ประโยชน์ฟ้าทะลายโจร
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ประโยชน์ฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพร ที่ได้รับการเข้าบรรจุเป็นบัญชียาหลักแห่งชาติตั้งแต่ปีพ.ศ. 2542 แล้ว ถูกจัดอยู่ในบัญชียาจากสมุนไพรตัวเดี่ยวที่ระบุให้เป็นยารักษาได้ ใน 2 กลุ่มอาการหลัก คือ กลุ่มแรกคือกลุ่มอาการระบบทางเดินอาหาร โดยใช้บรรเทาอาการท้องเสีย และกลุ่มที่สองคือใช้รักษากลุ่มอาการระบบทางเดินหายใจ โดยใช้บรรเทาอาการเป็นไข้ ตัวร้อน เจ็บคอ อันเนื่องมาจากอาการหวัด ไม่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น องค์การอนามัยโลกก็ยกย่องและให้การยอมรับ
แต่ถึงฟ้าทะลายโจรจะมีความโดดเด่นและคุณประโยชน์มากมายเพียงใด ก็ยังถูกจัดอยู่ในประเภท สมุนไพรยาโบราณ หรือยาแผนไทย จึงทำให้ไม่ได้รับการยอมรับในแวดวงแพทย์แผนปัจจุบันสักเท่าไหร่ ทั้งที่ประสิทธิภาพนั้นเทียบเท่าถึงขั้นทดแทนยาปฏิชีวนะแผนปัจจุบันได้หลายตัว แถมยังไม่มีโทษตามมาเช่นการดื้อยาเหมือนยาปฏิชีวนะที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องเจอ แต่ความรู้ทั่วไปเหล่านี้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยทราบ ถ้ามองว่าการใช้ยาปฏิชีวนะทั่วไป ต้องใช้ในระยะที่ต่อเนื่องและจำกัดระยะเวลาการใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ฟ้าทะลายโจรหรือเรียกสั้นๆว่าฟ้าทะลายก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่เป็นสมุนไพรที่ไม่ใช่ยาตามแพทย์สั่งเท่านั้นเอง แต่ในช่วงโควิด 19 ที่ผ่านมา กระแสการใช้ฟ้าทะลายรักษาอาการนั้นก็จะมีผู้ที่ออกมาให้ความรู้จากข้อเสียมากกว่าข้อดี จนทำให้หลายคนไม่กล้าที่จะใช้ฟ้าทะลายเป็นยารักษาและบรรเทาอาการจากโควิด 19 ในเบื้องต้น เพราะจะกังวลผลเสียที่จะเกิดมากกว่า
ต้นฟ้าทะลายโจทย์ในการใช้ไม่ยากอย่างที่คิด มีข้อระวังใช้ดังต่อไปนี้
- รับประทานแคปซูลขนาด 500 มิลลิกรัม ครั้งละ 3-5 แคปซูล หลังอาหารวันละ 4 ครั้ง ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วันแล้วให้สังเกตอาการถ้าอาการถ้าไม่ดีขึ้นให้พบแพทย์ แต่ถ้าดีขึ้นให้ทานต่อจนครบ 5-7 วันแล้วหยุด ระยะเวลาในการกินนี้สามารถใช้ได้กับการกินในแบบอื่น เช่น ใบสดแบบต้ม เป็นต้น
- ถ้ารับประทานในครั้งแรกแล้วรู้สึกมีอาการใจสั่น วิงเวียน ปวดเอว ท้องเสีย แขนขาอ่อนแรง ควรหยุดทันที
- สำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตรห้ามทาน
- ผู้ที่มีความผิดปกติของตับและไตห้ามทาน
- ไม่ควรรับประทานกับผู้ที่ใช้กลุ่มยาลดความดัน ยากดภูมิ ยาสลายลิ่มเลือด เช่น แอสไพริน
วาฟาร์ริน เป็นต้น - เนื่องจากฟ้าทะลายเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็นจัด หลังจากรักษาด้วยฟ้าทะลายจนอาการดีขึ้นเรียบร้อย ควรทางกระชายหรือน้ำขิง เพื่อปรับร่างกายให้มีฤทธิ์ร้อนและเย็นกลับมาสมดุลกัน