การปลูกบอนไซ

การปลูกบอนไซ

การปลูกบอนไซ

การปลูกบอนไซนั้น ต่างก็มีจุดประสงค์แตกต่างกันไป  บางคนปลูกแป็นงานอดิเรกพื่อช่วยทำให้จิตใจสงบ  รู้สึกผ่อนคลาย  หรือบางคนปลูกเพื่อสำหรับขาย   แต่ไม่ว่าจะปลูกเพื่อจุดประสงค์อะไรในท้ายที่สุดแล้วเมื่อเกิดเป็นบอนไซขึ้นมา 1 ต้น  เราก็จะรู้สึกเกิดความภาคภูมิใจในสิ่งที่ทำเป็นอย่างมาก

การปลูกบอนไซ  ส่วนใหญ่ที่นำมาทำจะเป็นต้นไม้ อย่าง ต้นเพรมน่า  ต้นชาฮกเกี้ยน   ต้นโพธิ์  ต้นมะขาม   เป็นต้น    และในการปลูกบอนไซนั้นอย่างแรกที่ต้องจัดเตรียม คืออุปกรณ์ต่างๆ   เช่น กรรไกร  คีม  มีด  ลวด  กระถาง วัสดุปลูก

ส่วนการปลูกนั้นจะมี 2 วิธีด้วยกัน คือ  การเพาะเมล็ดเอง ซึ่งวิธีนี้จะใช้เวลาเป็นค่อนข้างนาน กว่าที่จะสามารถนำตอมาใช้ได้ แต่ก็เป็นวิธีที่สามารถสร้างบอนไซให้สวยงามที่สุดได้เช่นกัน

ส่วนอีกวิธีคือการใช้ตอไม้ที่โตแล้วมาทำ แนะนำให้หาตอที่มีอายุ 5-6 เดือนมาทำจะดีกว่า เมื่อเราได้ตอที่เราจะทำมาแล้ว ให้ทำการตัดยอดออกก่อน  แต่ให้ตัดในแนวตรงไม่ให้ตัดเอียง และให้มีความสูงอยู่ที่ประมาณ 1 ฟุต  เพราะตอที่ได้มาจะเป็นตอเปล่าที่ยังไม่มีกิ่งเลย เราจึงต้องทำการเลี้ยงให้แตกกิ่งใหม่ขึ้นก่อน

 

 

หลังจากนั้นให้นำตอมาวางลงในกระถางแล้วเอาปุ๋ยมะพร้าวอย่างเดียวมาโปะตรงโคนต้นให้เต็ม เพราะมะพร้าวจะเก็บความชื้นได้ดีช่วยให้รากเดินสะดวก เมื่อเสร็จแล้วให้รดน้ำตามปกติได้เลย จากนั้นพอเริ่มมีกิ่ง แล้วกิ่งเริ่มโต  เราก็ดึงกิ่งมาไว้เพื่อสำหรับที่จะทาบกิ่งในอนาคตต่อไป

 

 

โดยเราสามารถดึงกิ่งให้โอนตามที่เราต้องการได้เลยเพราะกิ่งยังเล็กและอ่อนอยู่ เมื่อดึงลงมาตามที่ต้องการแล้วให้ใช้เชือกพันก่อน อย่าใช้เป็นลวดรัดเด็ดขาด เพราะจะทำให้กิ่งช้ำแล้วทำให้การทาบกิ่งไม่ติด ส่วนวิธีต่อกิ่งนั้นจะมี 2 วิธี ด้วยกัน

1.การเสียบกิ่ง ให้ทำการผ่ากิ่งตรงตอ แล้วหาตัดยอดอ่อนๆ  ของต้นแม่พันธุ์ ทำการเด็ดใบออก และนำมาตัดตรงปลายให้แหลม  จากนั้นเสียบเข้าไปตรงกิ่งที่เราผ่ารอไว้ เสร็จแล้วมัดเชือก เพียงเท่านี้เราก็ทำการเสียบกิ่งสำเร็จ  แต่วิธีนี้ค่อนข้างเสี่ยงสูง ในการที่จะติด ถึง 50% เลยทีเดียว

2.การทาบกิ่ง  ให้ทำการปอกเปลือกผิวไม้ออก ให้ได้ขนาดพอเหมาะ  แล้วปาดท้องครึ่งหนึ่งของกิ่ง  จากนั้นเอามาประกบแล้วมัดด้วยเชือก จัดวางให้เนื้อทั้ง 2 กิ่งติดกัน จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือนที่กิ่งจะติดกัน เพียงเท่านี้เป็นอันเสร็จ  ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมทำกันมาก

 

 

การปลูกบอนไซ หากเราต้องการจะทำอย่างจริงจัง เราควรที่จะต้องหมั่นศึกษาหาความรู้อยู่เสมอเพื่อที่จะนำมาพัฒนาฝีมือของตัวเองให้มีความเชี่ยวชาญ และเพื่อเป็นช่องทางในการเพิ่มรายได้ให้กับเราอีกทางหนึ่งอีกด้วย

 

 

 

 

การปลูกบอนไซ

 พันธุ์ไม้

ดีหมีแท้

ดีหมีแท้

ดีหมีแท้

ปัจจุบันความนิยมของพืชสมุนไพรอย่างต้นดีหมีนั้น ถือได้ว่าแพร่หลายและกระจายเป็นวงกว้างอย่างมาก ในประเทศไทย ทั้งนี้ด้วยชื่อเสียงและสรรพคุณที่กล่าวอ้างว่าง ต้นดีหมีสามารถใช้เพื่อรักษาอาการโรค covid 19 ได้  ทำให้ หลายต่อหลายคนเริ่มสนใจ และมองหาเพื่อซื้อพืชชนิดนี้มาปลูกไว้ที่บ้านของตัวเอง

อย่างไรก็ตามด้วยกระแสความนิยมของต้นดีหมีที่มีสูงมากในปัจจุบันนั้น ทำให้ทุกวันนี้เริ่มมีมิจฉาชีพมากมาย ที่นำพืชชนิดอื่นมาหลอกลวงขายให้กับผู้คนที่สนใจ  โดยหากใครที่ไม่สามารถแยกชนิดของต้นดีหมีแท้ และพืชสมุนไพรชนิดอื่นๆได้ ก็มักตกเป็นเหยื่อ และสูญเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ ไปไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งนี้ สำหรับใครที่สนใจอยากนำต้นดีหมีมาปลูกเพื่อใช้ประโยชน์ แต่ยังไม่ มีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพืชชนิดนี้มาก่อน ในวันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับต้นดีหมีแท้ ว่ามีลักษณะอย่างไร นอกจากนี้สรรพคุณทางด้านสมุนไพรของต้นดีหมีนั้น สามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง เพื่อให้ผู้อ่านได้นำไปใช้เป็นอีกหนึ่งแหล่งข้อมูลสำหรับการศึกษาค้นคว้าเพื่อประกอบการตัดสินใจ ก่อนซื้ออีกหนึ่งทางนั่นเอง

 

 

 

 

ต้นดีหมีคือ?

ต้นดีหมี ถือเป็นพืชอีกหนึ่งชนิด ที่ปัจจุบันนิยมปลูกเพื่อใช้ประโยชน์ตามบ้านเรือนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย  โดยต้นดีหมีนั้นมีชื่อเรียกอื่นๆที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น กาไล, แสลงใจ, แสงโทน, มะดีหมี, เซยกะชู้, จ๊ามะไฟ, ต้นกาไล, ต้นกำไล, กาดาวกระจาย, ดินหมี และคัดไล ทั้งนี้ต้นดีหมีในธรรมชาตินั้น มักเจริญเติบในพื้นที่ ผ่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น และบริเวณใกล้แหล่งน้ำ ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และถาคใต้ขอ

ชื่อทางวิทยาศาสตร์และวงศ์ของต้นดีหมี

ดีหมีมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Acalypha spiciflora Burm.f. และอยู่ในวงศ์ EUPHORBIACEAE ซึ่งจัดเป็นวงศ์เดียวกับกลุ่มต้นยางพารา

ลักษณะทางกายภาพของต้นดีหมีแท้

สำหรับต้นดีหมีแท้นั้นจะมีลักษณะเบื้องต้นที่สามารถมองเห็นได้ ดังต่อไปนี้

– ลำต้น เป็นสีเทา มีผิวเปลือกเกลี้ยง สูงเฉลี่ยประมาน 10 – 20 เมตร

– ใบ เป็นใบเลี้ยงเดี่ยว ดกหนาขึ้นรวมกันเป็นพุ่ม  รูปทรงเป็นวงรี ส่วนปลายแหลมเล็ก บริเวณส่วนขอบใบมีลักษณะคล้ายกับซี่ฟันบนใบเลื่อย

– ดอก มักจะขึ้นอยู่บริเวณส่วนของปลายกิ่ง ตามบริเวณซอกระหว่างใบ สามารถแยกดอกเพศผู้และเพศเมียได้ โดยดอกเพศผู้เมื่อบานแล้วจะมีสีเหลือง และกลีบดอกประมาณ 3 ปี ลักษณะ อยู่รวมกันเป็นช่อยาว ส่วนดอกตัวเมียนั้นจะมีลักษณะขึ้นอยู่เป็นดอกเดียว และไม่มีกลีบดอก โดยจะมีแต่ส่วนของกลีบรองดอกประมาณ 5 ขีดเท่านั้น

– ผล มักออกเป็นลูกคู่กัน จะมีลักษณะเป็นทรงกลมสีขาว โดยผลที่แก่เต็มที่แล้วจะแตกและร่วงจากต้นลงมาเอง

 

 

ต้นดีหมีสามารถเพาะหรือขยายพันธุ์ได้อย่างไร?

โดยทั่วไปแล้ว ต้นดีหมีนั้นสามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการเพาะเมล็ด รวมไปถึงใช้วิธีการขุดต้นกล้า นอกจากนี้ยังสามารถเพาะพันธุ์ ด้วยการใช้วิธีปักชำกิ่งได้อีกด้วย

สรรพคุณทางด้านสมุนไพรของต้นดีหมี

  • ใช้เป็นยา รักษาอาการมะเร็ง ต่างๆ
  • ใช้เป็นยาลดไข้ แก้ตัวร้อน และดับพิษไข้มาเลเลีย
  • ใช้ผสมน้ำดื่มเพื่อลดอาการร้อนใน และแก้กระหายน้ำ
  • ใช้เป็นยาสำหรับการขับเหงื่อภายในร่างกาย
  • อาการปวดและวิงเวียนศีรษะ
  • ใช้เป็นยารักษาอาการปวดท้อง
  • รับประทานเพื่อเป็นยาระบายชนิดอ่อน
  • เสริมประสิทธิภาพการทำงานของตับ และไตรวมถึงอวัยวะอื่นๆภายในร่างกาย

 

 

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าต้นดีหมีแท้นั้นจะสามารถใช้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพรได้อย่างหลากหลาย แต่ว่าพืชชนิดนี้ ก็ยังมีข้อจำกัดในการนำมารับประทาน เนื่องจากต้นดีหมีนั้น มีฤทธิ์ร้อน จึงไม่เหมาะกับสตรีมีครรภ์ เพราะอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสภาวะการแท้งลูกได้นั่นเอง

 

 

ดีหมีแท้

 พันธุ์ไม้

เลือกกิ่งพันธุ์ไม้ เลือกอย่างไร ให้โตไว

เลือกกิ่งพันธุ์ไม้ เลือกอย่างไร ให้โตไว

เลือกกิ่งพันธุ์ไม้ เลือกอย่างไร ให้โตไว

การเลือกกิ่งพันธุ์ที่จะนำไปปลูกก็มีความสำคัญไม่น้อย โดยต้องคำนึงถึงคุณภาพ ความแข็งแรง ปลอดโรค และรากเดินดี เพราะถ้าหากเลือกกิ่งพันธุ์ไม้ที่ไม่ได้มาตรฐาน เมื่อนำไปปลูก ต้นไม้อาจไม่โต หรือให้ผลผลิตไม่ดีเท่าไรนัก ต้นพันธุ์ไม้ชนิดต่าง ๆ มีขายอยู่ตามตลาดทั่วไป  แต่จะเลือกอย่างไร ให้ได้กิ่งที่ดี เราไปศึกษาข้อมูลที่นำมาฝากกันเลย

 

 

ร้านท่าหลวงพันธุ์ไม้ จำหน่ายกิ่งพันธุ์ทุเรียน พันธุ์ไม้ต่างๆ

เลือกรากกิ่งพันธุ์ดี ไม่เสียเวลาปลูก การเลือกกิ่งพันธุ์ไม้ จะต้องเน้นที่ระบบราก ถ้าหากรากที่นำมาปลูกไม่แข็งแรง แม้จะนำมาปลูกลงดิน ก็ส่งให้ต้นไม้นั้นไม่โต โตช้า ผลผลิตจะไม่ดก หรืออาจจะไม่มีผลผลิตเลย  ดังนั้นจะต้องหาพันธุ์ไม้ที่มีระบบรากเดินดี ในการนำไปปลูก

พันธุ์ไม้ที่ใบเยอะ เพราะอัดปุ๋ย พันธุ์ไม้ที่มีใบดกเขียว ไม่ได้ดีอย่างที่เราคิด นั่นเป็นเพราะว่า เจ้าของสวนหรือร้านขาย อัดปุ๋ยเพิ่มฮอร์โมน เมื่อเรานำต้นไม้ไปปลูก โดยที่เราไม่ได้อัดปุ๋ย ทำให้ต้นไม้นั้นหยุดการเติบโตกะทันหัน เฉา เหี่ยว เติบโตไม่เต็มที่ ยอดไม่พุ่ง ไม่แตกยอด หรืออาจจะตายไป เพราะขาดฮอร์โมนที่เคยได้รับมาก่อนหน้า

วิธีดูว่ารากเดินดีหรือยัง บางร้านนำกิ่งพันธุ์ที่พึ่งทาบมาใหม่ ๆ มาขายให้กับเรา โดยที่รากยังเดินไม่ดี เราจะสังเกตเห็นว่า ใบเยอะ สีใบเขียวขจี ดูสดใส นั่นเป็นเพราะว่า โดนอัดน้ำและน้ำยาเร่งราก ทำให้รากฝอย ยังเป็นสีขาว  ซึ่งหมายความว่ารากยังไม่แข็งแรงดี เพราะรากที่โต แข็งแรงแล้ว จะต้องมีสีน้ำตาล หรือสีดำ เส้นอวบ ถ้าหากได้กิ่งพันธุ์ที่รากแข็งแรง เมื่อนำไปปลูกลงดิน ทำให้เจริญเติบโตได้อย่างดี

      วิธีเลือกกิ่งพันธุ์ที่ดีที่สุด จะต้องเลือกจากรากดก สีน้ำตาล หรือสีดำ เส้นใหญ่ และเต็มถุงเพาะชำ ใบและลำต้นดูสดใส ไม่เหี่ยว และจะต้องเลือกกิ่งพันธุ์ที่อยู่กลางแจ้ง เพราะนั่นหมายความว่า ต้นพันธุ์ต้นนั้นมีความแข็งแรง สมบูรณ์

     เลือกร้านที่เชื่อถือได้ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดปลูก หรือแม้แต่ชาวสวนผู้ชำนาญก็ตาม จะต้องหาร้านที่สามารถไว้วางใจ กล้าซื้อขายด้วยได้ มีข้อแนะนำในการปลูกต้นพันธุ์ไม้นั้น ๆ หรือให้คำปรึกษาได้เป็นอย่างดี ไม่หวังแต่จะขายอย่างเดียว กิ่งพันธุ์ไม้จะต้องเป็นกิ่งพันธุ์ที่เราต้องการ และร้านที่เราซื้อขายด้วยจะต้องมีความรู้ในพันธุ์ไม้ที่ขายเป็นอย่างดีอีกด้วย

 

 

 

สำหรับการซื้อกิ่งพันธุ์ไม้ทุกครั้งจะต้องศึกษาและพิจารณาอย่างดี เพื่อไม่โดนย้อมแมวขาย การเลือกกิ่งพันธุ์ที่มีคุณภาพ เมื่อนำไปปลูก ทำให้ต้นไม้โตเร็ว ผลผลิตดี ต้นสมบูรณ์ แข็งแรง สุดท้ายหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่านไม่มากก็น้อย

 

 

 

 

เลือกกิ่งพันธุ์ไม้ เลือกอย่างไร ให้โตไว

 พันธุ์ไม้

กล้วยด่างแดง สินทรัพย์บนดิน

กล้วยด่างแดง สินทรัพย์บนดิน

กล้วยด่างแดง สินทรัพย์บนดิน

ก่อนที่จะถึงคิวกระแสฮิตกล้วยด่างแดงอินโด พี่ใหญ่ที่ทำราคามาก่อนคือสายพันธุ์กล้วยด่างฟลอริดา ช่วงนั้นราคากล้วยด่างแดงอินโดยังอยู่ที่หลักพัน แต่ก็ด้วยกระแสทุกคนเทความสนใจให้กับกล้วยด่างฟลอริด้า และในระยะเพียงไม่นานราคาแดงอินโดก็พุ่งทะยานจนทุกวันนี้ยังไม่มีใครเอาลงได้เลย

ถ้าถามผู้เขียนว่าแปลกใจไหม ขอตอบว่าไม่แปลกใจเลย เพราะเห็นแต่แรกแล้วว่าสายพันธุ์นี้มันช่างโดดเด่นเกินกล้วยด่างตัวอื่นๆ อย่าว่าแต่กล้วยด่างด้วยกันเองเลย ไม้ด่างชนิดอื่นยังต้องหลบยกกระแสให้พี่เค้า หลายคนที่รู้จักบ่นเสียดายกันมากที่มองข้ามพี่แดงอินโดไปได้ยังไง ถึงตอนนี้ราคาก็จับต้องยากแล้ว บ้านไหนมีปลูกขอบอกว่าดูแลกันให้ดีๆ ทั้งเตรียมตัวรอรับทรัพย์และเตรียมตัวระวังขโมยกันได้เลย

 

 

กล้วยด่างแดงอินโด หรือทับทิมสยาม กำเนิดที่ประเทศอินโดนีเซีย เรียกสั้นๆกันว่า “แดงอินโด” ชื่อสากลคือ “Musa Siam Ruby” เป็นไม้ล้มลุกจัดอยู่ในวงศ์ Musaceae มีลำต้นทรงกลมตั้งตรง ผิวเรียบเกลี้ยง อวบน้ำเกิดจากใบกาบหุ้มทับซ้อนกันไม่มีเนื้อไม้ สามารถสูงถึงได้ 3 เมตร ลักษณะใบเป็นแบบใบเดี่ยวขนาดใหญ่ทรงแบนยาว ผิวและขอบใบเรียบ ปลายและโคนของใบมน มีสีน้ำตาลแดงเข้มทั้งต้นและใบ สีลายด่างที่ใบจะเป็นสีเขียวถึงขาวชัดเจน บางต้นก็จะมีสีชมพูอ่อน ส่วนลวดลายนั้นก็ตระการตามาก ยิ่งถ้าต้นไหนมีลายแต่ละใบไม่เหมือนกัน สนนราคาเกินล้านแน่นอน ลักษณะลายที่มีอยู่ในประเทศไทยแบ่งได้ประมาณ 6 แบบดังนี้ 1.ลายตุ๊กแก 2.ลายวากิว 3.ลายพายุ 4.ลายเม็ดฝน 5.ลายเพ้นต์ 6.ลายฮาฟ ส่วนตัวผู้เขียนหลงใหลกับลายฮาฟมาก ไม่มีปัญญาซื้อ แต่แค่เห็นต้นจริงก็เป็นบุญตาล่ะ

 

 

การดูแลแดงอินโดนั้นจะคล้ายๆกับกล้วยไทยซึ่งจะดูแลไม่ยากมาก พื้นที่ปลูกต้องระบายน้ำได้ดี คอยรักษาความชื้นแต่ต้องไม่แฉะเพราะรากจะเน่าได้ ถ้าปลูกในกระถางก่อนปลูกควรตากกระถางเพื่อฆ่าเชื้อไว้หลายๆวัน ดินปลูกควรเป็นดินร่วนปนทรายผสมกาบมะพร้าวสับเล็กๆ เศษใบไม้ และปุ๋ยหมัก ผสมและตากแดดไว้ก่อนปลูก 7-10 วัน ในช่วง 3 เดือนแรกควรหมั่นดูแลใส่ปุ๋ยเป็นพิเศษ หลังจากนั้นค่อยเหลือเดือนละ1ครั้ง รอให้ต้นแข็งแรงคุณก็นับถอยหลังได้เลย เพราะเมื่อไหร่ที่เห็นหน่อเมื่อนั้นนั่นแหล่ะคือเงินของคุณที่มันงอกได้มาจากดิน

 

 

 

 

กล้วยด่างแดง สินทรัพย์บนดิน

 พันธุ์ไม้

เรื่องของ “ต้นกระท่อม” น่ารู้

เรื่องของ “ต้นกระท่อม” น่ารู้

เรื่องของ “ต้นกระท่อม” น่ารู้

“ต้นกระท่อม” หรือ พืชกระท่อมที่ได้มีการได้รับการปลดออกจากสถานะยาเสพติดให้มาเป็นพืชที่ประชาชนสามารถนำมาปลูกเพื่อบริโภคและขายได้ หลายคนคงพอทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้กันมาบ้างแล้ว วันนี้เรารวบรวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับต้นกระท่อมมาฝากทุกคนกัน

 

 

  • กระท่อมเป็นพืชวงศ์กาแฟ ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Mitragyna speciosa (Korth.) Havil. เป็นไม้ยืนต้นขนาดปานกลาง ลักษณะใบมีความคล้ายใบกระดังงา ถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตร้อนชื้น เติบโตได้ดีในที่ที่มีความชื้นสูง
  • มีสรรพคุณทางยา ในสมัยก่อนมีการปลูกต้นกระท่อมและใช้ใบกระท่อมในการรักษาอาการติดเชื้อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การติดเชื้อในลำไส้ แก้ท้องเสีย ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ ลดอาการไอ ช่วยในเรื่องการนอนหลับ
  • มีอันตรายหากกินไม่ถูกวิธี หากกินกระท่อมในปริมาณที่มากจนเกินไปจะมีฤกธิ์ในการกล่อมประสาทและไม่ควรใช้ในระยะเวลานาน เพราะจะทำให้มีอาการนอนไม่หลับ คลื่นไส้ แต่หากใช้ในปริมาณที่ต่ำ ก็จะสามารถช่วยลดอาการเมื่อยล้าได้
  • มีสาร “ไมทราไจนีน” ซึ่งเป็นสารที่พบได้ในเฉพาะในพืชกระท่อม สารนี้มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาและยังมีการนำมาใช้เป็นยารักษาโรคอีกด้วย เพราช่วยลดอาการปวดและลดอาการอักเสบ และมีการสกัดใบกระท่อมและพบสารอื่น ๆ ที่มีสรรพคุณในการระงับอาการปวด สามารถใช้แทนมอร์ฟีน แต่มีความแรงต่ำกว่า และไม่กดระบบทางเดินหายใจ ไม่ทำให้มีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน
  • พืชกระท่อมในต่างประเทศ ต้องบอกว่าองค์การสหประชาชาติไม่ได้มีการประกาศควบคุมพืชกระท่อมในบัญชีรายชื่อยาเสพติดหรือวัตถุออกฤทธิ์ตามอนุสัญญาระหว่างประเทศ แต่ได้มีการขอความร่วมมือให้ประเทศสมาชิกมีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ของสารออกฤทธิ์ จากสำนักงานควบคุมยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ ซึ่งในรายชื่อนั้นมีพืชกระท่อมรวมอยู่ด้วย
  • มีการคสบคุมพืชกระท่อมครั้งแรกในรัชกาลที่ 8 มีการออกกฎหมายควบคุมการครอบครอง ปลูก เสพ ซื้อ ขายพืชกระท่อมเป็นครั้งแรก ในพ.ศ. 2486 ระบุว่า “ห้ามผู้ใดเสพ ปลูก ซื้อ ขาย ให้ หรือแลกเปี่ยนพืชกระท่อม เว่นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน เพื่อประโยชน์ในการประกอบโรคศิลป์หรือวิทยาศาสตร์ ผู้ใดฝ่าฝืน มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 200 บาทหรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ” ในสมัยก่อนการออกกฎหมายกฏหมายให้พืชกระท่อมเป็นยาเสพติดต้องห้าม เพื่อเป็นการปกป้องผลประโยชน์ทางการค้าและภาษีของรัฐ เนื่องจากฝิ่นมีการผูกขาดกับรัฐและมีราคาแพง ประชาชนจึงหันมาสูบกระท่อม จึงออกกฏหมายเพื่อไม่ให้คนสูบกระท่อม

 

 

 

 

 

 

เรื่องของ “ต้นกระท่อม” น่ารู้

 พันธุ์ไม้

ต้นกล้วยด่างแดงราคาดีไม่มีตก

ต้นกล้วยด่างแดงราคาดีไม่มีตก

ต้นกล้วยด่างแดงราคาดีไม่มีตก

ถึงกับอ้าปากค้างกับราคาซื้อขายเมื่อช่วงท้ายปี 64 ที่ผ่านมา ต้นกล้วยด่างแดงราคา 10 ล้านบาท คุณพระ!! นี่มันราคาคอนโดหรูใจกลางเมืองชัดๆ …พอสตั๊นเสร็จ ความคิดก็ตามหลังมาว่า สร้างกระแสแน่ๆ ข่าวปลอมชัวร์ เลยรีบหาข่าวจากช่องทางอื่น คุณพระ!! (อีกครั้ง) นี่มันข่าวจริงนี่หว่า นั่งช็อกคาคลิปข่าวไปเลย… ใครจะเชื่อว่าพี่เค้าจะรุ่งจนค่าตัวไปไกลได้ขนาดนี้ ล่าสุดแบกต้นกล้วยด่างแดงราคา 2 ล้านไปเป็นสินสอดแต่งสาว นี่วงการกล้วยด่างมาถึงจุดพีคในพีคแล้วจริงๆ

 

 

ต้นกล้วยด่างแดง หรือกล้วยด่างแดงอินโด หรือกล้วยด่างทับทิมสยาม  เดิมเป็นกล้วยพื้นบ้านมาจากประเทศอินโดนีเซีย ลักษณะทั้งต้นเหมือนกล้วยไทยทั่วไป แต่สีดูยังไงก็ไม่ใช่กล้วย เพราะทั้งต้นเป็นสีน้ำตาลแกมแดงเข้ม สีด่างเกิดที่ใบก็ไม่ใช่ธรรมดาเป็นสีเขียวตองบางต้นอาจมีแซมขาวหรือชมพูอ่อนได้ด้วย เฉพาะแค่สีก็จัดจ้านโดดเด่นแล้ว แต่ที่สุดจริงคือลวดลายด่างจะมีหลายลาย บางลายหายากมากราคาก็แพงมาก และยิ่งถ้าหนึ่งต้นให้ใบด่างที่ลวดลายแต่ละใบไม่เหมือนกันก็จะยิ่งแพงลิบลิ่ว ยกตัวอย่างเช่น ต้นกล้วยด่างแดงราคา 10 ล้านที่เป็นข่าว มีถึง 3 ลายในต้นเดียว คือลายวากิว ลายกาแล็กซี่ และลายตุ๊กแก

แล้วเสน่ห์กล้วยด่างแดงอินโดคืออะไร มันคือความพิเศษในการกลายพันธุ์ของเค้านั่นแหล่ะ แต่ละต้นลูกเล่นลายด่างบนใบจะไม่เหมือนกันเลย ตอนนี้มีให้เห็นกลายพันธุ์ถึงขั้นเป็นสีเหลืองทองทั้งใบ เรียกว่ามีอะไรให้ลุ้นกันตลอดระยะเวลาการเลี้ยง ที่สำคัญส่วนใหญ่สายพันธุ์นี้ต้นลูกสวยกว่าต้นแม่พันธุ์แทบทั้งนั้น เรียกว่าโอกาสที่จะได้ทุนคืนจากการซื้อมาเพาะเพื่อขยายพันธุ์นั้นไม่เกินความคาดหวังแน่นอน และถ้าบำรุงดูแลรักษาดีๆกล้วยแดงอินโดจะโตเร็วให้หน่อเร็วทันใจแน่นอน

 

 

คำถามสำคัญของใครหลายคน ถ้าลงทุนตอนนี้จะยังทันไหม ขอให้ความเห็นว่าการลงทุนนั้นมีทั้งขาดทุนกำไรถ้าคุณพร้อมที่จะเสี่ยงไม่มีคำว่าสายเกินไปแน่นอน  เพียงแค่ควรศึกษาข้อมูลให้ดี ทิศทางการตลาด พร้อมที่จะดูแลเพราะกล้วยด่างไม่ว่าสายพันธุ์ไหนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องให้เวลาเลี้ยงดูบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี ไม่เหมือนคุณไปจับรองเท้า หรือกางเกงยีนส์มาจากแหล่งขายโพสราคาเสร็จก็เก็บไว้ในตู้รอคนมาซื้อ ถ้าซื้อมาเพื่อขายแล้วคุณทำมันตาย อย่าว่าแต่ขาดทุนเลย ของนั้นจะหายวับไปตลอดกาล

 

 

 

 

ต้นกล้วยด่างแดงราคาดีไม่มีตก

 พันธุ์ไม้

ดีหมี สมุนไพรมากสรรพคุณ

ดีหมี สมุนไพรมากสรรพคุณ

ดีหมี สมุนไพรมากสรรพคุณ

สมุนไพรดีหมี ที่มีสรรพคุณทางด้านยา ซึ่งส่วนต่าง ๆ ของต้นสมุนไพรชนิดนี้นั้น สามารถช่วยลดอาการต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง โรคร้อนใน แก้อาการปวดศีรษะ หรือแม้แต่อาการลมพิษ ผื่นคันต่าง ๆ เรียกได้ว่าแทบทุกส่วนของต้นดีหมีนั้น มีประโยชน์มากมายเลยทีเดียว

ซึ่งปัจจุบันมีคนให้ความสนใจในการหันมาปลูกพืชสมุนไพรที่หลากหลายมากขึ้น และต้นดีหมีก็เป็นพืชสมุนไพรที่ปลูกไม่ยาก เพียงแค่มมีความชื้นพอประมาณและเป็นพื้นที่ที่สามารถรับแสงแดดได้ เผื่อใครกำลังมองหาร้านขายต้นดีหมีเพื่อจะนำมาปลูก ก็ลองมาดูข้อมูลของเจ้าต้นนี้กันเลย ว่าราคาและขนาดของมันเป็นอย่างไร เพราะต้นดีหมีนี้สามารถนำส่วนต่าง ๆ ไปเป็นยาได้มากมาย ตั้งแต่แก่น ราก ใบ เลยทีเดียว

 

 

หากใครที่กำลังสนใจในการปลูกต้นดีหมีต้องบอกว่าในปัจจุบันสามารถปลูกได้ไม่ยาก พบได้ทั่วไปในหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นทางอเมริกาใต้ พม่า มาเลเซีย ทางตอนใต้ของประเทศจีน ส่วนในประเทศไทยมักจะพบเห็นได้ในพื้นที่ทางภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นส่วนมาก แต่ก็เริ่มมีร้านขายต้นดีหมีมากขึ้นและยังมีขายแบบออนไลน์อีกด้วย ราคาของต้นก็มักจะขึ้นอยู่กับขนาด จะเริ่มต้นราว ๆ 150 บาท เป็นพืชสมุนไพรที่ไม่กินพื้นที่มากนัก ความสูงของต้นจะอยู่ประมาณ 10 – 20 เมตร เรียกว่าหากบ้านพอมีพื้นที่ก็สามารถปลูกไว้เป็นสมุนไพรคู่ครัวเรือนและยังสามารถให้ร่มเงาได้ด้วย

 

 

ร้านขายต้นดีหมี แต่ละที่จะมีขนาดของต้นไม้ที่แตกต่างกันออกไป หากใครที่อยากเริ่มปลูกตั้งแต่ต้นสามารถหาเมล็ดของดีหมี มาปลูกได้เช่นเดียวกัน แต่หากใครที่ไม่อยากมานั่งเสียเวลารอเมล็ดโต ก็สามารถหาต้นกล้าของดีหมีมาปลูกได้ ซึ่งขนาดความสูงประมาณ 40 – 45 เซนติเมตร ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 350 บาท แต่หากเป็นต้นที่มีขนาดใหญ่ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาท

 

 

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของลำต้นและความเจริญเติบโตด้วย ซึ่งการดูแลรักษาหรือการปลูกก็ไม่ได้ยุ่งยากเลย และยังสามารถนำส่วนต่าง ๆ จากต้นดีหมีนี้มาเป็นยารักษาอาการต่างๆ ได้อีกด้วย เรียกว่านอกจากประโยชน์ของความร่มรื่นแล้ว ยังสามารถใช้ประโยชน์จากสรรพคุณของต้นดีหมีได้อย่างเป็นอย่างดี เพียงแค่นำมาใช้อย่างถูกวิธี เช่นการนำมาต้มและดื่มเพื่อรักษา หรือนำมาอาบเพื่อแก้อาการ นอกจากนั้นยังสามารถนำใบของดีหมีไปลวกทานเป็นเมี่ยงได้อีกด้วย ดีหมี ถือเป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์หลากหลาย เรียกว่าปลูกต้นเดียว สามารถนำแต่ละส่วนไปทำประโยชน์ได้ หากใครต้องการปลูกไว้ไม่เสียหายจ้า

 

 

 

 

ดีหมี สมุนไพรมากสรรพคุณ

 พันธุ์ไม้

รวมไม้ประดับ ที่สามารถกรองสารพิษจากควันบุหรี่ได้อย่างยอดเยี่ยม

รวมไม้ประดับ ที่สามารถกรองสารพิษจากควันบุหรี่ได้อย่างยอดเยี่ยม 

รวมไม้ประดับ ที่สามารถกรองสารพิษจากควันบุหรี่ได้อย่างยอดเยี่ยม 

ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์นั้นเป็นสารพิษที่อยู่ในควันบุหรี่ เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดวลีที่เรามักจะพูดกันว่าคนที่สูบบุหรี่มือสองนั้นจะได้รับโทษมากกว่าคนที่สูบบุหรี่ด้วยตัวเองเสียอีกเพราะสารดังกล่าวที่ออกมาจากควันบุหรี่นั้นเต็มไปด้วยอันตรายมากมายที่ทำให้ผู้สูดควันเข้าไปได้รับอันตรายต่อสุขภาพและยังเป็นต้นเหตุของการเกิดโรคอีกมากมาย ดังนั้นหากใครที่มีสมาชิกในบ้านสูบบุหรี่แล้วอยากจะกรองอากาศให้มีความบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะการกรองควันบุหรี่วันนี้เราก็มีต้นไม้ประดับที่สามารถกรองควันพิษได้มาแนะนำให้ทุกคนได้ลองปลูกกัน

พลูด่าง ต้นไม้ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยมาอย่างยาวนานเนื่องจากมีราคาถูก มีความแข็งแรงทนทาน สามารถปลูกได้ง่ายทั้งในน้ำและในดิน เป็นไม้ประดับที่สามารถปลูกได้ทั้งในอาคารและนอกอาคาร มันเป็นไม้เลื้อยที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก สามารถกรองสารพิษในอากาศได้อย่างยอดเยี่ยม


ปาล์มไผ่ เป็นต้นไม้ที่นิยมปลูกในอาคารเนื่องจากมีรูปทรงสวยงามและเติบโตค่อนข้างช้า มีความแข็งแรงทนทานสูงและเลี้ยงง่าย ไม่ต้องการแดดมากปลูกในอาคารได้โดยที่ไม่ต้องกังวล สามารถกรองควันพิษจากบุหรี่ได้เป็นอย่างดีเราจึงมักเห็นต้นไม้ชนิดดังกล่าวอยู่ในสถานที่ให้สูบบุหรี่


หนวดปลาหมึกใบกลม เป็นต้นไม้ที่สามารถเติบโตได้ดีในที่ร่มจึงมักนิยมปลูกในอาคารเป็นอย่างมาก มีความแข็งแรงทนทานสูงและมีความสวยงามเฉพาะตัวด้วยลักษณะใบที่กลมและสีเขียวเข้มเป็นมัน ดูแลง่าย เพียงแค่ไม่ให้ฝุ่นเกาะต้นไม้ก็แข็งแรงทนทานได้ด้วยตัวเอง สามารถกรองควันบุหรี่และกรองเบนซินได้อีกด้วย ยังสามารถกรองสารก่อมะเร็งอย่างฟอร์มาลดีไฮด์หรือโทลูอีนได้อีกต่างหาก


ยางอินเดีย เป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง 2-3 ปีให้หลังมานี้ ด้วยฟอร์มต้นที่สวยงามเป็นลำต้นเดี่ยวที่มีใบขนาดใหญ่สีเขียวเข้มมันเงา ทำให้มันได้รับความนิยมในการปลูกในอาคารเป็นอย่างมาก สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ได้เป็นอย่างดี หากเจริญเติบโตไปแล้วก็จะมีขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้นและสามารถย้ายไปปลูกลงดินได้อีกด้วย


รวมไม้ประดับ ที่สามารถกรองสารพิษจากควันบุหรี่ได้อย่างยอดเยี่ยม

อโกลนีมา เป็นราชาไม้ประดับที่มีความสวยงามแปลกตาเนื่องจากมันเป็นไม้ด่างที่มีสีชมพูเป็นหลัก โดยลักษณะใบนั้นจะคล้ายใบโพธิ์มีความอ้วนแต่ปลายแหลม ใบจะเป็นสีชมพูเข้มไปจนถึงสีชมพูอ่อนแซมด้วยสีเขียวเข้มบริเวณขอบแล้วกระจายเข้ามาด้านใน สามารถเติบโตได้ดีในโลกและมีความแข็งแรงทนทานสูง สามารถฟอกอากาศและกรองสารพิษได้อย่างยอดเยี่ยม

 

 

 

 

 

รวมไม้ประดับ ที่สามารถกรองสารพิษจากควันบุหรี่ได้อย่างยอดเยี่ยม

 พันธุ์ไม้

ต้นถุงเงินถุงทองชอบแดดไหม

ต้นถุงเงินถุงทองชอบแดดไหม

ต้นถุงเงินถุงทองชอบแดดไหม

เอาใจสายรักต้นไม้กันบ้างกับต้นไม้มงคล ช่วยเสริมสร้างสิริมงคล เมื่อปลูกในบ้าน แน่นอนว่าต้นไม้มงคลมีหลากหลายชนิ และการจะเลี้ยงต้นไม้มงคล ตามหลักความเชื่อแล้ว ต้นไม้จะช่วยส่งเสริมโชคลาภได้ ก็ต้องดูแลอย่างดี ให้ถูกวิธี จึงเป็นอีกข้อที่หลายคนรู้สึกว่า เลี้ยงยาก ดูแลยาก แต่ที่จริงแล้ว การดูแลต้นไม้แต่ละชนิดซึ่งมีความแตกต่าง แต่ก็หาดูและศึกษาได้ทั่ว ๆ ไป และในวันนี้เราจะมาแนะนำต้นไม้มงคล ที่ช่วยเสริมสร้างโชคลาภทางการค้าขาย และการเงิน นั่นก็คือ “ว่านถุงเงินถุงทอง หรือต้นถุงเงินถุงทอง”

 

 

ต้นไม้ชนิดนี้นิยมปลูกในกระถาง และนำมาตกแต่งบ้าน เนื่องจากสามารถช่วยฟอกอากาศ ช่วยกำจัดมลพิษ และฝุ่น pm2.5 ที่มีอยู่ในทุก ๆ ในปัจจุบัน แต่ทว่าการจะดูแลต้นถุงเงินถุงทองอย่างถูกวิธี ไม่ให้เหี่ยวแห้งและตายง่าย เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนยังกังวล แต่ก็ใช่ว่าจะดูแลยากจนไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นซะที่ไหน แล้วตกลงต้นถุงเงินถุงทองชอบแดดไหม

 

 

การดูแลต้นถุงเงินถุงทอง

  1. ต้นไม้ชนิดนี้ จากหลากหลายเว็บไซต์จะบอกว่า เป็นต้นไม้ที่ไม่ชอบน้ำบ้าง หรือต้องการน้ำบ้าง จึงสร้างความสับสนให้กับคนเลี้ยงต้นไม่พอสมควร แต่ความจรองแล้วต้นถุงเงินถุงทอง เป็นต้นไม้ที่ค่อนข้างชอบน้ำ แต่ไม่ใช่สามารถปลูกในน้ำ หรือรดน้ำทุกวัน เช้า-เย็นได้ เพียงแต่ว่า การต้องการน้ำของต้นถุงเงินถุงทอง อยู่ในปริมาณที่พอดี สามารถรดน้ำได้บ่อย ๆ สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง หรือ 2 วันรดน้ำ 1 ครั้ง และที่สำคัญต้องหมั่นสังเกตที่ก้านและใบ หากไม่รดน้ำ หรือได้รับน้ำน้อยเกินไป จะเห็นว่าก้านของต้นจะเริ่มแห้ง และเฉา
  2. ต้นถุงเงินถุงทองชอบแดไหม เป็นอีกปัญหาที่คนอยากเลี้ยงต้นไม้ชนิดนี้ถามกันบ่อยมาก ความจริงแล้วต้นถุงเงินถุงทองเป็นพืชที่มีต้นกำเนิดมาจากเขตร้อน เพราะฉะนั้นก็สามารถที่จะอยู่กลางแจ้ง หรือรับแสงแดดได้ หรือเอนเอียงไปทางชอบแสงแดดเลยก็ว่าได้ หากใครที่อยากปลูกต้นไม้ชนิดนี้ภายในรอบบ้าน ควรเลือกมุมที่แสงแดดส่องถึงในทุกวัน และหากใครต้องการปลูกไว้ในบ้านเพื่อฟอกอากาศ ควรวางในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง หรือนำต้นถุงเงินถุงทองออกมารับแสงแดดในทุกเช้า จะช่วยให้ลำต้นและใบสมบูรณ์ ไม่เหี่ยวแห้ง

 

สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ในการปลูกต้นถุงเงินถุงทอง ต้องศึกษาเรื่องการดูแลทั้ง การให้น้ำและแสงแดดด้วยนะคะ และใครที่สงสัยว่าต้นถุงเงินถุงทองชอบแดดไหม ชอบน้ำไหม สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่เราเอามาแชร์ได้เลย

 

 

 

ต้นถุงเงินถุงทองชอบแดดไหม

 พันธุ์ไม้

 ปลูกต้นยางนา อย่างไรให้รอด

 ปลูกต้นยางนา อย่างไรให้รอด

 ปลูกต้นยางนา อย่างไรให้รอด

ใครที่ต้องการจะปลูกต้นยางนา อันดับแรกเราก็จะต้องเตรียมพื้นที่ให้พร้อมก่อน โดยส่วนมากเหมาะจะปลูกในช่วงฤดูฝนมากกว่าช่วงฤดูอื่นๆ

สำหรับวิธีการปลูกต้นยางนา ให้รอดตาย มีดังนี้

เริ่มด้วยการขุดหลุม ลึกประมาณ 1ฟุต ยาว 1 ฟุต และกว้างอีก 1 ฟุต โดยการขุดจำเป็นจะต้องแยกดิน คนละครึ่ง หันไปขุดดินทางทิศตะวันออกก่อน 1 ส่วน และจึงหันกลับมาขุดดินทางทิศตะวันตกต่อ ทำแบบนี้ สลับกันอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะได้ความลึกยาวถึง 1 ฟุต

ซึ่งหลังจากที่เราขุดหลุมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็นำปุ๋ยคอกกับปุ๋ยหมัก ทั้งหมด 1 กำมือ โรยลงไปบนหน้าและคลุกให้เข้ากัน แล้วขุดขึ้นมาเล็กน้อย พอหลังจากนั้นเราก็นำดินฝั่งตะวันออกลงมากลบ แล้วต่อด้วยดินฝั่งตะวันตกให้เต็ม ต่อด้วยขุดหลุมเล็ก บริเวณตรงกลางหลุมที่กลบ ให้เท่ากับต้นกล้าที่เราเตรียมเพื่อนำลงมาปลูก

 

 

และหลังจากที่เราขุดหลุมเตรียมปลูกไว้เรียบร้อยแล้ว เราก็นำต้นกล้าที่ยังอยู่ในถุงดำ ไปแช่น้ำเป็นระยะเวลาทั้งหมด 5 นาที ด้วยกัน แล้วหยิบถุงดำออกให้หมด  เราสามารถนำถุงดำไปตากให้แห้ง และใช้งานต่อไปได้ สำหรับต้นกล้า หลังออกจากถุงดำ ก็ใส่ลงไปในหลุมที่เราขุดไว้ ต่อด้วยการนำดินกลบ ต้องให้แน่น เพื่อเป็นการยึดต้นกล้าให้อยู่ รอเวลาไปอีก 1 เดือน ไม่จำเป็นต้องรดน้ำ  เนื่องจาก ต้นยางนา ทนต่อความแล้งได้เป็นอย่างดี  และปล่อยไปตามธรรมชาติได้เลย

 

 ปลูกต้นยางนา อย่างไรให้รอด

 

ส่วนเรื่องของ โรคกับแมลง ที่จะมากวน ต้นยางนา ในช่วงที่ยังเป็นเมล็ด อยู่ ก็คือ โรคเชื้อราที่จะทำให้เมล็ดเน่าเร็วขึ้น และตอนที่เป็นต้นกล้าอยู่ ก็จะมี โรคเน่าคอดิน,ด้วงงวงเจาะเมล็ด,แมลงศัตรูพืช ต่างๆ โดยสามารถแยกเป็น แมลงกินใบ อย่างเช่น หนอนบุ้ง,ด้วงค่อมทอง แมลงเจาะลำต้น อย่างเช่น ด้วงหนวดยาวเจาะ  ลำต้น รวมถึงแมลงเจาะเปลือก อย่างเช่น ด้วงเจาะเปลือกด้วย

 

 

มาพูดถึงปัจจัยของการปลูกกันบ้าง ต้นยางนาจะชอบดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ ส่วนเรื่องของความชื้น ต้นยางนาจะชอบความชื้นอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น สามารถตั้งไว้ตรงที่มีแสงแดดส่องถึงได้ เพราะว่าลูกไม้ยางนา จะขึ้นตรงใต้ร่มเงาไม้ใหญ่มากกว่า โดยถ้าเกิดปลูกจนต้นยางนามีขนาดที่โตพอสมควรแล้ว เราสามารถย้ายไปปลูกที่อื่นได้ตามใจชอบ  สำหรับอัตราการเติบโตของต้นยางนา จะค่อนข้างช้าสักเล็กน้อย  ซึ่งไม้ยางนาที่มีอายุ14 ปี จะมีเส้นรอบวงประมาณ 82.84 เซนติเมตร นั่นเอง

 

 

 ปลูกต้นยางนา อย่างไรให้รอด

 พันธุ์ไม้