วิธีกินฟ้าทะลายแบบสด

วิธีกินฟ้าทะลายแบบสด

วิธีกินฟ้าทะลายแบบสด

วิธีกินฟ้าทะลายแบบสด ต้นฟ้าทะลายโจร หรือต้นฟ้าทะลาย เป็นสมุนไพรที่เป็นที่รู้จักกันมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ ด้วยสรรพคุณอันโดดเด่นของต้นฟ้าทะลายจึงเป็นสมุนไพรที่ไม่ต้องผสมกับสมุนไพรตัวอื่นเพื่อเป็นตำรับยาในการรักษาอาการเจ็บป่วยหลายชนิด เรียกง่ายๆ ว่าใช้ต้นฟ้าทะลายอย่างเดียวจบ

ที่ตั้งต้นของฟ้าทะลายโจรจริงๆ มาจากประเทศจีน เดิมชื่อ “ชวนซินเหลียน” แปลได้ว่า “ดอกบัวในหัวใจ” เป็นสมุนไพรที่มีความหมายแสดงถึงความล้ำค่ามาก วงการแพทย์จีนยกย่องให้ขึ้นทำเนียบเป็นยาตำราหลวงที่มีคุณประโยชน์อย่างยิ่ง ต่อมาได้เผยแพร่เข้ามายังประเทศไทยได้ชื่อว่า “ฟ้าทะลายโจร” เปรียบกับโรคภัยเยี่ยงโจรและฟ้าเบื้องบนก็ประทานสมุนไพรตัวนี้ให้มาปราบ ความหมายอาจจะดูดุเดือดกว่า แต่ก็แสดงถึงพลังและฤทธิ์เดชในการปราบโรคภัยต่างๆได้อย่างชะงัด

 

 

ฟ้าทะลายมีสรรพคุณมากมายหลายประการ ทั้งแพทย์จีนและแพทย์ไทยในสมัยโบราณใช้เพื่อลดอาการไข้ ดับร้อน เจ็บคอ ฆ่าเชื้อ ลดพิษเพื่อยับยั้งไม่ให้เข้าเส้นลมปราณของปอดและหัวใจ ความสามารถของฟ้าทะลายนั้นมีมากมายเกินนับ จนเป็นสมุนไพรที่ชาวบ้านทั่วไปหาปลูกไว้เป็นยารักษาและบรรเทาอาการเจ็บไข้ได้เบื้องต้นโดยไม่ต้องไปหาหมอยา คุณสมบัติของฟ้าทะลายมีฤทธิ์เย็นมากกว่าสมุนไพรชนิดอื่นเนื่องจากมีรสขมซึ่งมีผลต่อพลังชี่ภายใน ดังนั้นการกินฟ้าทะลายจำเป็นต้องดูอาการของคนเจ็บว่าอยู่ในขั้นไหน ถ้าเป็นมากก็จะต้องให้หมอยาเป็นผู้ดูแลให้กินอย่างเหมาะสมกับร่างกายคนเจ็บ พร้อมทั้งปรับสมดุลร่างกายกับสมุนไพรตัวอื่น เพื่อไม่ให้ภายในร่างกายมีฤทธิ์เย็นมากเกินไป

 

การกินฟ้าทะลายโจรเพื่อเป็นยารักษาอาการเป็นไข้ ตัวร้อน ครั่นเนื้อตัว เจ็บคอ ที่ไม่มีอาการร้ายแรงอย่างอื่นร่วมด้วย เบื้องต้นมีหลายสูตร มีทั้งวิธีการกินฟ้าทะลายแบบสดและแห้ง การนำมาทำเป็นลูกกลอน การทำเป็นผง หรือแม้กระทั่งดองเหล้า แต่ถ้าวิธีที่เราทั่วไปพึ่งพาตนเองและทำได้ง่ายที่สุดก็จะเป็นวิธีการกินฟ้าทะลายแบบสด มีวิธีดังต่อไปนี้

การต้ม นำกิ่งและใบสดที่ต้นมีอายุ 3-5 เดือน ปริมาณ 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 3-4 แก้ว หลังจากน้ำเดือดให้รอ 10-15 นาทีจึงปิดไฟ รอให้อุ่นค่อยดื่ม และแบ่งดื่มให้ได้ 3-4 มื้อก่อนอาหารใน 1 วัน

การชง นำใบสดประมาณ 4-7 ใบใส่แก้วและเติมน้ำเดือดปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ดื่มก่อนอาหารวันละ 3-4 มื้อ

เคี้ยวใบสด นำใบสดล้างให้สะอาด 3-4 ใบ กลั้นใจเคี้ยวให้ละเอียดเพราะมันจะขมมากและกลืน วันละ 2-3 ครั้ง

 

 

 

 

 

 


 1000maidee.com

ต้นไผ่เลี้ยง

ต้นไผ่เลี้ยง

ต้นไผ่เลี้ยง

ต้นไผ่เลี้ยง ต้นไผ่ที่เรารู้จักก็มีอยู่หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะ ไผ่ตง ไผ่รวก ไผ่กอ ฯลฯ แต่ไผ่แบบไหนกันที่เหมาะจะนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ? นี่เลยค่ะ เราขอนำเสนอ “ไผ่เลี้ยง” ที่เหมาะนำมาแต่งสวนสวยสไตล์มินิมอลมาก อีกทั้งต้นยังนำไปใช้ทำประโยชน์ได้หลากหลายนอกจากปลูกเพื่อความสวยงามอีกด้วยนะ หากอยากรู้จักให้มากขึ้นแล้ว ไปดูพร้อม ๆ กันเลย

แน่นอนว่าต้นไผ่เลี้ยง (Bambusa multiplex) หลัก ๆ แล้วก็ต้องมีกำเนิดมาจากประเทศจีน  แต่ก็ยังพบได้ในพื้นที่อื่น ๆ อีก เช่น ไต้หวัน มาดากัสการ์ อินเดีย แต่น่าเสียดายที่ไม่มีในประเทศไทยนะคะ เพราะฉะนั้น ไผ่เลี้ยงที่เห็นในบ้านเรา มักเพาะมาจากต้นแม่ในต่างประเทศทั้งสิ้น ลักษณะของไผ่เลี้ยงจะแตกต่างจากชนิดอื่นคือ เป็นต้นไผ่ขนาดกลาง ลำต้นสีเขียวตั้งตรง ไม่มีหนาม ในหมู่คนรักการแต่งสวนแต่งบ้านมักนิยมปลูกเป็นไม้ประดับสวน หรือทำรั้วธรรมชาติ เสริมความมินิมอล เมื่อโตเต็มที่ ไผ่เลี้ยงอาจจะมีความสูงถึง 12 เมตร มีใบดก โดยเฉพาะบริเวณยอดของลำต้น ไผ่เลี้ยงจะให้หน่อไม้ช่วงเดือนพฤษภาคม-เดือนพฤศจิกายน สามารถเก็บไปรับประทานได้

 

 

  • วิธีปลูกไผ่เลี้ยง

หากต้องการเพาะพันธุ์ไผ่เลี้ยง ควรใช้วิธีแยกกอ และควรเพาะเมื่อไผ่มีอายุไม่เกิน 3 ปี เพื่อให้ได้ต้นไผ่ใหม่ที่แข็งแรง เมื่อนำต้นไผ่ไปปลูกลงแปลงควรเลือกที่ที่มีแสงอย่างเพียงพอ สามารถปลูกได้กับดินใดก็ได้ หากอยากปลูกหลายต้นเรียงกัน ควรเว้นระยะห่าง 60 เซนติเมตร

  • การดูแลไผ่เลี้ยง

หากอยากให้ไผ่เลี้ยงเจริญงอกงามได้ดีควรใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อย่างไรก็ตาม หากไม่อยากให้ไผ่ขยายพันธุ์ไปมาก ผู้ปลูกควรขยันแยกกอไผ่ไม่ให้เจริญเติบโตเพิ่มขึ้นไป เพื่อที่สวนสวยของเราจะยังคงความเป็นระเบียบและมินิมอล

 

 

สำหรับการแต่งสวน ไผ่เลี้ยงมักนิยมนำมาปลูกเป็นแนวรั้วดูมีความเป็นระเบียบ นอกจากนี้หากปลูกเป็นไม้ประดับในสวนที่มีพื้นที่กว้าง ๆ ยังสามารถปลูกเรียงกันไปเป็นสองฝั่งให้มีทางเดินตรงกลางเป็นเหมือนซุ้มไผ่ให้ความรู้สึกเหมือนได้เดินอยู่ในป่าไผ่ เพิ่มความรู้สึกเป็นธรรมชาติให้กับสวนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ประโยชน์ของต้นไม้ชนิดนี้ เรียกได้ว่าครบครันมาก เพราะลำต้น เมื่อโตเต็มที่แล้วสามารถตัดเอาไปทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ เช่น บันได โต๊ะ เก้าอี้ เป็นต้น ส่วนหน่อ แน่นอนว่ารับประทานได้ นำไปปรุงอาหารได้รสชาติดี และด้วยความที่พันธุ์ไผ่เลี้ยงไม่มีในประเทศไทย แต่เป็นที่นิยมปลูกกันมาก การเพาะพันธุ์ต้นไผ่ชนิดนี้ขายจึงสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรได้อย่างดีเดือนละหลายหมื่นเลยทีเดียว สำหรับใครที่อยากได้ช่องทางการทำเงินใหม่ละก็ ไผ่เลี้ยงอาจตอบโจทย์ค่ะ

 

 

 


 1000maidee.com

บอนสี ไม้ประดับยอดฮิต

บอนสี ไม้ประดับยอดฮิต

บอนสี ไม้ประดับยอดฮิต

บอนสี ไม้ประดับยอดฮิต ตอนนี้ ต้นบอน ได้กลายเป็นต้นไม้ที่ คนกำลังนิยมปลูกกัน และยังมีราคาที่ค่อนข้างสูงด้วย  เพราะว่าสามารถดูแลรักษาง่าย แถมยังทนต่อสภาพอากาศของประเทศไทย ที่มีทั้งแดดและความชื้นอีกด้วย ซึ่งราคาของต้นบอน จะอยู่ประมาณหลักหมื่น ไปจนถึงหลักแสนเลยทีเดียว

ลักษณะของใบก็จะมีความสวยงามที่ไม่เหมือนกัน ตามสายพันธุ์นั้นๆ โดยได้รับความนิยมมาตั้งแต่ สมัยโบราณแล้ว จึงทำให้ถูกเรียกว่า เป็นราชินีแห่งใบไม้ เลยก็ว่าได้ ซึ่ง ต้นบอนนั้น มีหลายชนิดด้วย กัน ยก     ตัว อย่างเช่น ต้นเศรษฐีพันล้าน,บอนเสือพราน,บอนอิเหนา และสามารถแยกตามประเภทสีได้ด้วย นั่นก็คือ บอนไม่กัดสี สีเดียวกันทั้งใบตั้งแต่ต้นเล็กไปจนโต ส่วนบอนกัดสี ตอนต้นเล็กจะเป็นอีกสีหนึ่ง พอโตแล้วก็จะเป็น อีกสีหนึ่ง บอนป้าย ก็จะมีแถบสีอยู่ที่ใบ ส่วนบ่อนด่าง  จะมีความด่างอยู่บนลวดลาดของใบ นั่นเอง

 

 

ตามตลาดต้นไม้พันธุ์ที่เราจะเห็นบ่อยสุด ก็คงจะเป็น บอนไทย  ซึ่งบางคนก็นำไปโชว์ และมีการสะสม แถมช่วงก่อนๆปลูกกันหลายบ้านเลยทีเดียว ราคาก็ค่อนข้างสูงมากๆ และยังมี บอนจีน ซึ่งมีพ่อค้าต้นไม้นำเข้ามาจากตู้คอนเทนเนอร์ จึงทำให้บอนจีน ในไทยมีจำนวนมากขึ้น  รวมถึง บอนฮอลแลนด์ ซึ่งบอนชนิดนี้ มาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ส่งไม้ใบเข้าไทยเป็นจำนวนมาก โดยพันธุ์นี้จะหายากเล็กน้อย เพราะต้องข้ามน้ำข้ามทะเลมา  เลยทำให้มีในไทยไม่เยอะ แถมยังราคาแพงสุดๆ

 

 

สำหรับ บอนสี นั้น มีความชื่นชอบแดดมากๆ โดยถึงอย่างไรก็ตาม อย่านำไปวางตรงแดดนานเกินไป เพราะว่ามีโอกาสที่จะทำให้ใบไหม้ได้ แต่ไม่ชอบลม เนื่องจากจะทำให้ใบฉีกได้ง่าย  ถ้าอยู่ในที่ ที่มีความชื้นมากจะยิ่งโตไวขึ้น ช่วงหน้าร้อนกับหน้าหนาว ที่มีความชื้นมาก จะเกิดการยุบตัว ทิ้งใบไปหมดจนเหลือแค่หัวเท่านั้น หรืออาจจะแตกใบใหม่  เราสามารถนำน้ำไปหล่อไว้ที่จานรองได้ เพื่อเป็นการแก้ไข หรือมีวิธีที่นักเล่นบอนเพื่อนำไปประกวด ทำกันบ่อยมากๆ ก็คือ นำบอนไปเลี้ยงในตู้อบ จะเลี้ยงอยู่ในกล่องพลาสติก หรือว่าถุงพลาสติก ก็ได้  แต่ต้องไม่ให้ความชื้นออกมาง่ายเกินไป และต้องให้แสงแดดเข้าถึงเพียงพอด้วย ซึ่งการเลี้ยงบอนอาจจะดูยาก แถมยังมีขั้นตอนมากมาย แต่ถ้าเกิดเราเลี้ยงพันธุ์ที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมและสภาพอากาศของประเทศไทย ยกตัวอย่างเช่น พันธุ์ฮกหลง  ที่คนจะปลูกเอาไว้ประดับตกแต่งบริเวณหน้าบ้าน เชื่อว่าจะต้องออกมาสวยงามแน่นอน

 

 

 


 1000maidee.com

มาทำความรู้จัก สมุนไพรต้นดีหมี กัน

มาทำความรู้จัก สมุนไพรต้นดีหมี กัน

มาทำความรู้จัก สมุนไพรต้นดีหมี กัน

มาทำความรู้จัก สมุนไพรต้นดีหมี กัน ต้องยอมรับว่าสมุนไพรมีมากมายหลายชนิด แต่ละชนิดก็มีสรรพคุณที่แตกต่างกันออกไป อยู่ที่ว่าจะใช้งานเกี่ยวกันอะไร ต้องการรักษาอาการแบบไหน หรือสมุนไพรบางตัวก็ใช้ในการบำรุงร่างกาย “สมุนไพรต้นดีหมี” หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Acalypha Spiciflora Burm.f. นอกจากนั้นยังมีชื่อเรียกตามภาษาถิ่น เช่น จังหวัดลำปางจะเรียกว่า ดินหมี, จังหวัดระนองจะเรียกว่า คัดไล, จังหวัดประจวบคีรีขันธ์จะเรียกว่า กาดาวกระจาย, จังหวัดสุราษฎร์ธานีจะเรียกว่า กาไลหรือ กำไล เป็นต้น ซึ่งเป็นสมุนไพรอีกตัวหนึ่งที่มีสรรพคุณมากมายในการรักษา มาทำความรู้จักกับสมุนไพรชนิดนี้ให้มากขึ้นดีกว่า มามีลักษณะแบบไหนและมีส่วนไหนบ้างที่สามารถนำมารักษาอาการต่างๆ ได้

 

 

พืชไม้สมุนไพรที่มีสรรพคุณเป็นยาอย่าง “ดีหมี” เป็นไม้ยืนต้นแบบไม่ผลัดใบในตระกูลของ EUPHORBIACEAE หรือวงศ์ยางพารา ขนาดของลำต้นจะสูงราว 10 – 20 เมตร มีสีออกดำเทา และเปลือกเกลี้ยงเกลา ใบของมันจะออกเรียงสลับตามกิ่ง เป็นใบเดี่ยวมีลักษณะวงรี ปลายมีลักษณะแหลมขอบหยักแบบใบเลื่อย ด้านใต้ของใบจะมีต่อมกระจายอยู่ ส่วนดอกของมันนั้นจะออกช่ออยู่ตามซอกของใบและปลายกิ่ง ดอกจะแยกเพศผู้และเพศเมีย ดอกตัวผู้จะเป็นช่อยาวมีดอกแยกย่อยเรียงอยู่ตามแกน เวลาที่ดอกบานจะมี 3 กลีบ ดอกตัวเมียจะเป็นดอกเดี่ยว มีกลีบออกมารองดอกจำนวน 5 กลีบ ผลของมันจะมีลัษณะเป็นทรงกลม สีขาวเป็นคู่ เวลาที่มันแก่จะแห้งจะแตกออกได้ ใช้เมล็ดในการขยายพันธุ์ สามารถเจริญเติบโตได้ในทุกสภาพดิน เพียงแค่มีความชื้นและมีแสงแดดปานกลางส่องรำไร ก็สามารถเติบโตได้เป็นอย่างดี มักจะพบได้ทางภาคใต, ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ในบริเวณที่เป็นป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น และป่าดงดิบริมน้ำ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลราว 400 – 800 เมตร

 

 

ประโยชน์ของ “สมุนไพรต้นดีหมี” นั้น มีมากมายในแต่ละส่วนของต้น มาดูกันว่าส่วนไหนมีสรรพคุณอย่างไร

  • ส่วนของเปลือกต้นสามารถนำมาต้มและดื่ม เป็นยารักษามะเร็ง, ลดอาการปวดท้อง, แก้ตับอักเสบ
  • ส่วนของแก่น มีสรรพคุณช่วยแก้ไข้ แก้ร้อนใน แก้อาการปวดศีรษะ สามารถนำมาต้มและดื่มเพื่อขับเหงื่อ
  • ส่วนของรากและใบ นอกจากการนำมาต้มดื่มแล้วยังสามารถนำน้ำที่ต้มมาอาบเพื่อรักษาอาการของไข้มาลาเรีย นอกจากนั้นใบของ สมุนไพรดีหมียังสามารถช่วยลกอาการผื่นคันได้ด้วย และรากสามารถนำมาต้มแก้อาการลมพิษในกระดูก
  • ส่วนของเมล็ดใช้เป็นยาระบาย

ต้องยอมรับว่าสรรพคุณของ สมุนไพรดีหมี นั้น มีไม่น้อยเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามควรใช้ในปริมาณที่พอดีไม่มากจนเกินไปและใช้อย่างถูกวิธี

 

 

 

 

 


 1000maidee.com

บอนกระดาดด่าง

ภาพบอนสีพร้อมชื่อ

ภาพบอนสีพร้อมชื่อ

ภาพบอนสีพร้อมชื่อ  บอนสีถือได้ว่าเป็นไม้ใบอีกชนิดหนึ่ง ที่ผู้คนให้ความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งนี้เป็นเพราะไม่เพียงแต่ พืชชนิดนี้จะเลี้ยงง่ายทั้งยังมีรูปทรง ที่หลากหลายจนดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์ตามสายพันธุ์แล้ว แต่บอนสีนั้นยังให้สีสันอันสวยงามที่ดูแปลกตาไม่เหมือนไม้ใบชนิดอื่นๆอีกด้วย นอกจากนี้ในปัจจุบันเรายังจะเห็นได้ว่าต้นบอนสีนั้นถูกนำมาพัฒนาสายพันธุ์เพื่อให้เกิดลวดลายรูปทรงและสีสันที่แปลกใหม่อยู่เสมอ ทั้งนี้สำหรับใครที่กำลังสนใจบอนสีและต้องการเริ่มต้นเลี้ยงพืชชนิดนี้แต่ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ ในวันนี้เราได้รวบภาพบอลสีพร้อมชื่อของแต่ละสายพันธุ์มาฝากกัน ซึ่งรับรองได้เลยว่าแต่ละสายพันธุ์นั้นเลี้ยงง่ายโตเร็วและไม่ยุ่งยากเหมาะสำหรับผู้เลี้ยงมือใหม่อย่างแน่นอน

  1. หน้ากากฟาโรห์

สัมภาษณ์สายพันธุ์นี้ เธอเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งถูกนำเข้ามาเลี้ยงในเมืองไทย โดยบอนสีหน้ากากฟาโรห์ นั้นจะสังเกตลักษณะทางกายภาพ ที่ดูมีรูปทรงประหลาดแปลกตา โดยจากการที่ขอบใบของบอนสีสายพันธุ์นี้จะม้วนออกไปทางด้านหลังทำให้มองดูคล้ายกับหน้ากาก นอกจากนี้บอนสีสายพันธุ์นี้ยังมีเส้นขอบใบที่เป็นสีเข้มตัดกับใบจนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของบอนสีสายพันธุ์หน้ากากฟาโรห์เลยทีเดียว


  1. ชายชล

สำหรับต้นบอนสีสายพันธุ์นี้ ได้รับการตั้งชื่อมาจากอาคารชายชลนั่นเอง โดยความสวยงามของบอลสีชายชลนั้น การันตีได้จากการเคยได้รับรางวัลชนะเลิศ จากการประกวดนะสวนหลวง ร 9 มาก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ลักษณะพิเศษของบอนสีสายพันธุ์นี้ ก็คือลวดลายบนใบที่เป็นสีแดงตัดกับสีเขียว นอกจากนี้ยังมีจุดด่างสีขาวกระจาย ตลอดอยู่ท่วม พื้นที่ของใบอีกด้วย


  1. กวนอิม

สำหรับบอนสีชนิดนี้ ถือว่าเป็นสายพันธุ์เก่าแก่ ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเลยทีเดียว ทั้งนี้จุดเด่นของบอนสีกวนอิมนั่นก็คือ พื้นใบสีขาว ที่ตัดกับเส้นขอบใบสีเขียวเข้ม นอกจากนี้ยังเพิ่มความสวยงามโดดเด่นด้วยการกระจายจุดเม็ดสีแดงอยู่ตลอดทั่วทั้งใบนั่นเอง


  1. บอนใบถ้วย

สำหรับบอลต้นบอนสี สายพันธุ์นี้ มีความสวยงามและเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนนั่นก็คือ ใบสีเขียวที่มีลักษณะของตัวคล้ายกับรูปทรงของถ้วย รวมไปถึงก้านสีดำที่ตั้งตรงพุ่งขึ้นสูง นอกจากนี้ยังเส้นบริเวณขอบใบยังมองเห็นเป็นสีเข้มซึ่งตัดกับสีเขียวแก่บนใบได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ต้นบอนสีชนิดนี้หากถูกนำไปเลี้ยงในพื้นที่ที่เหมาะสมแล้วเราก็ ก้านใบนั้นก็จะสามารถตั้งตรงและมีความสูงมากกว่า 100 cm เลยทีเดียว


  1. บอนกระดาดด่าง

ปัจจุบันนอกเหนือจากความนิยมของบอนสีแล้ว ความนิยมของไม้ที่มีสีด่างบนใบนั้นก็ยังเป็นอีกหนึ่งเช่นความนิยมที่ควบคู่กันมา ก็เห็นนี่เองบนกระดาดด่าง ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ของบอนสีทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน และถือเป็นต้นบอนอีก 1 ชนิด ที่ตลาดต้องการเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ภาพบอนสีพร้อมชื่อ


และทั้งหมดนี้คือภาพและชื่อบอนสี ของแต่ละสายพันธ์ยอดนิยมที่เราได้รวบรวมมาฝากกัน ซึ่งปัจจุบันนี้ ความนิยมในการปลูกต้นบอนสีนั้น ไม่ได้มีเพียงเอาไว้เพื่อความสวยงาม หรือประดับตกแต่งบ้านและสวนเท่านั้น แต่ทว่าในสังคมไทย ยังมีอีกหลายต่อหลายคนเลยที่เดียวที่มีความเชื่อว่า ไม้สวยงามชนิดนี้ ใช้ปลูกในบ้านเพื่อเสริมสร้างศิริมงคลและโชคลาภให้กับผู้ปลูกและผู้อยู่อาศัยภายในบ้านอีกด้วย

 

 


 1000maidee.com

 

 

โรสแมรี

โรสแมรี

โรสแมรี

โรสแมรี เชื่อว่าใครที่ชอบทำอาหาร หรือชอบไม้ดอกไม้ประดับกลิ่นหอมจะต้องชอบ “ต้นโรสแมรี” อย่างแน่นอน เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นสมุนไพรฝรั่ง มีสรรพคุณทางยาเยอะมาก ๆ นอกจากนี้กิ่งของมันยังสามารถตัดนำไปประดับขนมหรือเครื่องดื่มให้ความรู้สึกมินิมอลอีกด้วย แม้ว่าต้นโรสแมรีจะเป็นไม้เมืองหนาว แต่เห็นมีหลายคนนำไปปลูกแต่งสวน หรือแต่งบ้านกันเยอะมาก ๆ เราไปดูกันดีไหมคะว่าเจ้าต้นนี้ปลูกยังไงถึงจะรอด

ไม้ประดับอย่างต้นโรสแมรีนี้ ความจริงแล้วมีหลายสายพันธุ์ เช่น โรสแมรีขนนก เฟรนช์โรสแมรี คอมมอนโรสแมรี และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งอาจขึ้นเป็นพุ่ม หรือเลื้อยขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ หากขึ้นเป็นพุ่ม เมื่อโตเต็มที่แล้วจะสูงได้ถึง 2 เมตรเลยทีเดียว ใบของต้นไม้ชนิดนี้มีจุดเด่นและดูมินิมอลมาก ๆ เพราะลักษณะใบจะเรียวและแหลม มีสีเขียว นอกจากนี้ยังมีดอกสวยสีขาว ออกเป็นช่อตามโคนใบอีกด้วย และหากใครยังไม่รู้ ต้นโรสแมรีก็มีผลด้วยนะเออ

  • วิธีปลูกต้นโรสแมรี

การจะปลูกต้นโรสแมรีเป็นไม้ดอกหรือไม้ประดับในบ้านควรเลือกดินร่วนซุยในการปลูก เพราะโรสแมรีไม่ชอบน้ำขัง มีอากาศถ่ายเทได้ดี เพราะจะช่วยลดการสะสมของโรค  เพื่อน ๆ อาจหากาบมะพร้าว ดินใบก้ามปู และแกลบมาผสมร่วมด้วย สำหรับการรดน้ำ ควรรดในช่วงเช้าบริเวณโคนต้น และลดปริมาณน้ำในฤดูฝน มิฉะนั้นดินจะเปียกชื้นเกินไป จนส่งผลให้ต้นเหี่ยว รากเน่า ส่วนเรื่องแสงก็สำคัญ ควรเลือกที่ปลูกที่แสงแดดส่องถึงอยู่เสมอ เพราะจะลดโรคของต้นไม้ได้

  • การดูแลต้นโรสแมรี

วิธีการดูแลอย่างหนึ่งคือการตัดแต่งกิ่ง เพื่อน ๆ สามารถเลือกตัดกิ่งออกได้ตามรูปทรงที่เราต้องการ การหมั่นเล็มออกบ่อย ๆ ไม่ให้ไม้ประดับชนิดนี้ขึ้นหนาแน่นจนเกินไปจะช่วยป้องกันเรื่องเชื้อราได้ นอกจากนั้นเมื่อปลูกต้นโรสแมรีประดับไว้ในบ้าน หรือแต่งสวน ผู้ปลูกมักจะต้องเจอกับ “เพลี้ย” หากเจอให้รีบตัดทิ้ง หรือพ่นด้วยน้ำยาชีวภาพ

ต้นโรสแมรี่เป็นหนึ่งในพืชสมุนไพรที่ให้น้ำมันหอมระเหย มีสรรพคุณสามารถไล่แมลงได้ นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิว ลดการอักเสบ กลิ่นหอมสดชื่นของต้นไม้ชนิดนี้ทำให้นิยมนำไปปรุงอาหารเมนูฝรั่งต่าง ๆ หรือประดับจานให้ดูมินิมอลก็ได้เช่นกัน ปัจจุบัน บรรดานักแต่งบ้างนอกจากจะปลูกเป็นไม้ประดับแต่งสวนให้ดูไฮโซสวยงามแล้ว หลายคนยังปลูกต้นโรสแมรีเอาไว้ไล่ยุงอีกด้วย

 

 


 1000maidee.com

ต้นสนฉัตร

ต้นสนฉัตร

ต้นสนฉัตร

ต้นสนฉัตร เชื่อว่านักแต่งบ้านแต่งสวนหลายๆ คนน่าจะเคยเห็นไม้ยืนต้นที่มีทรงพุ่มเหมือนต้นคริสต์มาสกันแน่ ๆ แต่อาจจะยังไม่ค่อยรู้จักนักว่ามันเรียกว่าต้นไม้อะไร ขอตอบว่านั่นคือต้น “สนฉัตร” ค่ะ ด้วยจุดเด่นเหมือนต้นสนตามต่างประเทศอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของคนรักต้นไม้ แต่ขนาดที่ใหญ่มาก ๆ ของมันจึงอาจจะต้องกลับมาคิดอีกที และวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักพร้อม ๆ กันเลย

ที่มาของชื่อ “สนฉัตร” (Norfolk lsland Pine) นี้ มาจากลักษณะการแตกใบเป็นชั้น ๆ คล้ายกับฉัตรของเจ้านายในรั้วในวัง เมื่อนำไปปลูกที่ไหนจึงมักจะดูโดดเด่น นั่นเพราะดูไม่เหมือนต้นไม้ในเขตร้อนของประเทศไทย ต้นสนฉัตรเป็นไม้ยืนต้นที่เรียกได้ว่าใหญ่มาก หากโตเต็มที่อาจสูงได้ถึง 60 เมตร และอาจกว้างได้ถึง 3 เมตรเลยทีเดียว อายุยืนนาน ดังนั้นหากบ้านไหนจะปลูกแต่งสวน ก็ต้องมั่นใจว่ามีพื้นที่กว้างมากจริง ๆ สายพันธุ์ของสนฉัตรมีหลายหลายมากค่ะ แต่ที่ดูจะเหมาะกับประเทศไทยจริง ๆ ก็ต้องยกให้พันธุ์ ARAUCARIA EXCELSA ซึ่งมีต้นกำเนิดจากประเทศอเมริกาเลย

 

 

  • วิธีปลูกต้นสนฉัตร

สามารถเลือกปลูกได้ทั้งแบบลงดิน และลงในกระถาง หากอยากให้ต้นไม้โตเร็วและสูงควรปลูกแบบเพาะเมล็ด แต่หากไม่อยากให้มีลำต้นใหญ่ เหมาะกับการใช้เป็นไม้ประดับแต่งสวน ให้ใช้วิธีปลูกแบบปักชำ ดินที่ใช้ควรเป็นดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ต้นสนฉัตรจะชอบแดดจัด ควรรดน้ำสามวันครั้ง

 

 

 

  • การดูแลต้นสนฉัตร

การโดนลมหรือแสงแดดจะส่งผลต่อการเติบโตของต้น ควรปลูกต้นไม้ชนิดนี้ ในที่ที่มีลมปะทะไม่แรงมากนักเพื่อป้องกันใบร่วง และหากปลูกในกระถาง ควรหมั่นหมุนกระถางให้ลำต้นเข้าหาแดด เพราะต้นสนฉัตรมักโน้มลำต้นไปหาด้านที่มีแดดจัดมากกว่า จึงควรทำให้ต้นไม้ตั้งตรงเพื่อความสวยงาม นอกจากนี้กรณีเจอเชื้อราที่ทำให้ใบเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ควรใช้ยากำจัดเชื้อราฉีดป้องกันทุก 1-2 เดือน

แน่นอนว่าต้นสนฉัตรนี้ยังขึ้นชื่อว่าเป็นไม้ประดับมงคลเช่นกัน เพราะรูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร เมื่อนำไปปลูกไว้ที่บ้านแล้วจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ดูเด่นสง่า เป็นที่เชิดหน้าชูตาของเจ้าของบ้าน การหาซื้อต้นสนฉัตรมาแต่งบ้านและสวนสวย สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายต้นไม้ทั่วไป ราคาจะแตกต่างกันไปตามขนาด มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน

 

 

 

 

 

 


 1000maidee.com

ต้นกระเช้าสีดา

ต้นกระเช้าสีดา

ต้นกระเช้าสีดา

ต้นกระเช้าสีดา ต้นไม้ที่หลายคนกำลังเข้าใจผิด จริง ๆ แล้วกระเช้าสีดาไม่ใช่กาฝาก แต่เป็นไม้เถาที่มีเนื้อแข็ง และใช้รากในการดำรงชีวิตเอง โดยไม่ต้องพึ่งดิน และที่สำคัญต้นกระเช้าสีดาไม่ได้เป็นเพียงแค่ไม้ประดับ แต่ยังมีความสามารถมากมายที่หลายคนยังไม่รู้ วันนี้เราจะมาแชร์เรื่องราวของต้นกระเช้าสีดา ต้นไม้หน้าตาแปลกแบบมหัศจรรย์ มีคุณประโยชน์มากมายมากกว่าที่ใครนึกถึง มาดูกันว่าจะเป็นอย่างไร

ลักษณะของต้นกระเช้าสีดา เป็นไม้เถาที่ใช้รากในการเลื้อยตามหน้าดิน และในอีกตระกูลหนึ่งของกระเช้าสีดาสามารถดำรงชีวิตโดยไม่ต้องพึ่งดินก็สามารถอยู่ได้

  1. ลักษณะใบของต้นกระเช้าสีดา จะเป็นใบเลี้ยงเดี่ยว มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมเรียงสลับด้านกันตามกิ่งก้านขิงต้น
  2. ลักษณะดอกของต้นกระเช้าสีดา รูปร่างจะเป็นลักษณะคล้ายกระเช้าและกลีบดอกจะมีเพียงกลีบเดียวที่หุ้มติดกัน พองออกเป็นรูปวงกลม และงอกออกมาเป็นลักษณะพวง มีสีเขียวอ่อนเมื่อแก่จะค่อย ๆเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มและสีน้ำตาล และที่สำคัญใบมีกลิ่นเหม็น
  3. ผลของต้นกระเช้าสีดาจะมีลักษณะเรียวยาว แต่ไม่ถึงกับยาวมาก บริเวณหุ้มผลจะมีเปลือกหุ้มทั้งหมด 6 แฉก ต้นอ่อนจะมองเห็นเป็นลักษณะรูปไข่ เมื่อผลเริ่มแก่บริเวณเปลือกหุ้มจากค่อย ๆ แตกออกและกระจายเป็นแฉกคล้ายดอกไม้

 

 

ประโยชน์หรือสรรพคุณของต้นกระเช้าสีดา ต้นกระเช้าสีดาถือว่าเป็นพรรณไม้ที่มีประโยชน์หลากหลายและใช้ได้เกือบทุกองค์ประกอบ โดยเฉพาะส่วนรากถือว่าเป็นสมุนไพรชั้นดี ที่คนสมัยก่อนชอบใช้ รากของต้นกระเช้าสีดามีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย และรักษาอาการวิงเวียน อาเจียน ช่วยขับลม

และสำหรับใครที่เห็นในละครชอบเอาใบไม้มาพอกเมื่อถูกงูกัด สิ่งนั้นคือ ใบของต้นกระเช้าสีดา  สามารถนำมาตำ เคี้ยว หรือบดละเอียด และนำไปพอกที่บริเวณถูกพิษงู

และที่สำคัญรากของต้นกระเช้าสีดา หรือหัวที่อยู่ใต้ดินนั้น ตามความสูตรสมุนไพรโบราณแล้ว หากนำมาต้มและดื่ม ถือว่าเป็นยาอายุวัฒนะ

 

 

วิธีการขยายพันธุ์ต้นกระเช้าสีดา จะใช้วิธีการขยายพันธุ์แบบธรรมชาติด้วยการแตกหนอ และขยายพันธุ์ทางสปอร์ ในผลของกระเช้าสีดา

เป็นอย่างไรบ้างกับเรื่องราวของต้นกระเช้าสีดาที่นำมาฝากในวันนี้ หากใครที่ยังไม่เข้าใจว่าทำไมบางเว็บไซต์ถึงมีรูปภาพของต้นกระเช้าสีดา ที่มีหน้าตาแตกต่างไปจากที่กล่าวข้างต้น ความจริงแล้วต้นกระเช้าสีดามีชื่อท้องถิ่นอยู่ 2 สกุล

สกุลแรกก็คือสกุลกระเช้าสีดา จะมีลักษณะเหมือนที่อธิบายข้างต้น และมีสรรพคุณคุณภาพประโยชน์เหมือนสมุนไพรไทยที่ใช้ทั่วไป

ส่วนสกุลที่ 2 เป็นสกุลห่อข้าวสีดา ลักษณะสกุลห่อข้าวสีดาจะมีรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างจากกระเช้าสีดา โดยมีใบเป็นเปลือกหนาหุ้มต้นไม้ จะเห็นได้ว่าใช้รากในการยึดติดกับวัตถุ หรือต้นไม้ขนาดใหญ่ มีใบใหญ่และหนากว่า คล้ายรูปปะการัง

 

 


 1000maidee.com

ต้นบอนสี ไม้มงคล

ต้นบอนสี ไม้มงคล

ต้นบอนสีไม้มงคล

ต้นบอนสี ไม้มงคล  ปัจจุบันเทรนด์การปลูกต้นไม้ เพื่อประดับตกแต่งตามส่วนต่างๆภายในบ้านนั้น ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากเลยทีเดียว โดยจะเห็น เป็นความนิยมนี้ได้จาก ภาพต่างๆบน Social Network หลายหลายช่องทาง ของผู้คนมากมายที่มักถ่ายรูปมาแบ่งปัน  อย่างไรก็ตามสำหรับไม้ใบหรือไม้ดอกที่ผู้คนสนใจและนิยมปลูกกันนั้น ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน แต่หากจะพูดถึงหนึ่งในสายพันธุ์ที่ผู้คนนิยมเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีความโดดเด่น ทางด้านรูปลักษณ์ และสีสัน เชื่อว่าหลายๆคนคงจะต้องนึกถึง ราชินีไม้ใบ (Queen of the Leafy Plants) อย่างบอนสีแน่นอน

สำหรับต้นบอนสีนั้น ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ของพืชใบ ที่อยู่คู่กับวงการไม้ประดับของไทยมาอย่างยาวนาน ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า ไม้ไทยพาณิชย์ ไม่เพียงแต่จะมีความโดดเด่นในเรื่องของรูปทรงใบ และขนาดของลำต้นที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายเท่านั้น แต่อีก 1 จุดเด่นสำคัญที่ผู้คนชื่นชอบนั่นก็คือ สีสันของใบที่มีความแตกต่างกันตามแต่ละสายพันธุ์ อีกทั้งพืชชนิดนี้ยังเลี้ยงง่ายโตไวไม่เป็นภาระของผู้ดูแล นอกจากนี้ไม่เพียงแต่ความสวยงามเท่านั้น แต่ผู้คนมากมาย ยังเชื่อกันอีกว่า ต้นบอนสี คือไม้มงคล ที่จะนำพาโชคลาภมาสู่ผู้ปลูกอีกด้วย

ความเชื่อเกี่ยวกับบอนสีไม้มงคล

สำหรับความเชื่อเกี่ยวกับบอนสี ไม้มงคล นั้น สันนิษฐานกันว่าน่าจะเกิดจากช่วงที่ต้นบอนสีถูกนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยใหม่ๆ บริเวณบ้านพักของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้านายชั้นสูงในประเทศ จนต่อมาได้มีการขยายพันธุ์ออกไปสู่ผู้คนทั่วไป ทำให้หลายๆคนเชื่อกันว่า การปลูกไม้ชนิดนี้เอาไว้ภายในบ้านนั้น จะทำให้ผู้คนในบ้านอยู่เย็นเป็นสุข เสริมสร้างสิริมงคลให้แก่ผู้อยู่อาศัยนั่นเอง

สายพันธุ์บอนสีไม้มงคลที่ผู้คนนิยมปลูกในปัจจุบัน

ในส่วนของสายพันธุ์บอนสีไม้มงคลที่ผู้คนนิยมปลูกกันในปัจจุบันนั้น มีอยู่ด้วยกัน 5 สายพันธุ์ดังต่อไปนี้

  1. บอนสีมิ่งมหามงคล

ลักษณะเด่นของสายพันธุ์นี้คือใบขนาดใหญ่ที่มีสีแดงสด ซึ่งมาพร้อมกับเส้นสายสีเขียวเข้มบนใบซึ่งมองดูแล้วสวยงามตัดกันเป็นอย่างดี โดยในส่วนของความเชื่อนั้นผู้คนเชื่อกันว่าการปลูกบอนสีมิ่งมหามงคลเอาไว้ในบ้าน จะเป็นการช่วยส่งเสริมกิจการต่างๆให้ประสบความสำเร็จ ช่วยส่งเสริมบารมีให้กับคนในบ้าน รวมไปถึงเสริมสร้างสิริมงคลและขจัดภัยต่างๆไม่ให้มากล้ำกราย


  1. บอนสีม่วงมงคล

ลักษณะเด่นของสายพันธุ์นี้คือใบแก่ขนาดใหญ่ที่มีสีแดงเข้มอมม่วง และใบอ่อนที่มีสีเขียวออกขาว โดยบอนสีสายพันธุ์นี้ ได้รับการยกย่องให้เป็นบอนที่ปลูกเพื่อเป็นตัวแทนแห่งความสำเร็จ และจะส่งเสริมความรักของสามีภรรยาที่อาศัยอยู่ภายในบ้านให้ราบรื่นด้วยดีตลอดไป


  1. บอนสีจอมทัพ

ลักษณะเด่นของบอนสีสายพันธุ์นี้คือ ใครทรงกลมขนาดใหญ่ที่มีขอบหยักเป็นเส้นสาย เล็กน้อย โดยแต่ละใบนั้นจะมองเห็นเป็นสีแดง เข้มผสมกับสีเขียวซึ่งความอ่อนแก่ของสีคนแต่ละใบนั้นจะดูแตกต่างกันออกไป ซึ่งว่ากันว่าการปลูกบอนสีสายพันธุ์นี้เอาไว้จะคอยดูแลคุ้มครองป้องกันภัยร้ายต่างๆให้กับผู้อยู่อาศัยภายในบ้านนั่นเอง


  1. บอนสี บ่อเงิน

ลักษณะเด่นของบอนสีสายพันธุ์นี้ก็คือ ใบขนาดใหญ่ที่มีเส้นขอบหยัก ซึ่งลวดลายบนใบนั้นดูสวยงามด้วยการไล่เฉดสีขาวจากบริเวณกางไปออกไปจนกลายเป็นสีเขียวเข้มบริเวณเส้นขอบใบ ซึ่งจะให้เฉดสีที่ตัดกัน มองดูแล้วสวยงามเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ในส่วนของความเชื่อนั้นผู้คน เชื่อกันว่าการปลูกบอนสีบรอนซ์เงินเอาไว้ในบ้านนั้น จะเป็นการช่วยส่งเสริมโชคลาภเงินทองให้กับผู้อาศัยนั่นเอง


  1. บอนสีฮกหลง

ลักษณะเด่นของสายพันธุ์นี้คือลวดลายบนใบแต่ละใบจะมีลักษณะเป็นสีด่างผสมกันระหว่างแดง ชมพู และเขียวเข้ม ซึ่งมองดูแตกต่างกันออกไปเป็นลวดลายเฉพาะตัวของแต่ละใบ ด้วยความสวยงามนี้ได้รับการขนานนามว่าบอนสีฮกหลงนั้นคือราชินีแห่งฤดูฝนเลยทีเดียว ซึ่งผู้คนเชื่อกันว่าการปลูกบอนสีฮกหลงนั้นจะช่วยเสริม บารมี วาสนา และโชคลาภให้กับผู้ปลูกและผู้อยู่อาศัยภายในบ้านที่ปลูกบอนสีสายพันธุ์นี้เอาไว้นั่นเอง

ต้นบอนสี ไม้มงคล

 

 

ต้นบอนสี ไม้มงคล


 1000maidee.com

ต้นบอนสี

ต้นบอนสี

ต้นบอนสี

ต้นบอนสี ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าเทรนความนิยมการปลูกไม้ใบเพื่อประดับตกแต่งตามมุมต่างๆของบ้านหรือภายในส่วนนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งความนิยมที่กำลังมาแรงอย่างมากเลยทีเดียวในประเทศไทย โดยจะเห็นได้ว่าผลของความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นนั้นส่งผลให้ราคาไม้ใบในตลาดซื้อขายปัจจุบันดีดตัวขึ้นไปสูงมากกว่าในอดีตหลายเท่าตัว แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่า ราคาจะสูงมากเท่าไร แต่ความนิยมในตระกูลไม้ใบนั้น ก็ยังคงไม่ลดลงอยู่ดี

และหนึ่งในไม้ใบที่ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจเป็นอย่างมากในปัจจุบันนั่น ซึ่งต้นไม้ชนิดนี้ถือเป็นไม้ใบที่มีลักษณะความสวยงามของต้นและใบเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้บอนสี ยังมีความสวยงามของสีและลวดลายบนใบที่ไม่ดูแตกต่างกันออกไปตามแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งความสนุกของกลุ่มคนรักต้นไม้ ที่จะเลือกซื้อหาต้นบอนสี ลวดลายต่างๆ มาประดับตกแต่งเอาไว้ในบ้านของตนเลยทีเดียว ทั้งนี้สำหรับใคร ก็ตามที่เป็นสาวกของไม้ใบ ชนิดนี้เช่นเดียวกัน ในวันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับต้นบอนสีให้มากขึ้นกัน

 

 

ลักษณะทั่วไปและสายพันธุ์ของต้นบอนสี

สำหรับต้นบอนสีสายพันธุ์ที่ผู้คนนิยมเลี้ยงกันอยู่ในปัจจุบันนั้นได้แก่บอนสีสกุล คาลาเดียม(Caladium) วงศ์ Araceae  โดยสายพันธุ์นี้จะมีหัวคอยดูดซับสารอาหารอยู่ใต้ดินซึ่งดูมีลักษณะคล้ายกับหัวมันฝรั่ง ในส่วนของใบนั้นจะมีขนาดและรูปทรงที่แตกต่างกันไป ตามที่มองเห็นไม่ว่าจะเป็นรูปสามเหลี่ยม รูปวงรี และ รูปหัวใจ นอกจากนี้ความสวยงามของบอนสีที่ทำให้ได้รับความนิยมนั่นก็คือลวดลายและสีสันที่แตกต่างกันบนใบของต้นบอนสีนั่นเอง โดยสีของต้นบอนสีที่พบได้มากในปัจจุบันได้แก่สีชมพู สีแดง สีเหลือง สีขาว และสีเขียว เป็นต้น นอกจากนี้ในส่วนของการใบนั้น มีลักษณะเป็นทรงกลมโดยมีทั้งแบบสั้นและแบบยาว ช่อดอกของบอนสี จะมีลักษณะเป็นช่อ แบบเชิงลดและมีกาบห่อหุ้ม ทั้งนี้ช่อดอกของบอนสีนั้น มีทั้งช่อดอกเพศเมียและช่อดอกเพศผู้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะให้ความสวยงามเท่านั้นแต่ดอกของต้นบอนสียังจะส่งกลิ่นหอมอ่อนๆในเวลาช่วงตอนเย็นอีกด้วย

วิธีเลี้ยงและดูแลต้นบอนสี

สำหรับต้นบอนสีนั้น โดยธรรมชาติแล้ว เป็นพันธุ์ไม้ที่มีความต้องการน้ำและความชื้น ในระดับสูง นอกจากนี้พื้นที่สำหรับเลี้ยง ยังจะต้องมีแสงแดดส่องรำไร อีกทั้งยังต้องไม่ อยู่ในสภาวะอากาศที่ร้อนอบอ้าวจนเกินไปอีกด้วย

บอนนั้นจะมีการพักตัว เมื่อฤดูหนาวมาถึงโดยสามารถสังเกตได้จากการผลัดใบ บนต้นออกทั้งหมด และจะเหลือไว้เพียงหัวที่อยู่ใต้ดินสำหรับคอยดูดซับสารอาหารต่างๆเท่านั้น ทั้งนี้หากฤดูหนาวผ่านพ้นไปจนเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน บอลสีก็จะทำการปิดไฟและเจริญเติบโตขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้การจะเลี้ยงบอลสีให้มีใบออกทั้งปีรัฐสามารถทำได้โดยการเลี้ยงในพื้นที่ปิดและรักษาอุณหภูมิความชื้นให้คงที่นั่นเอง

 

 

สายพันธุ์บอนสีที่นิยมเลี้ยงกันในปัจจุบัน

ในส่วนของสายพันธุ์ของต้นบอนสีที่ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจและนิยมปลูกกันในปัจจุบันนั้นมีอยู่มากมายหลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน โดยสามารถยกตัวอย่างบางสายพันธุ์ได้ดังต่อไปนี้

  • โพสแมนจอยเนอร์ (PostmanJoyner)
  • พิ้งคิ์บิวตี้(PinkBeauty)
  • อิเหนา (Angel Wing)
  • ฮกหลง (Thai Beauty)

และทั้งหมดนี้คือรายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับบอนสีที่มือใหม่ควรจะต้องรู้เอาไว้ อย่างไรก็ตาม การจัดเรียงความถี่ให้ประสบความสำเร็จได้นั้นยังจะต้องมีรายละเอียดอื่นๆที่ต้องศึกษาเพิ่มเติม นอกจากนี้ สำหรับมือใหม่ที่ ยังไม่เคยเลี้ยงพืชชนิดนี้มาก่อน การขอคำแนะนำจากผู้ที่ มีประสบการณ์นั้นก็จะเป็นอีกหนึ่งวิธีการเรียนรู้ที่ช่วย ให้ เข้าใจแนวทางในการเลี้ยงบอลสีได้มากขึ้นอีกไม่น้อยเลยทีเดียว

ต้นบอนสี



 1000maidee.com