วิธีการเพาะเมล็ดฟ้าทะลายไพร

วิธีการเพาะเมล็ดฟ้าทะลายไพร

วิธีการเพาะเมล็ดฟ้าทะลายไพร

วิธีการเพาะเมล็ดฟ้าทะลายไพร ฟ้าทะลายโจร จะเรียกได้ว่าเป็นสมุนไพรฟ้าประทานมาเลยก็ว่าได้ ต้นอะไรทำไมถึงเก่งกาจได้ขนาดนี้ แซงหน้าทะลุพืชสมุนไพรชนิดอื่นมาเลย อย่างนี้เค้าเรียก “ฟ้าทะลายไพรมาเกิดชัดๆ” อันนี้ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ แต่ถ้าคุณได้รู้ข้อดีและคุณประโยชน์ทั้งหมดของฟ้าทะลายไพรแล้ว คุณจะมีอึ้งแน่นอน

กรมวิชาการเกษตร เปิดตัวคู่มือ การผลิตฟ้าทะลายโจรสำหรับเกษตรกร -  เทคโนโลยีชาวบ้าน
วิธีการเพาะเมล็ดฟ้าทะลายไพร

นอกจากจะสามารถ รักษาอาการหวั เป็นไข้ ตัวร้อน เจ็บคอ ท้องเสีย ที่ระบุไว้ในบัญชียาหลักแห่งชาติแล้ว ตามตำรายาสมุนไพรไทยมีระบุไว้อีกมากมาย เช่น ผดผื่น บำรุงสายตา เป็นต้น ส่วนการแพทย์สมัยใหม่มีการวิจัยที่ให้ผลว่า สามารถชะลอวัย ต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่สำคัญสามารถทำลายและยับยั้งทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ ยกตัวอย่างเช่น มีการวิจัยและพัฒนาสกัดสารแอนโดรกราโฟไลด์

เป็นชนิดยาทาชนิดครีมเพื่อทำลายเชื้อไวรัสเริมได้ หรือแม้กระทั่งมีความสามารถเทียบเท่ายาเพนนิซิลลิน ซึ่งเมื่อใดที่เกิดอาการอักเสบติดเชื้อสามารถใช้ทดแทนยาแก้อักเสบได้ และไม่ทำให้เกิด อันตรายจากการต่อต้านดื้อยา ของร่างกาย และนี่แค่ส่วนหนึ่งที่ยกตัวอย่างมาให้ได้ทราบเพิ่มเติมกัน เพราะข้อมูลส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้มีการเปิดเผยอย่างแพร่หลายมากนัก ทั้งที่มีงานวิจัยของสถาบันที่น่าเชื่อถือรองรับ แต่คนไทยก็ยังรู้จักสรรพคุณ ของฟ้าทะลายโจรชนิดที่เรียกว่า แคบเอามากๆ

การขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดฟ้าทะลายไพร มีวิธีดังนี้

  1. การเตรียมดิน ควรเป็นดินร่วนซุยระบายน้ำได้ดี ผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก และขุยมะพร้าว ผสมกันด้วยอัตราส่วน 1:1:1 และตากทิ้งไว้ประมาณ 2 อาทิตย์
  2. นำเมล็ดแกะออกจากฝัก ถ้าฝักแก่สามารถโรยปลูกบนดินที่เตรียมไว้ได้เลย แต่ถ้าเป็นฝักที่ยังไม่แก่ให้แกะเมล็ดแล้วนำไปแช่น้ำอุ่นทิ้งไว้ 1 คืน หรือประมาณ 6-12 ชั่วโมง
  3. คัดแยกเมล็ดที่ลอยน้ำออก นำเมล็ดที่จมน้ำซึ่งเป็นเมล็ดฟ้าทะลายไพรที่สมบูรณ์ นำมาโรยบนดินปลูกที่เตรียมไว้ในถาดเพาะหรือแปลงปลูกได้เลย แล้วกลบด้วยดินบางๆ รดน้ำให้พอชุ่ม ควบคุมแสงแดดให้พอมีรำไร โดยการขึงแสลนกางบังไว้ จากนั้นรดน้ำทุกวัน ภายใน 15 วันต้นกล้าจะเริ่มงอก รอครบ 30 วันต้นกล้าแข็งแรง จึงย้ายต้นกล้าปลูกในพื้นที่ที่เตรียมปลูกได้เลย
  4. เมื่อต้นแข็งแรงอายุประมาณ 60 วัน ให้เริ่มใส่ปุ๋ยหมักโดยโรยรอบโคนต้นและรดน้ำให้ชุ่มทันที
  5. ประมาณ 5 เดือน สังเกตที่ต้นเริ่มออกดอกบาน 50% ของต้น ให้ตัดต้นเหลือตอประมาณ 1 คืบ และทำการบำรุงเลี้ยงต้นใหม่ ครั้งต่อๆไปใช้เวลาเพียง 3 เดือนก็จะเก็บได้อีกครั้ง

1000maidee.com

 

บอนสีหายาก

บอนสีหายาก

บอนสีหายาก

บอนสีหายาก ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันนี้ ความนิยมของพืชใบสวยงามอย่างต้นบอนสีนั้น ถือได้ว่าเข้ามาเป็นหนึ่งใน
ไม้ประดับที่ทรงอิทธิพลอย่างมากกับวงการพืชสวยงามในประเทศไทย ทั้งนี้ไม่เพียงแต่ความสวยงามของบอนสี
ที่ทำให้ได้รับการขนานนามว่าเป็นราชินีแห่งไม้ใบเท่านั้น แต่ทว่าส่วนหนึ่งของ ความนิยมและราคาที่สูงมาก
ในท้องตลาดนั้น เป็นเพราะหลายๆสายพันธุ์ของบอนสี ก็จัดอยู่ในกลุ่มจำพวก พืชหายากอีกด้วย

สำหรับผู้อ่านคนไหน ที่ถือได้ว่าเป็นสาวกและหลงใหลในพันธุ์ไม้สวยงามชนิดนี้อยู่เช่นเดียวกัน ในวันนี้ เราจะขอพาผู้อ่านทุกท่าน ไปพบกับ 5 สายพันธุ์ของบอนสีหายาก ที่มีอยู่ในประเทศไทย ซึ่งสนนราคาของแต่ละสายพันธุ์นั้น เรียกว่าแพงลิบลิ่วเลยทีเดียว โดยบอนสีหายากที่เรานำมาฝากกันนั้น จะมีพันธุ์ไหนบ้าง เรามาดูกันเลย

บอนสีหายาก ต้นบอนสีเพชรสุวรรณโชติ
บอนสีหายาก ต้นบอนสีเพชรสุวรรณโชติ

ต้นบอนสีเพชรสุวรรณโชติ

เริ่มต้นกันด้วย ต้นบอนสีเพชรสุวรรณโชติ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบอนสีหายากในประเทศไทย ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของใบ จะมองเห็นเป็นลักษณะเรียวยาว โดยใน 1 ใบอาจจะมีการแบ่งพื้นผิวออก เป็น 2 สี ได้แก่ขาวและเขียว อีกทั้งมีการแต้มจุดสีแดง ที่เหมือนรอยแต่งแต้มด้วยพู่กัน มองดูคล้ายลักษณะของดาวกระจาย อยู่บนตลอดทั้งใบ จึงกล่าวได้ว่าบนสีสายพันธุ์นี้จัดเป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่รังสรรค์ขึ้นมาให้มนุษย์ได้ชื่นชม

ต้นบอนสี สยามนฤมิตร
ต้นบอนสี สยามนฤมิตร

ต้นบอนสี สยามนฤมิตร

สำหรับต้นบอนสีสายพันธุ์นี้ ถือได้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่แพงที่สุดในท้องตลาดปัจจุบัน ลักษณะเด่นของต้นบอนสีสยามนิรมิตนั้นได้แก่ ใบที่จะมีลักษณะคล้ายรูปหัวใจขนาดใหญ่ โดยเส้นขอบบริเวณรอบใบนั้นจะมีการโค้งหยักเล็กน้อย ทำให้แต่ละใบรวมมีรูปทรงสวยงามแปลกตา นอกจากนี้สีสันบนใบที่ทำให้ต้นบอนสีสยามนิรมิตโดดเด่นนั้นก็คือ การมีลักษณะด่างที่ผสมกันระหว่างสีแดงเข้ม และสีเขียว รวมไปถึงเส้นขอบใบที่ตัดกับสีสันบนใบจนมองเห็นได้อย่างชัดเจน

บอนสีหายาก ต้นบอนสีเมืองเกาะเกร็ด
บอนสีหายาก ต้นบอนสีเมืองเกาะเกร็ด

ต้นบอนสีเมืองเกาะเกร็ด

บอนสีสายพันธุ์นี้ มีลักษณะเด่นคือใบรูปหัวใจขนาดใหญ่ มองดูคล้ายกับการแต้มสีด้วยพู่กันลงไปหลากหลายสีใน 1 ใบ ไม่ว่าจะเป็นสีชมพู สีขาว สีแดง ซึ่งเมื่อทั้งหมดมาอยู่บนผืนผ้าใบสีเขียวเข้มแล้ว ทำให้ดูสวยงามราวกับภาพฝันเลยทีเดียว ทั้งนี้ไม่เพียงแต่ความมหัศจรรย์ของสีที่ปรากฏบนใบเท่านั้น แต่อีกหนึ่งความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นจากบอนศรีเมืองเกาะเกร็ดนั่นก็คือ เมื่อแรกเกิดใบจะเป็นเพียงสีเขียวเท่านั้น และจะค่อยๆกระจายสีออกจนมองเห็นได้ชัดเมื่อใบมีขนาดโตเต็มที่ โดยการสีสายพันธุ์นี้ถือเป็นอีกหนึ่งในสายพันธุ์บอนสีหายากในประเทศไทย พระอัตราการเจริญเติบโตและการขยายพันธุ์นั้นทำได้ช้ากว่าสายพันธุ์อื่นๆ ที่เพาะขึ้นมาในช่วงวัยเดียวกัน

ต้นบอนสีธาตุบางแก้วต้นบอนสีธาตุบางแก้ว

ต้นบอนสีธาตุบางแก้วบอนสีสายพันธุ์นี้ ถือเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาในปี 2562 ซึ่งลักษณะเด่นของต้นบอลสีธาตุบางแก้วก็คือ สีสันต่างๆบนใบ ที่มีการแต่งแต้มอย่างหลากหลายรวมอยู่ด้วยกันในใบเดียว โดยจะเห็นได้ว่ามีทั้งสี ขาว ชมพู เขียว และแดง ซึ่งทำให้มองดูแล้วคล้ายกับผลงานศิลปะจากจิตรกรชื่อดัง

ต้นบอนสีเจ้าปอแก้ว
ต้นบอนสีเจ้าปอแก้ว

ต้นบอนสีเจ้าปอแก้ว

บอนสีสายพันธุ์นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่จัดอยู่ในกลุ่มบอนสีหายากและราคาสูงมากในท้องตลาดปัจจุบัน โดยลักษณะเด่นของบ้านศรีเจ้าปอแก้วนั้น อยู่ที่ใบซึ่งมีลักษณะเป็นทรงกลม โดยลวดลายบนใบนั้น จะมองเห็นเป็นลายด่างซึ่งมีการแต่งแต้มสีลงไป อย่างสวยงาม ซึ่งใน 1 ใบ จะมีหลายสีรวมอยู่ด้วยกัน ทั้งสีชมพูอ่อน สีแดง สีขาว และสีเขียว ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความสวยงาม ที่มาจากความมหัศจรรย์ทางธรรมชาตินั่นเอง


1000maidee.com

ต้นยางนา มาดู ราคาของต้นยางในไทยกัน

ต้นยางนา มาดู ราคาของต้นยางในไทยกัน

ต้นยางนา มาดู ราคาของต้นยางในไทยกัน

               ต้นยางนา ถือว่าเป็นพญาไม้ของเอเชียอาคเนย์ เลยทีเดียว เนื่องจากลำต้นจะมีขนาดที่สูงใหญ่ ซึ่งมีถิ่นกำเนิดมาจากภาคตะวันออกเฉียงใต้ในทวีปเอเชีย โดยต้นไม้ชนิดนี้เป็นต้นไม้ที่สามารถใช้ได้ทุกส่วนในต้น นำไปทำให้เกิดประโยชน์ได้หลายอย่างทั้งโดยตรงและทางอ้อม สำหรับต้นยางนา ราคาก็จะอยู่ที่ 15,000- 20,000 โดยราคานี้จะเป็นต้นยางที่มีอายุเยอะแล้ว  ซึ่งเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงพอสมควรเลยทีเดียว

สำหรับต้นยางนา คือไม้ที่มีประโยชน์และมีคุณค่า เพราะว่าให้เนื้อไม้เป็นจำนวนมาก  สามารถปลูก     เอาไว้เป็นมรดกสืบทอดให้กับลูกหลานรุ่นหลังได้  เรียกได้ว่าเหมือนเป็นการเก็บหอมรอมริบไปในตัวด้วย นั่นเอง

เรามาดูราคาของต้นยางนา ตามสวนของแต่ละจังหวัดกันดีกว่าค่ะว่า ต้นยางนาราคา จะอยู่ที่เท่าไรกันบ้าง

  1. ต้นยางนา จากสวนคลาสลิกพันธุ์ไม้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

 

<yoastmark class=

สวนนี้จะจำหน่ายต้นไม้หลายชนิด ทั้ง ต้นพยุง,ต้นประดู่,ต้นพะยอม และต้นไม้อื่นๆอีกมากมาย รวม ไปถึงต้นยางนาด้วย ซึ่งจะอยู่ที่ขนาด 10-20 เซนติเมตร หรือขนาดอื่นก็มีให้เลือกมากมายเช่นกัน  สำหรับราคาสบายกระเป๋ามากๆ  อยู่ที่ 15 บาท เท่านั้น ทำให้คนที่มีงบน้อย สามารถซื้อไปปลูก และต่อยอดเอากำไรหลังจากนี้ได้

สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 061-839 4741

 

2.ต้นยางนาจากสวนสอยดาว จังหวัดจันทบุรี

 

<yoastmark class=

โดยต้นยางนาจากสวนนี้จะมีความสูงอยู่ที่40-50 เซนติเมตร จะสูงกว่าสวนแรกเล็กน้อย โดยยางนาจากสวนนี้ จะมีความสวย และแข็งแรง ซื้อไปแล้วสามารถพร้อมลงปลูกได้เลยทันที  ไม่จำเป็นต้องไปทำอะไรเพิ่มเติมหลังจากนี้แล้ว ราคาของต้นยางนาขนาดนี้จะอยู่ที่ 40 บาท เท่านั้น

สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 084 093 8730

3.ต้นยางนาจากสวนพร้อมพันธุ์ไม้ จังหวัดปราจีนบุรี

<yoastmark class=

ต้นยางนาจากสวนนี้จะมีความสูงขึ้นมาพอสมควรเลยทีเดียว ราคาก็จะสูงตามมาด้วยเช่นกัน ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 600-800 บาท เหมาะกับคนที่มีงบมากพอ ที่จะซื้อต้นยางนาไปปลูก และไม่ต้องการดูแลตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นต้นเล็กๆอยู่ ร้านนี้ก็ตอบโจทย์เช่นกัน

สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 0819491616

นี่เป็นส่วนหนึ่งสำหรับต้นยางนา ราคาต่างๆ จากสวนของแต่ละจังหวัดที่เรานำมาแนะนำทุกคนกัน โดยเราสามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการและความชอบของแต่ละคนเลย แต่ถึงอย่างไรแล้วนั้นเราก็ต้องคิดให้ดีด้วยว่า ถ้าซื้อมาแล้วเราจะได้ปลูกและใช้ประโยชน์จากต้นยางนาจริงหรือเปล่า ถ้าคิดดีแล้ว ก็ซื้อมาปลูกได้เลย


1000maidee.com

ต้นชมพู​พันธุ์​ทิพย์

ต้นชมพู​พันธุ์​ทิพย์

ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์

  ​ ต้นชมพู​พันธุ์​ทิพย์ เป็นต้นที่เมื่อออกดอก​จะมีสีชมพูสด​  เมื่อดอกบานสะพรั่งเต็มต้นแล้ว​ จะเป็นต้นที่สวยงามมาก​ และยัง​ให้ความสดชื่นสบายตา ไม่เพียงแค่ความสวยงามเท่านั้น​ ​ต้นชมพูพันธุ์​ทิพย์​ยังเป็น พันธุ์ไม้​โตเร็ว​ ที่ปลูกง่ายและโตเร็ว​ อีกทั้งยังมีคุณประโยชน์มากมายอีกด้วย

ต้นชมพู​พันธุ์​ทิพย์
ต้นชมพู​พันธุ์​ทิพย์

  ต้นชมพู​พันธุ์​ทิพย์​ เป็นพันธุ์​ไม้โต​เร็ว​ ​ที่นิยมปลูกเพื่อให้ความร่มเงา​ ทนทานต่อสภาพอากาศแวดล้อม และโรคแมลงอีกด้วย​  มีลักษณะเด่น​คือ​ มีดอกไม้สีชมพู​เมื่อออกดอกเป็นช่อทั้งต้น​ต้นชมพู​พันธุ์​ทิพย์จะสวยงามมาก​  จะออกดอกปีละ​ 1​ ครั้ง​ สีของดอกมีสีม่วง​อมชมพูหรือชมพูอ่อน​ ลำต้นสีน้ำตาล​ เป็นต้นที่อายุมากเปลือกจะแตก​  ผลัดใบช่วงเดือนกุมภาพันธ์​  ​ กิ่งก้านแผ่เป็นพุ่มแน่น ใบมีผิวเรียบเกลี้ยง​ แผ่นใบหนา​ มีลักษณะใบรูปไข่แกมวงรี​ มีความเชื่อว่าต้นชมพูพันธุ์ทิพย์​ เป็นตัวแทนสัญลักษณ์​แห่งความรักและหวังดี​ และยังมีประโยชน์​นานาชนิด​ไม่ว่าจะเป็นลำต้นที่สามารถใช้ทำฟืน​และเยื่อกระดาษได้​ อีกทั้งยังมีประโยชน์​ในเรื่องสรรพคุณ​ของใบที่ช่วยแก้เจ็บท้อง​ และปวดท้อง​  ไม่เพียงเท่านี้ต้นชมพู​พันธุ์​ทิพย์​ยัง​ปลูกเป็นไม้ประดับ​ที่ให้ความร่มรื่น​และสวยงามอีกด้วย​

  วิธีการปลูก นิยมปลูกด้วยการเพาะเมล็ด​  โดยการนำเมล็ดมาโรยในกระถางที่ใส่ทรายหรือขุยมะพร้าว​ ​ ควรเอาดินผสมทรายรองไว้​ด้วยการเพาะ ​ รดน้ำให้ชุ่มไม่กี่วันกล้าก็งอกออกมา เมื่อต้นกล้าสูงประมาณ​20-30 เซ็น​ จึงนำกล้ามาปลูกลงแปลงปลูกได้​  สามารถปลูกได้ในดินทุกประเภท​ ควรปลูกบริเวณที่มีแสงแดดเต็มวันเพราะต้นชมพูพันธุ์​ทิพย์​ชอบแดดจัด​ ไม่​ควรปลูกบริเวณน้ำท่วมขัง​จะทำให้ต้นไม่สวย​

วิธีการดูแลต้นชมพูพันธุ์​ทิพย์​  ช่วงแรก ๆ ควรรดน้ำให้พอชุ่มชื่น​เพราะต้นชมพู​พันธุ์​ทิพย์จะต้องการน้ำปานกลาง​ ในฤดูฝนควรงดให้น้ำ​  ใส่ปุ๋ยคอกรอบ ๆ โคนต้น​เพื่อให้ต้นได้รับอาหารสมบูรณ์​  ด้วยความที่ต้นโตเร็ว​ ควรตัดแต่งกิ่งก้านทุกปี​ ​จะช่วยลดใบไม้ที่ร่วงและกิ่งก้านที่อาจสร้างความเสียหายให้บ้านได้

ต้นชมพู​พันธุ์​ทิพย์
ต้นชมพู​พันธุ์​ทิพย์

ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ เป็นพันธุ์ไม้ยืนต้นที่นิยมปลูกเพื่อให้ร่มเงา เพิ่มความร่มรื่น ถ้าปลูกในบ้าน ควรเว้นระยะห่างจากบ้าน 6 เมตร เพราะ เป็นพันธุ์ไม้โตเร็ว มีรากที่แข็งแรง สามารถชอนไชทำให้บ้านเสียหาย และเมื่อดอกตกมาแล้วแห้ง มีความยากลำบากในการทำความสะอาด ถึงแม้ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ จะมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่ถ้าเทียบกับความสวยงามและประโยชน์แล้ว ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ก็เป็นอีกพันธุ์ที่น่าลองปลูกเป็นไม้ประดับที่ถูกเปรียบเปรยว่าเป็นซากุระเมืองไทย


1000maidee.com

ความหมายของต้นกระเช้าสีดา

ความหมายของต้นกระเช้าสีดา

ความหมายของต้นกระเช้าสีดา

ความหายของต้นกระเช้าสีดา  หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาต้นไม้ที่มีชื่อเรียกว่า ต้นกระเช้าสีดา หรือคุ้นชื่อจากละครไทยเรื่องหนึ่ง ที่ว่าต้นกระเช้าสีดาเป็นกาฝากที่เกาะต้นไม้อื่นเพื่อดำรงชีวิต และเป็นต้นไม้ที่ไร้คุณธรรมประโยชน์ แต่ความจริงแล้วสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเพียงเรื่องราวที่ถูกเขียนขึ้น ไม่ได้มีส่วนเชื่อมโยงถึงตระกูลต้นไม้กระเช้าสีดาแต่อย่างใด แถมยังตรงข้ามกับความหมายที่กล่าวมาอีกด้วย เนื่องจากต้นกระเช้าสีดาไม่ได้เบียดเบียนต้นไม้อื่น และยังให้คุณประโยชน์มากมายกับผู้คน

ความหมายของต้นกระเช้าสีดา
ความหมายของต้นกระเช้าสีดา

 

และในลักษณะของต้นกระเช้าสีดาที่หลายคนนึกถึง อาจจะมีหน้าตาคล้ายกับพันธุ์ไม้ตระกูลเฟิร์น  ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นหนึ่งในสกุลของต้นกระเช้าสีดา วันนี้เราจะมาแชร์ และทำความรู้จักกับต้นกระเช้าสีดา   มาดูกันว่าต้นกระเช้าสีดา จริง ๆแล้ว ความหายของต้นกระเช้าสีดา ว่าอย่างไร ตามไปดูกันเลยค่ะ

 

ลักษณะของต้นกระเช้าสีดาที่เห็นได้ชัดมีอยู่ทั้งหมด 2 สกุล

สกุลที่ 1 เป็นลักษณะของไม้เถาที่มีใบเป็นสามเหลี่ยม และมีดอกและผล ในลักษณะนี้ถือว่าเป็นกระเช้าสีดาสกุลที่ 1 ที่สามารถนำส่วนประกอบต่าง ๆของต้น ใบ ดอก และราก ไปใช้เป็นยาสมุนไพร

ความหมายของต้นกระเช้าสีดา
ความหมายของต้นกระเช้าสีดา

ในลักษณะที่ 2 คือสกุลห่อข้าวกระเช้าสีดา ในกระเช้าสีดาสกุลนี้จะไม่ได้มีลักษณะเป็นไม้เถา แต่จะอยู่ในส่วนของตระกูลเฟิร์น ไม่ใช่กาฝาก มีการใช้รากในการห่อหุ้มและยึดติดต้นไม้อื่น แต่ไม่ได้แย่งอาหารจากต้นไม้อื่นแต่อย่างใด อาศัยการขยายพันธุ์โดยการแยกราก และแขนง

ความหมายของต้นกระเช้าสีดา
ความหมายของต้นกระเช้าสีดา

มาทำความรู้จักกับกระเช้าสีดาสกุลห่อข้าวกระเช้าสีดากันบ้างค่ะ

ลักษณะจะเป็นใบใหญ่ มีแฉกปลายใบ และมีสีเขียวอ่อน หน้าตาคล้ายผักสวนครัวชนิดหนึ่ง แต่ทานไม่ได้นะคะ ผิวใบจะเลียบเนียน และปลายใบหยัก

ความหมายของต้นกระเช้าสีดา
ความหมายของต้นกระเช้าสีดา

การเกาะติดของห่อข้าวกระเช้าสีดา อยู่ในรูปแบบของการอิงอาศัย ไม่ได้แย่งสารอาหารใดจากต้นไม้ที่ยึดติด เหมือนกับ ความหมายของต้นกระเช้าสีดา ที่หลายคนคุ้นเคย

 

ความหมายของต้นกระเช้าสีดา
ความหมายของต้นกระเช้าสีดา

สำหรับใครที่อยากปลูกห่อข้าวกระเช้าสีดา ต้นไม้ตระกูลนี้ไว้ที่บ้าน สามารถปลูกและขยายพันธุ์โดยให้เกาะยึดกับต้นไม้ใหญ่ในบ้านได้

ความหมายของต้นกระเช้าสีดา
ความหมายของต้นกระเช้าสีดา

มาถึงตรงนี้แล้วหลายคนคงหายสงสัยเกี่ยวกับ ความหมายของต้นกระเช้าสีดา  จริง ๆ แล้วไม่ได้มีความหมายใด ๆ เกี่ยวข้องกับละครไทย หรือเกี่ยวข้องกับการเกาะกิน เกาะอาศัย เพียงแต่ว่า ต้นกระเช้าสีดาสกุลห่อข้าวสีดา มีลักษณะ หน้าตาที่ดำรงชีวิตคล้ายการเกาะต้นไม้อื่น แบบกาฝากเพียงเท่านั้น แต่ไม่ใช่กาฝากนะคะ

สำหรับใครที่อยากปลูกกระเช้าสีดา ราคาหลัก ๆ ของกระเช้าสีดาสกุลห่อข้าว จะราคาสูงกว่ากระเช้าสีดาสกุลไม้เถา ราคาจะเริ่มต้นที่ 1000 บาท หากใครอยากทำการขยายพันธุ์เพื่อปลูก หรือขายก็สามารถทำได้ เนื่องจากราคาดี และเป็นพันธุ์ไม้กระเช้าสีดาที่หายากอยู่เหมือนกัน สำหรับร้านขายต้นไม้ทั่ว ๆ ไป


https://www.1000maidee.com/

ต้นยางนาใหญ่  อายุมาก ใช้หลายคนโอบ

ต้นยางนาใหญ่  อายุมาก ใช้หลายคนโอบ

ต้นยางนาใหญ่  อายุมาก ใช้หลายคนโอบ

ต้นยางนาใหญ่  อายุมาก ใช้หลายคนโอบ ต้นยางนา อยู่ในประเภทไม้เศรษฐกิจของไทย โดยนอกจากนี้ยังเป็นไม้หวงห้ามอีกด้วย ห้ามตัด ห้ามโค่นใดๆทั้งสิ้น จึงไม่เหมาะและไม่นิยมที่จะปลูกในบ้านเรือน ส่งผลให้ต้นยางนาในประเทศไทยมีจำนวนที่ ลดน้อยลง
โดยต้นยางนาใหญ่ ที่เทียบเท่ากับไม้สักทอง ขนาดใหญ่ ถึงกับต้องใช้ 11 โอบ ถึงจะมิดต้น ได้ถูกค้นพบ อยู่ที่ริมลำตะคอง ต.บุ่งขี้เหล็ก อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา  ทางด้านของ นายกอบต.ทุ่งขี้เหล็ก นั่นก็คือ นาย พานุวัฒ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ต้นยางนาดังกล่าว จะมีขนาดความกว้างของลำต้นประมาณ 12 เมตรด้วยกัน
   ซึ่งถ้าเกิดให้ผู้ชายมาโอบต้นยางนาต้นนี้ จะต้องใช้ 8 คน โอบเลยทีเดียว แต่ถ้าเกิดเป็นผู้หญิง จะต้องใช้คนทั้งหมด 11 คนด้วยกัน และเชื่อกันว่าต้นยางนาต้นนี้ มีอายุมากถึงพันปี  แถมยังเป็นต้นยางนาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยด้วย
ทางด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดการกับต้นยางนา 8 คนโอบ ต้นนี้ ด้วยการขึ้นทะเบียน ให้เรียบร้อยแล้ว โดยยังให้งบประมาณ สำหรับการปรับภูมิทัศน์ ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อนำเงินเข้ามาสู่จังหวัดมากกว่าเดิม  สำหรับต้นยางนา ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ยังคงอยู่สภาพที่ดีเช่นเดิม  อยู่ที่ อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี  โดยมีทั้งหมด 2 ต้น อยู่ใกล้ๆกัน สูง 50 เมตร และ 13 เมตร
และ ต้นยางนาใหญ่ ที่มีอายุพันปี ที่อยู่ในจังหวัด พิษณุโลก ต้องใช้คนถึงขนาด10 มาโอบถึงจะรอบต้นยางนาต้นนี้ ถึงจะมิด ได้ถูกเลือกให้ติด 1 ใน 63 ต้นไม้ จากทั่วประเทศ  เข้าโครงการขุมมรดกของแผ่นดินใต้ร่มพระบารมี จากกระทรวงวัฒนธรรม โดยต้นยางนาต้นนี้ มีต้นที่สูงใหญ่มากๆ อยู่บริเวณกลางทุ่งนา และมีรังผึ้งหลวง ไปทำรังอยู่ต้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เลยทีเดียว  ซึ่งบางช่วงอาจจะมีมากถึง 100 รัง ด้วยกัน สำหรับต้นยางนาพันปี ต้นนี้ มีขนาดเส้นรอบวงราว 15 เมตร  เรียกได้ว่าเป็นต้นยางนาที่มีความสมบูรณ์มากที่สุด ในประเทศไทยเลยก็ว่าได้
              โดยนอกจากนี้ ยังพบต้นยางนา ที่จ.อ่างทอง ซึ่งมีความสูงใหญ่และมีความสวยงามมากๆ ติดอันดับ 3ของประเทศไทย โดยมีความสูงถึง 83 เมตร รอบลำต้น จะใช้เกือบทั้งหมด 12 คนโอบ ด้วยกัน และในบริเวณเดียวกันนั้น ก็ยังมีต้นยางนาอีกประมาณ 30 กว่าต้นด้วย แต่ว่ามีต้นยางนาขนดใหญ่ ที่ติดอันดับของประเทศ แค่  2ต้นเท่านั้น ที่เป็นต้นยางนาคู่กัน

 


1000maidee.com

กิตติ  พ่วงพานทอง นักเล่นบอนไซ

กิตติ  พ่วงพานทอง นักเล่นบอนไซ

กิตติ  พ่วงพานทอง นักเล่นบอนไซ

กิตติ  พ่วงพานทอง นักเล่นบอนไซ รุ่นใหญ่ เป็นชาวจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีผลงานและได้คว้ารางวัลการทำบอนไซในงานต่างๆ มากมาย  ด้วยการที่มีใจรักทำให้เกิดบอนไซที่มีความละเอียด  และประณีต  อย่างมาก  เพราะด้วยมีฝีไม้ลายมือที่ยอดเยี่ยมและหาใครเทียบได้   คนในวงการบอนไซต่างก็ต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี  ในชื่อของ  “ครูน้อย”  

คุณ  กิตติ  พ่วงพานทอง  นักเล่นบอนไซ    เล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัยก่อนการเล่นบอนไซของคนส่วนใหญ่นั้นจะเป็นการขุดต้นไม้จากธรรมชาติ  ขุดตามหลังบ้าน  หรือท้ายไร่ท้ายนา  แล้วนำมาปลูกเลี้ยงเพื่อเป็นไม้ประดับ  แต่ในปัจจุบันนี้ต้นไม้ที่เคยได้จากธรรมชาติเริ่มลดน้อยลงและหายาก  ทำให้ผู้คนเริ่มหันมาขยายพันธุ์ด้วยการตอน  เพาะเมล็ด  และตอนกิ่ง  กันมากขึ้น  แต่การทำบอนไซนั้นต้องอาศัยต้นตอที่สวยงามด้วย  อย่างพวกไม้ที่เพาะเมล็ด  ตอนกิ่ง  จะหาต้นตอยาก  เพราะต้องใช้เวลาในการเลี้ยงค่อนข้างนาน  แล้วส่วนใหญ่รากจะเล็ก ไม่ค่อย มีโขด หรือมีโคนราก   ไม่เหมือนกับไม้ที่นำมาจากป่า  จะมีโคนรากใหญ่  เป็นไม้ที่มีอายุเก่าแก่ เหมาะกับการมาทำเป็นบอนไซ

ครูน้อยกล่าวว่า ที่หลังบ้านได้ทำการสร้างตอไว้เหมือนกัน  เพื่อเป็นแหล่งวัตุดิบสำรองให้กับตัวเอง   ส่วนตัวครูน้อยมีความสนใจในไม้ไทยและได้นำไม้เด่นของเพชรบุรี  อย่างเช่น เกล็ดปลาหมอ  หนามพรม  ไม้ซากเทียนทะเล  หรือหมากเล็กหมากน้อย  ตะโก   เพรมน่า  มะสัง  มะขาม

ซึ่งแต่ละต้นจะมีข้อดีแตกต่างกันไป แต่เหมาะที่จะนำมาทำบอนไซอย่างยิ่ง  ครูน้อยได้แนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลี้ยงบอนไซว่า  เราต้องเลี้ยงในที่มีอากาศดี  โปร่ง  และแสงแดดดี  จะทำให้ไม่มีโรค   ส่วนการใส่ปุ่ย นานๆ ให้ใส่ครั้งหนึ่งก็พอ  อาจจะใส่เป็นปุ๋ยเคมีบ้าง  ปุ๋ยคอกบ้างก็ได้    ส่วนการตัดแต่งใบ  ให้ใช้เป็นกรรไกรตัดจะดีกว่าการใช้มือเด็ด หรือการใช้มีด เพราะจะได้ไม่ไปทำให้กิ่งฉีกและตากิ่งเสียหาย   ที่สำคัญมีไม้บางชนิดไม่ควรริดใบออกหมดเพราะจะทำให้ไม้ทิ้งกิ่ง  ฉะนั้นในการริดใบจะต้องริดแบบเอาปลายใบไว้ด้วย

คุณ  กิตติ  พ่วงพานทอง  นักเล่นบอนไซ    กล่าวว่า การทำบอนไซ เป็นงานศิลปะ ที่ต้องคิดออกแบบให้ดูดี  ซึ่งต้องใช้เวลา และยังต้องใช้ฝีมือในการทำอย่างมาก   ซึ่งทุกครั้งที่ได้ทำบอนไซ จะรู้สึกผ่อนคลาย  ไม่เครียด  ไม่ฟุ้งซ่าน  มีสมาธิ   ช่วยทำให้จิตใจสงบได้เป็นอย่างดี

 

 

 


1000maidee.com

กล้วยป่าด่าง ของป่าแต่งสวน

กล้วยป่าด่าง ของป่าแต่งสวน

กล้วยป่าด่าง ของป่าแต่งสวน

กล้วยป่าด่าง ของป่าแต่งสวน เดิมคนไทยปลูกกล้วยไว้เป็นไม้มงคลประจำบ้าน โดยมีเคล็ดว่าถ้ามีต้นกล้วยอยู่ในบ้านทำการงานอะไรจะราบรื่นเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก แต่เหตุผลหลักคือปลูกไว้เพื่อเก็บผลมารับประทาน ซึ่งถือว่าเป็นผลไม้ที่ให้คุณประโยชน์ทางโภชนาการเป็นอย่างมาก เด็กกินดีผู้ใหญ่กินได้ แต่ใครจะคิดล่ะว่า..ปัจจุบันเป้าประสงค์ของการปลูกกล้วยนั้นเปลี่ยนไป กลายเป็นไม่ได้ปลูกไว้เพื่อรับประทานแต่มีไว้เพื่อประดับบ้านและบารมีเจ้าของ กล้วยที่ว่านั้นตอนนี้เป็นที่รู้จักกันดีนั่นคือ กล้วยด่าง

จะว่าไปทุกสายพันธุ์กล้วยตอนนี้ถ้าต้นไหนด่างจะเป็นที่สนใจของนักสะสมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ตานี กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า เทพพนม และสายพันธุ์อื่นๆอีกมากมาย  ขึ้นอยู่กับความนิยมว่าช่วงไหนกระแสพันธุ์อะไรมา แม้กระทั่งกล้วยป่าด่าง ถ้าตามชื่อมันก็ควรเป็นกล้วยที่อยู่ในป่า  แต่ถ้าต้นไหนด่างก็จะโดนย้ายรกรากมาปลูกเติบโตอยู่สวนในบ้านแทน ทั้งที่ผลก็ไม่อร่อย จริงๆแล้วกล้วยป่าด่างเป็นกล้วยด่างสายพันธุ์แรกๆที่นักสะสมในวงการกล้วยด่างจะรู้จักกันดี เพราะเป็นกล้วยที่ขึ้นตามธรรมชาติป่าเขาถึงจะหายากแต่ก็ไม่ต้องไปหาซื้อเสียเงิน ปัจจุบันก็ยังมีคนเข้าป่าลึกฝ่าดงเขาหากันอยู่ ใครเจอก็เหมือนถูกรางวัลนำมาขายโดยไม่มีต้นทุนอะไร บางคนก็นำมาขยายพันธุ์ขายเมล็ดขายหน่อสร้างรายได้ดีกว่าของป่าทั่วไปซะอีก

ถึงกล้วยป่าด่างราคาไม่แรงเท่าสายพันธุ์อื่น เช่น ฟลอริด้า หรือแดงอินโด แต่ก็ได้รับความนิยมไม่น้อย ราคาก็จะขึ้นอยู่กับลายด่างเช่นกัน และสายพันธุ์ที่เป็นที่รู้จักกันในตลาดซื้อขายคือ

 

 

ลายหินอ่อน ลักษณะลายด่างจะเป็นสีขาวถึงเขียวอ่อน ลายด่างจะมีให้เห็นอยู่ทั่วใบจนถึงก้านใบ ลวดลายจะดูคล้ายลายหินอ่อน จึงเป็นที่มาของชื่อนี้

 

 

ลายเสือพราน กล้วยป่าด่างตัวนี้จะค่อนข้างทำให้คนสับสนมากพอสมควร บางทีแค่ใช้สายตาดูก็อาจจะงงๆเหมือนกันว่าแล้วมันต่างกันตรงไหน เพราะจะมีเสือพรานด่างอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ลักษณะจะคล้ายกันมากแต่ราคาก็จะสูงกว่ามาก ข้อสังเกตความต่างระหว่างสองสายพันธุ์นี้คือให้ดูที่ทรงใบ ถ้าเป็นกล้วยป่าด่างลายเสือพรานจะสั้นและอ้วนกว่า ก้านใบและลำต้นจะเป็นสีเขียว หลังใบเป็นสีเขียวหม่น ในส่วนที่คล้ายกันจนทำให้สับสนคือลายที่แทบจะแยกกันไม่ออกกับสีของลายด่างจะเป็นสีแดงเข้มหรือสีเลือดหมู

 

 

 


1000maidee.com

ไม้ดอกไม้ประดับ ต้นเดหลี

ไม้ดอกไม้ประดับ ต้นเดหลี

ไม้ดอกไม้ประดับ ต้นเดหลี

ไม้ดอกไม้ประดับ ต้นเดหลี อีกหนึ่งไม้ดอกไม้ประดับที่อยากจะแนะนำให้คนรักการแต่งบ้านนั่นก็คือ “ต้นเดหลี” เพราะนอกจากจะมีดอกสีขาวสวยสไตล์มินิมอลแล้ว ยังมีคุณสมบัติเป็นต้นไม้ฟอกอากาศ ช่วยดูดซับมลพิษได้อีกด้วย หลายคนมักจะคุ้นเคยกับต้นเดหลีที่ใช้แต่งสวน แต่ความจริงแล้วก็แต่งบ้านได้เหมือนกัน จะต้องปลูกอย่างไร และต้องดูแลแบบไหน ไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลย

 

 

ปัจจุบันต้นเดหลี หรือ Peace Lily เป็นไม้ดอกที่มีสายพันธุ์มากกว่า 40 ชนิด เช่น เดหลีใบกล้วย เดหลีจักรพรรดิ์ เดหลีใบด่าง ฯลฯ มีลักษณะเป็นไม้พุ่มเตี้ย ดอกจะมีใบประดับเป็นทรงหัวใจ มีสีขาว ดูคล้ายกับดอกหน้าวัว ชอบออกดอกเยอะในฤดูฝน ต้นเดหลีมีใบเดี่ยว สีเขียวเข้ม เป็นมันดูสดชื่น ปลายใบแหลม ขอบใบเป็นคลื่น เมื่อโตเต็มที่ ต้นเดหลีจะสูงได้มากถึง 60 เซนติเมตร

 

 

  • วิธีปลูกต้นเดหลี

ต้นเดหลีเป็นไม้ดอกที่ไม่ชอบแดดจัด เพราะจะทำให้ใบไหม้ และต้องการดินที่มีความชื้นสูง ดินที่ควรใช้ปลูกต้นไม้ชนิดนี้คือดินร่วน ควรหมั่นรดน้ำบ่อย ๆ ทุกวันได้ยิ่งดีเพราะต้นเดหลีชอบความชื้น ขณะเดียวกันควรเลือกพื้นที่ปลูกที่มีแดดอ่อน ๆ เช่น ริมหน้าต่างห้อง ใต้ต้นไม้ที่มีร่มเงา หรือหากปลูกในอาคารที่แสงส่องไม่ถึง ควรพอออกมาเจอแดดบ้าง อุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 18-24 องศาเซลเซียส

  • การดูแลต้นเดหลี

หากอยากเลี้ยงต้นเดหลีให้ออกดอกสวยงาม ควรเพิ่มสารอาหารโดยการให้ปุ๋ยคอกผสมในน้ำและใช้รดเดือนละครั้ง และยังสามารถผสมปุ๋ยคอกร่วมกับปุ๋ยสูตร 15-15-15 ปีละสองครั้ง เพื่อให้ต้นไม้มีความอุดมสมบูรณ์ นอกจากนั้น ใบของเดหลีก็ไม่ควรละเว้นการดูแลนะคะ เพราะหากปล่อยไว้อาจจะเจอกับแมลงมากัดกินได้ ดังนั้นแนะนำให้หมั่นนำผ้านุ่ม ๆ มาเช็ดที่ใบเสมอ เพื่อคงความเงางามและความสดชื่นนั่นเองค่ะ

 

ไม้ดอกไม้ประดับ ต้นเดหลี

 

ต้นเดหลีดูแลง่าย สามารถปลูกได้ทั้งในร่ม และกลางแจ้ง ในกระถาง หรือปลูกลงดิน นอกจากจะเป็นไม้ดอกเหมาะประดับบ้านหรือแต่งสวนแล้ว ต้นเดหลียังเป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่องค์กรนาซารับรองอีกด้วย สามารถดูดซับสารพิษอย่างแอลกอฮอล์ เบนซิน ฟอร์มัลดีไฮด์ ไตรคลอโรเอทธิลีน ซึ่งจะมีอยู่ในน้ำยา หรือหมึกต่าง ๆ โดยสารพิษเหล่านั้น เมื่อถูกดูดซับไปแล้วจะเปลี่ยนเป็นธาติอาหารให้กับต้น  ในด้านความเชื่อ เดหลียังนักว่าเป็นพืชมงคล ที่ว่ากันว่าจะช่วยให้เจ้าของมีสุขภาพแข็งแรง ไร้โรคภัยถามหา และยังเรียกโชคลาภได้อีกด้วย

 

 


1000maidee.com

กลุ่มบอนสี

กลุ่มบอนสี

กลุ่มบอนสี

กลุ่มบอนสี  บอนสีถือได้ว่าเป็นไม้ประดับที่ฆ่าไม่ตาย เพราะนอกจากจะอยู่คู่กับวงการไม้ประดับของไทยมาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตแล้ว  ในปัจจุบันนี้ ความนิยมของต้นบอนสีเองก็ยังเริ่มกลับมาเป็นที่นิยมจากผู้คนมากมายในประเทศ ซึ่งมีความต้องการไม้ประดับชนิดนี้อยู่ในระดับสูงเลยทีเดียว

ต้นกำเนิดของบอนสี

ต้นบอนสีนั้นถือได้ว่าเป็นไม้ใบ ที่จัดอยู่ในประเภทไม้ประดับโดย รวมอยู่ในสกุลของ Caladium และวงศ์ Araceae  พืชสายพันธุ์นี้ได้รับชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Caladium Bicolor โดยถิ่นกำเนิดของต้นบอนสีนั้น เชื่อกันว่าแรกเริ่มน่าจะถือกำเนิดขึ้นทั้งแถบทวีปยุโรป, อเมริกาใต้ รวมไปถึงภายในประเทศอินโดนีเซีย และอินเดีย โดยในส่วนของประเทศไทยนั้น นิทานกันว่า ต้นว่านสี่ทิศได้ถูกนำเข้ามาปลูกในช่วงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ของรัชกาลที่ 5 นั่นเอง

ประเภทกลุ่มของต้นบอนสี

สำหรับต้นบอนสีนั้นสามารถแบ่งแยกประเภทกลุ่มตามลักษณะใบออกเป็น 4 กลุ่มได้ ดังต่อไปนี้

  1. กลุ่มบอนสีแบบใบไทย Thai-Native Leaf Caladium

ในกลุ่มนี้จะมองเห็นลักษณะทางกายภาพของใบคล้ายกับรูปหัวใจ บริเวณโคนของใบจะมีลักษณะกลมมน ส่วนปลายของใบจะเรียวแหลม ซึ่งกลุ่มบอนสีแบบใบไทยนั้นสามารถยกตัวอย่างได้ เช่น  พญาเศวต(ตันแพลง)  พญามนต์ ปาเต๊ะ ไฟแสงจันทร์ ม่านนางพิม ไก่ราชาวดี และสาวน้อยประแป้งเป็นต้น

  1. กลุ่ม บอนสีแบบใบกลม Round-Leaf Caladium

ลักษณะทางกายภาพของกลุ่มบอนสีแบบใบกลมนั้น จะดูลักษณะใบเป็นทรงกลมขนาดใหญ่ และมีปลายเป็นติ่งขนาดเล็ก ส่วนของก้านนั้นจะขึ้นอยู่บริเวณกึ่งกลางใบ ซึ่งบอนสีแบบใบกลมนี้สามารถยกตัวอย่างได้หลากหลาย ได้แก่ ยูเรนัส เมืองชล เมืองสุวรรณภูมิ เมืองสยาม และ Bangkok เป็นต้น

 

  1. กลุ่มบอนสีแบบใบยาว Long- Leaf Caladium

ลักษณะทางกายภาพของต้นบอนสีกลุ่มนี้ จะดูคล้ายกับ ลักษณะใบในกลุ่มบอนสีแบบใบไทย แต่บริเวณส่วนปลายจะมองดูเรียวเล็กมากกว่า และส่วนโคนใบนั้นจะมีการฉีกเว้าเข้ามาจนถึงส่วนของก้านใบ ซึ่งบอนสีแบบใบกลมนั้น สามารถยกตัวอย่าง ได้เช่น กวนอิม ฮกหลง กรวยทอง คุณหญิง ไชยปราการ หงส์เหิน และจักรราศีเป็นต้น

 

  1. กลุ่มบอนสีแบบใบกาบ Sheath-Leaf Caladium

ลักษณะทางกายภาพของกลุ่มบอนสีแบบใบกาบนั้น จะมองดูคล้ายกับรูปหัวใจขนาดใหญ่ โดยในส่วนของการใบนั้นจะมีการแพออกเล็กน้อยตั้งแต่บริเวณโคนมาจนถึงกึ่งกลาง ซึ่งมองดูแล้วมีลักษณะคล้ายกับใบผักกาดนั่นเอง โดยตัวอย่างของบอนสีแบบใบกาบนั้น ได้แก่ อังศุมาลิน เรือนแก้ว รัชมงคล เทพลีลา ขันธกุมาร และทุ่งบางพลีเป็นต้น

อย่างไรก็ตามนอกเหนือไปจากการแบ่งกลุ่มบอนสีตามลักษณะของใบแล้ว การเลี้ยงสามารถแบ่งออกตามรูปแบบประเภทของสายพันธุ์ได้ เช่นเดียวกัน โดยจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มดังต่อไปนี้

  1. กลุ่มบอลสีสายพันธุ์พื้นเมือง
  2. กลุ่มบอนสีสายพันธุ์ลูกผสมในประเทศไทย
  3. กลุ่มบ้านสีสายพันธุ์จากต่างประเทศ

โดยการแบ่งกลุ่มของบอนสีตามแต่ละรูปแบบนั้น ผู้อ่านสามารถใช้รูปแบบใดก็ได้ตามความต้องการ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนขึ้นอยู่กับความถนัดและความรู้ความเข้าใจของตัวผู้ปลูกนั่นเอง

 


1000maidee.com