่ว่าปัจจัยใดๆก็ตาม นี่เป็นลักษณะธรรมชาติเฉพาะของกล้วยด่างแท้และไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆจึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาแพง

 

 

ส่วนด่างเทียมตอนนี้ก็ต้องแยกย่อยลงไปอีกว่า ด่างเทียมธรรมชาติหรือด่างเทียมด้วยฝีมือมนุษย์ ถ้าด่างเทียมธรรมชาติจะเกิดการด่างจากปัจจัยแวดล้อม เช่น ขาดแสง ขาดสารอาหาร เป็นโรค หรือเป็นต้นที่เกิดจากต้นพันธุ์ที่มีพันธุกรรมแบบกล้วยปกติ เป็นต้น จากปัจจัยเหล่านี้ถ้ามีการดูแลในสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ หรือบำรุงจนได้รับปัจจัยในส่วนที่ขาดจนครบ ก็สามารถกลับมาเป็นใบเขียวได้ปกติตามเดิม เหตุผลนี้ยังพอเข้าใจได้ แต่ถ้าเจอด่างจากฝีมือมนุษย์แปลงร่างให้ด่างด้วยสารเคมี ไม่ถึงเดือนความจริงปรากฎ ด่างหายกลายเป็นเขียว สั้นๆประโยคเดียว “ไม่น่าเลย”

 

กล้วยด่าง เกิดจากอะไร


 1000maidee.com

ต้นยางนา มีกี่ชนิด  และชื่อเรื่องของแต่ละภาค

ต้นยางนา มีกี่ชนิด  และชื่อเรื่องของแต่ละภาค

ต้นยางนา มีกี่ชนิด  และชื่อเรื่องของแต่ละภาค

ต้นยางนามีกี่ชนิด ยังจำแนกไม่ได้ แต่ว่า ต้นยางนา จะมีชื่อพิ้นเมืองที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามท้องถิ่นนั้นๆ โดยส่วนมากแล้ว ทั่วไปจะเรียกกันว่า ยางนา,ยางแม่น้ำ,ยางขาว,ยางหยวก ในจังหวัดเชียงใหม่ ก็จะเรียกว่า เคาะ จังหวัดเลยก็จะเรียกว่า ยางกุง จังหวัดหนองคายก็จะเรียกว่า ยางควาย จังหวัดชุมพรก็จะเรียกว่า ยางตัง เป็นต้น

ซึ่ง ไม้ยางนา จะมีถิ่นกำเนิดจากเกาะบอร์เนียว  ซึ่งไม้ชนิดชนิดนี้ จะขึ้นและเติบโตได้ดีบริเวณที่ราบริมน้ำ การสืบพันธุ์ของต้นยางนา ไม่ค่อยดีสักเท่าไรนัก จึงทำให้เจอแต่ต้นที่โตแล้ว และมีขนาดใหญ่ ส่วนต้นกล้าจะมีน้อยมากๆ

 

 

สำหรับการกระจายพันธุ์ โดยธรรมชาติ จะขึ้นอยู่แถวริมแม่น้ำ หรือแถบป่าดิบ สูงจากระดับน้ำขึ้นมาประมาณ 200-600 เมตร ซึ่งกระจายพันธุ์กว้างมาก ตั้งแต่ตอนใต้ของพม่า ไปจนถึง ลาว กัมพูชา และประเทศไทย โดยในประเทศไทยมีการกระจายพันธุ์ของต้นยางนาอยู่พอสมควรเหมือนกัน ภาคเหนือก็จะมีจังหวัดเชียงใหม่,เชียงราย รวมถึงลำพูน จะเห็นตามป่าสองข้างทาง หรือจังหวัดอื่นก็มีเหมือนกัน อย่างเช่น กำแพงเพชรไปจนถึงนครสวรรค์ สามารถเห็นต้นยางขึ้นอยู่ทั่วไปบริเวณสองฝั่งถนน และส่วนมากจะพบในจังหวัด อุทัยธานี กับ นครสวรรค์ ภาคอีสาน ก็จะพบอยู่ในจังหวัด นครราชสีมา,ขอนแก่น,เลย ภาคกลางที่เห็นบ่อย ก็จะอยู่ในจังหวัด กาญจนบุรีกับ สระบุรี ภาคใต้ จะพบในจังหวัด ตรัง,นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี

 

 

ถ้าถามว่า ต้นยางนามีกี่ชนิด ก็ยังคงได้คำตอบเหมือนข้างต้น แต่ต้นยางทั่วไป สามารถจำแนกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับอุตสกรรมการกรีดยาง ได้ดังนี้

กลุ่มแรก ต้นยางที่ผลิตน้ำยางออกมาได้เป็นจำนวนมาก ให้น้ำยางที่เยอะ โดยจะปลูกไว้เพื่อต้องการน้ำยางโดยเฉพาะ ซึ่งต้นยางที่อยู่ในกลุ่มนี้ จะถูกนำน้ำยางที่รีดจากลำต้น ไปสู่กระบวนการอุตสาหกรรมยางต่อไป

กลุ่มที่สอง จะเป็นต้นยางที่แตกต่างจากกลุ่มแรก เพราะว่าต้นยางกลุ่มนี้ จะให้น้ำยางและเนื้อไม้ที่มี คุณภาพดีมากๆเลยทีเดียว โดยไม้ยางพันธุ์นี้ จะไม่สามารถนำเข้าไปสู่กระบวนการอุตสาหกรรมได้ แต่ถึงอย่างไรแล้วนั้น เราก็สามารนำไปแปรรูป เป็นเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งบ้าน ที่ราคาพอๆกับไม้สักซึ่งมีราคาที่แพงสุดๆได้ โดยไม้ยางที่ได้จากต้นยางกลุ่มที่สองจะมีความแข็งแรง และทนทาน เหมาะกับการนำไปทำก่อสร้าง หรือว่าสร้างบ้านอีกด้วยเช่นกัน โดยต้นยางนา จะจัดอยู่ในประกลุ่มที่สอง  ที่สามารถใช้ได้ทั้งน้ำยาง และเนื้อไม้

กลุ่มที่ 3 เป็นพันธุ์ยางที่จะให้เนื้อไม้ แค่อย่างเดียวเท่านั้น โดยจะเน้นไปการปลูกให้เจริญเติบโตเร็ว และให้น้ำไม่ค่อยเยอะ ส่วนมากจะปลูกแบบเป็นสวนป่ามากกว่า

 

 

ต้นยางนา มีกี่ชนิด  และชื่อเรื่องของแต่ละภาค

 พันธุ์ไม้

ต้นยางนา ไม้เศรษฐกิจ ที่มีประโยชน์

ต้นยางนา ไม้เศรษฐกิจ ที่มีประโยชน์

ต้นยางนา ไม้เศรษฐกิจ ที่มีประโยชน์

ต้นยางนา เรียกได้ว่ามีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยโบราณ และยังเป็นต้นไม้ที่คนไทยสมัยก่อน มักจะนำมาใช้ในการก่อสร้างบ้านเรือน ที่เอาไว้อาศัย โดยต้นไม้ชนิดนี้ มีความนิยมพอๆกับไม้สัก เลยทีเดียว  ซึ่งสามารถพบเห็นได้ทุกภาคในประเทศไทย ยิ่งถ้าเป็นแถว น้ำตก,ลำธาร บ่อน้ำหรือบริเวณ จะเห็นได้เยอะมาก  นั่นเอง

โดยลำต้นจะมีขนาดที่ตรง และสูงประมาณ 50 เมตร  สีเทาเหลือบๆขาวเล็กน้อย เปลือกมีความหนา ส่วนโคนของต้นจะเป็นพูขึ้นมา ใบของต้นไม้ จะเป็นใบเดี่ยว รูปไข่  ปลายใบและโคนใบจะค่อนข้างบน  แต่ว่ามีความหนาไม่น้อย ผิวด้านบนจะเกลี้ยงและไม่มีรอยอะไร ส่วนด้านล่างของใบจะมีขนอยู่ประปราย สำหรับดอก นั้น จะเป็นช่อแบบสั้นๆ อยู่ตามปลายกิ่งไม่เยอะสักเท่าไรนัก สีออกขาวอมชมพู ซึ่งจะออกดอกให้ได้เห็นกัน ช่วงเดือนมีนาคม ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม และผลของต้น จะเป็นผลแห้ง ทรงจะเป็นรูปไข่ และรูปทรงกลม

 

 

เราสามารถ ปลูก ต้นยางนา เพื่อใช้แทนน้ำมันดีเซลได้ โดยน้ำมันจากต้นไม้ จะนำไปผลิตเป็นน้ำมัน    ไบโอดีเซล  และยังใช้กับเครื่องจักรในการเกษตรได้ดี อีกด้วย และมีผลการวิจัยออกมาว่า น้ำมันจากยางนา ช่วยลดต้นทุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งเราจะเริ่มเจาะน้ำมันจากต้นได้ หลังจากยางนา มีอายุตั้งแต่ 15-20 ปี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ด้วยการนำสว่านไปเจาะที่ต้นแบบเอียงประมาณ 45องศา ให้ห่างจากพื้นอยู่พอสมควร และเจาะเข้าไปให้ลึก พอจะให้น้ำมัน ออกมาได้ และก็ใช้ขวดพลาสติกต่อจุกสายยาง เสียบเข้าไปตรงรู หลังจากนั้นก็นำดินน้ำมันมาอุดรูไว้ไม่ให้สายหลุดออก แล้วรอให้น้ำมันจากต้นไหลลงมาในขวด ซึ่งจำเป็นจะต้องใช้เวลาเล็กน้อย โดยทิ้งไว้ทั้งหมด2-3วัน เราก็จะได้น้ำมันจากต้น ราว 600 มิลิตร และเราก็ย้ายไปเจาะบริเวณอื่นได้อีก

 

 

สำหรับรอยจากการเจาะเพื่อเอาน้ำมันจากต้น ต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือน เป็นอย่างต่ำ เพื่อให้เนื้อไม้ผสานตัวกลับมาเป็นเหมือนเดิม ตามธรรมชาติ ส่วนน้ำมันจากต้น เราจะนำไปเติม เครื่องสูบน้ำ,เครื่องตัดหญ้า,เครื่องจักรกล ก็ได้

โดยนอกจากนี้ วิธีผสมน้ำมันจากยางนา กับน้ำมันดีเซลครึ่งต่อครึ่ง จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้นานขึ้น จากตอนแรกที่ใช้น้ำมันดีเซล อย่างเดียว อยู่ได้เพียง 1 ชั่วโมง แต่ถ้าเกิดผสมรวมกันแล้วจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ ถึง3 ชั่วโมง ด้วยกัน เนื่องจากน้ำมันของ ยางนา ให้พลังงานที่สูงมาก และเคยมีการทดลองใช้ที่ศูนย์ในจังหวัดนครพนมแล้ว ก็พบว่าไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้น

 

 

ต้นยางนา ไม้เศรษฐกิจ ที่มีประโยชน์

 พันธุ์ไม้