การประกวดบอนไซ

การประกวดบอนไซ

การประกวดบอนไซ

      การประกวดบอนไซ   ได้มีการจัดประกวดในหลายสถานที่  หลายจังหวัด  และหลายประเทศ  ด้วยกัน  ซึ่งจะมีการกำหนดกฎเกณฑ์ในการตัดสินแตกต่างกันไป    ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยประกอบกันด้วย   แต่จุดประสงค์หลักในการจัดประกวดบอนไซนั้น ก็เพื่อเปิดโอกาสให้กับผู้รักการทำบอนไซได้โชว์ผลงานให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

ซึ่ง การประกวดบอนไซ ของประเทศไทยเรานั้น  จะดูในเรื่องของพันธุ์ไม้  ประเภทไม้  ความสูง  และ ขนาด   ประกอบกัน   ซึ่งทางคณะกรรมการจะให้ความสำคัญกับรูปแบบหรือทฤษฎี ที่ตั้งไว้    ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของโคนรากที่ต้องมีรอบต้น    ลำดับของกิ่งที่ขึ้นนั้นจะต้องเป็นแบบมาตรฐาน 1 2 3   หรือจะเป็นในเรื่องของความสวยงาม ความโดดเด่น  ความแข็งแรง หรือความสมบูรณ์  เป็นต้น    และสำหรับการประกวดบอนไซจะทำการแยกประเภทไม้ ออกเป็น ไม้ลำต้นตรง  ไม้ตอ   ไม้ซาก  ไม้ทรง  ไม้เกาะหิน โดยเรียงลำดับการดูจาก  กระถาง  วัสดุปลูก  ราก  ลำต้น  กิ่ง  ใบ  ยอด  และความเป็นไม้ของบอนไซ   ดังนั้นเราจึงได้ทำการยกตัวอย่างเกณฑ์การตัดสินโดยดูจากประเภทของไม้และรายละเอียดต่างๆ

ประกวดบอนไซ
ประกวดบอนไซ

ดังนี้ ไม้ลำต้นตรง จะพิจารณา

  1. ขนาดของกระถางต้องมีความเหมาะสมกับลำต้นและความสูงของไม้
  2. ต้องเป็นวัสดุจากธรรมชาติ และมีวัสดุพื้นผิวปกคลุมไว้ด้วย อย่างเช่นมอส เป็นต้น
  3. ส่วนตำแหน่งของรากนั้นจะต้องขึ้นเป็นระเบียบรอบโคน มองเห็นได้ชัดเจน มีความสมดุล  และมีความแข็งแรงมั่นคง
  4. ลำต้น จะต้องตรงตามประเภทของทรงไม้ในแต่ละประเภทที่ส่งเข้าประกวด
  5. กิ่ง จะต้องขึ้นให้เป็นระเบียบ   หน้า  หลัง  ซ้าย  ขวา  โดยดูจังหวะการขึ้นรอบลำต้น  แต่ต้องไม่ทับซ้อนกัน  และการพันลวดต้องไม่เกิน 20%
  6. ใบ จะต้องมีขนาดใบเล็กสมส่วน  ดูแล้วมีความกลมกลืนกัน
  7. ยอด ต้องไม่หนาแน่นเกินไป  มองได้ชัดเจน  มีลักษณะตั้งตรงเป็นไปในแนวทางเดียวกับลำต้น
  8. ต้องดูเป็นไม้ที่บ่งบอกว่ามีอายุ และเป็นทรงพุ่มที่สวยงาม

นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาในส่วนอื่นๆ ที่นำมาเป็นองค์ประกอบในการจัดวางบอนไซอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น  ชั้นโชว์  สัดส่วนหรือรูปแบบการจัดวางบอนไซ  เป็นต้น  ซึ่งเกณฑ์การพิจารณาการให้คะแนนนั้น จะมีความใกล้เคียงกันหลายอย่าง  อาจแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยขึ้นอยู่กับประเภทของไม้นั้นๆ

บอนไซ
บอนไซ

แต่ทั้งนี้เกณฑ์ในการตัดสิน  ประกวดบอนไซ  ที่ได้กล่าวมานั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่ง  แต่ก็ช่วยเพื่อเป็นแนวทางสำหรับหลายๆ คน ที่ต้องการจะ เข้าร่วมประกวดบอนไซ  แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการฝึกฝน  ฝีมือในการทำของแต่ละคนด้วยเช่นกัน


1000maidee.com

ต้นไม้ที่นำมาทำบอนไซ มีหลายชนิดหลายพันธุ์ที่อยากแนะนำ

ต้นไม้ที่นำมาทำบอนไซ มีหลายชนิดหลายพันธุ์ที่อยากแนะนำ

ต้นไม้ที่นำมาทำบอนไซ

         ต้นไม้ที่นำมาทำบอนไซ  ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ที่มีลักษณะเป็นพุ่ม  มีกิ่งสวยงาม   แข็งแรงแต่มีความยืดหยุ่นในการตัดแต่งทรง   และควรจะเป็นไม้ยืนต้นที่ดูมีอายุยืน   ซึ่งถ้าเป็นต้นไม้ที่มีขนาดใบเล็กด้วยแล้ว  สามารถนำมาใช้ทำบอนไซได้เกือบทุกชนิด  เพราะต้นไม้เหล่านี้จะทำบอนไซออกมาได้สวยงามมากจริงๆ

ต้นไม้ที่นำมาทำบอนไซ  มีหลายชนิดหลายพันธุ์  แต่ต้องมีลักษณะเป็นไม้ที่คุมใบได้ ริดใบได้ สามารถกระชับทรงได้ดี อย่างเช่น ต้นเกล็ดปลาหมอ หมากเล็กหมากน้อย ไม้ซากเทียนทะเล หนามพรม เป็นต้น ส่วนไม้ที่เป็นใบประกอบ กิ่งยืด ข้อยืด เช่น ต้นมะยม มะม่วง จะไม่เหมาะที่จะนำมาสร้างเป็นบอนไซ เราจึงได้ทำการคัดเลือกต้นไม้ที่เหล่านักเล่นบอนไซนิยมกันมาก มาให้ได้ลองเลือกและตัดสินใจกันว่าจะใช้ต้นไม้อะไรดีที่จะมาทำบอนไซ

ต้นหมากเล็กหมากน้อย ซึ่งก็มีหลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน ลักษณะของต้นนั้นบางพันธุ์จะมีปุ่มตรงโคน  บางต้นใบหยักน้อยหยักมากแตกต่างกันไป  แต่นิยมนำมาทำบอนไซเพราะ เป็นไม้ที่เกาะหินได้ดีกว่าไม้จำพวกตระกูลไทย  และเกาะได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย


ไม้ซากเทียนทะเล ลักษณะของต้นจะมีใบขนาดเล็ก มีดอก ลำต้นสวย  เนื้อไม้เป็นริ้ว  มีลวดลายสวยงาม ผิวพรรณดูเป็นไม้เก่ามีอายุนาน ซึ่งดูแล้วโดดเด่นเป็นอย่างมาก


หนามพรม เป็นไม้เถากึ่งไม้เลื้อย มีลักษณะเนื้อไม้แข็ง  อายุยืน   ส่วนใหญ่นิยมนำมาทำเป็นทรงตกกระถาง


เพรมน่า เป็นไม้พุ่ม มีลักษณะรูปใบทรงใบเล็ก  เหมาะมาทำเป็นทรงรากเกาะหิน    ส่วนใหญ่นักเล่นบอนไซมือใหม่จะนึกถึงต้นนี้กันมาก  เพราะเลี้ยงง่ายและตายยาก


ชาฮกเกี้ยน เป็นไม้ที่มีเนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นดี  ทนต่อการบิด โค้งงอ  ได้ดี  ทำให้เป็นไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก


ตะโก มีลักษณะเป็นไม้เนื้อเหนียว ปลูกง่าย  เลี้ยงง่าย  ทนทุกสภาพอากาศ  นิยมมากในหมู่นักเล่นบอนไซ


ต้นไม้ที่นำมาทำบอนไซ

เกล็ดปลาหมอ ลักษณะลำต้นดูสวยงาม มีใบขนาดเล็ก   มีกิ่งแข็งแรง  ทนทานต่อการ ตัด ตกแต่งได้ดี


ต้นไม้ที่นำมาทำบอนไซ

มะขาม เป็นไม้ยืนต้น ที่มีลำต้นแข็งแรง  มีใบขนาดเล็ก  ไม่มีหนาม  เปลือกหนาไม่เรียบ   นิยมนำมาทำเป็นบอนไซเพราะทนต่อการจัดรูปทรง


นอกจากที่กล่าวมาแล้วนี้    ต้นไม้ที่นำมาทำบอนไซ   ได้นั้นยังมีต้นไม้ประเภทที่มีดอกสวยงาม   เช่น ผกากรอง ชบา  เฟื่องฟ้า  เทียนหยด  เป็นต้น   แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมมากเพราะเป็นไม้เนื้ออ่อนและบางชนิดมีอายุสั้น

 

 

 

สาระพันธุ์ไม้ 

บอนไซญี่ปุ่น การปลูกไม้ประดับในกระถางที่มีชื่อเสียงที่สุด 1000maidee บทความ

บอนไซญี่ปุ่น การปลูกไม้ประดับในกระถางที่มีชื่อเสียงที่สุด

บอนไซญี่ปุ่น การปลูกไม้ประดับในกระถางที่มีชื่อเสียงที่สุด

         บอนไซญี่ปุ่น   เป็นไม้ประดับที่ปลูกในกระถาง  ซึ่งมีหลายขนาดด้วยกัน ต่างมีรูปทรงสวยงาม แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการตัดแต่งทรง และพันธุ์ไม้ที่นำมาทำ เป็นบอนไซด้วย  ส่วนในประเทศญี่ปุ่น เราสามารถหาชมบอนไซได้ตามสถานที่ต่างๆ   อย่างเช่น โรงแรม สวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ ตามบ้านเรือน  หรือตามต่างจังหวัด ที่มีการปลูกบอนไซ

บอนไซญี่ปุ่น เกิดขึ้นในยุคเฮอัน  โดยได้รับวัฒนธรรมมาจากประเทศจีนในยุคของราชวงศ์ถัง  ซึ่งในขณะนั้นได้รับความนิยมแค่ในหมู่ชนชั้นสูงและในหมู่ของซามูไรเท่านั้น     ต่อมาในยุคคามาคุระความนิยมเริ่มลดลง ส่วนใหญ่การปลูกบอนไซจะเป็นแค่งานอดิเรกเพียงอย่างเดียว  และพอเข้าสู่ช่วงยุคเอโดะบอนไซกลับได้รับความนิยมขึ้นมาอีกครั้งเรียกได้ว่าเป็นยุคแห่งความเฟื่องฟูเลยก็ว่าได้   แต่ความเฟื่องฟูนั้นก็ไม่ได้อยู่นาน   เมื่อเริ่มเข้าสู่ยุคเมจิ  ความนิยมของบอนไซญี่ปุ่นก็เริ่มลดลง   เนื่องจากการดูแลรักษาและระยะเวลาที่ยาวนานในการเลี้ยงดู   ทำให้จะเหลือแค่เฉพาะคนที่สนใจและมีใจรักในบอนไซเท่านั้นที่ยังทำกันอยู่   ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีอายุค่อนข้างมากแล้ว  ที่พอจะมีเวลาเหลือในการเฝ้ามองดูต้นไม้เจริญเติบโต     หลังจากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปจนล่วงเลยมาถึงปี ค.ศ.1990 เป็นต้นมา

บอนไซได้เริ่มกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในหมู่ชาวต่างชาติและได้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก  ทำให้หมู่คนญี่ปุ่นเริ่มหันมาให้ความสนใจและเริ่มที่จะปลูกบอนไซกันมากขึ้นนั่นเอง    ถ้าพูดถึงบอนไซหลายคนอาจจะคิดว่าเป็นต้นไม้ชนิดหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น  แต่เป็นต้นไม้ที่ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์อะไร ที่มีดอก  ใบ  พันธุ์กิ่ง  หรือที่ให้ผล ก็สามารถนำมาทำเป็นบอนไซได้หมด  โดยคนญี่ปุ่นนิยมนำต้นไม้ที่มาปลูกเป็นบอนไซนั้นจะเป็นพวกต้นสนต่างๆ  อย่างต้นสนเกี๊ยะ  หรือต้นสนดำ แต่ต้นไม้อื่นๆ นอกเหนือจากนี้ก็นำมาทำได้เหมือนกัน เช่น  ต้นไผ่  ต้นซากุระ  ต้นพลับ  หรือพวกไม้พุ่มเตี้ย   เป็นต้น

บอนไซญี่ปุ่น การปลูกไม้ประดับในกระถางที่มีชื่อเสียงที่สุด

การนำต้นไม้มาปลูกเป็น บอนไซญี่ปุ่น นั้น  แนะนำว่าควรเลือกกระถางที่เป็นเนื้อดินเผา และไม่มีการเคลือบอะไรเลยทั้งสิ้น  ส่วนรูปทรงหรือสีสันก็ให้ดูต้นไม้ที่นำมาปลูกประกอบกันด้วย  เมื่อนำต้นไม้มาปลูกลงในกระถาง   ให้นำมาจัดวางในที่มีแสงแดดส่องถึงได้ดี   และการให้น้ำควรให้แต่พอดี  โดยในแต่ละครั้งที่รดน้ำให้ทำการรดที่รากให้ชุ่ม  จนเต็มกระถาง  และควรที่จะดูแลให้ดี เพราะหัวใจของการปลูกบอนไซนั้นคือ การจัดทรง  ตกแต่งกิ่ง  ให้สวยงาม  นั่นเอง

สาระพันธุ์ไม้ 

มือใหม่เลี้ยงบอนไซ ไม่ใช่เรื่องยากแต่ต้องใส่ใจ 1000maidee บทความ

มือใหม่เลี้ยงบอนไซ ไม่ใช่เรื่องยากแต่ต้องใส่ใจ

มือใหม่เลี้ยงบอนไซ ไม่ใช่เรื่องยากแต่ต้องใส่ใจ

        มือใหม่เลี้ยงบอนไซ  คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่มือใหม่อย่างเราจะมาทำบอนไซได้ทันที  เราควรจะต้องทำการศึกษาให้ละเอียดถึงวิธีการทำบอนไซ และต้องดูความพร้อมของตัวเราก่อนด้วยว่าสามารถที่จะมีเวลาดูแลต้นไม้ได้ขนาดไหน  เพราะในการดูแลบอนไซนั้น  จะว่าดูแลยากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย  แต่ก็ขึ้นอยู่กับเวลาและการดูแลเอาใจใส่อย่างจริงจังด้วยเช่นกัน

สำหรับ มือใหม่เลี้ยงบอนไซ  ที่เพิ่งจะเริ่มต้นนั้น ก่อนอื่นต้องเริ่มจากการหาต้นไม้ที่จะเอามาทำบอนไซ   ซึ่งต้นไม้เกือบทุกชนิดที่อยู่ใกล้ตัวเราสามารถที่จะนำมาทำได้หมดเลย   ยิ่งมีใบเล็กยิ่งดูสวย  อย่างเช่น

  • ต้นโพธิ์
  • ต้นแพรมน่า
  • ต้นข่อย
  • ต้นเข็ม
  • ตะโก
  • มะขาม

ต้นไม้เหล่านี้ใช้ได้ดีเลยทีเดียว เพราะเลี้ยงง่ายและตายยาก   ข้อควรระวังเมื่อเวลาขุดต้นไม้หรือตัดต้นไม้ที่นำมาปลูกเพื่อเตรียมมาทำบอนไซ  ควรใช้ปูนแดงทาที่แผลก่อนเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราขึ้น   หลังจากที่ได้ต้นไม้มาแล้ว  ที่นี้เราจะมาดูเรื่องลวดที่จะเอาไว้ใช้มัดว่าควรใช้ลวดอะไร  เมื่อเวลาที่เราต้องจับต้นและกิ่งมาบิดเพื่อที่จะสร้างให้เป็นบอนไซ แนะนำให้ใช้ลวดอลูมิเนียม  ซึ่งมีขายตามร้านวัสดุก่อสร้างทั่วไป  ซึ่งลวดนี้ใช้ได้ดีและไม่ขึ้นสนิมจึงทำให้ไม่เป็นอันตรายกับต้นไม้

การเลือกดิน ให้ใช้เป็นดินถุงมีขายตามร้านขายต้นไม้ทั่วไป  ราคาไม่แพง  ในนั้นจะมีส่วนผสมของดินใบก้ามปู  มูลสัตว์   ขุยมะพร้าว  แกลบดำ   ซึ่งสามารถเก็บความชุ่มชื้นได้ดี  ทำให้ดินไม่แห้งจนเกินไป  ถ้าเอาดินที่ขุดเอง ไม่แนะนำเพราะจะทำให้รากเดินได้ไม่ดีและจะทำให้ต้นไม้โตช้า  การเลือกกระถางนั้นมีให้เลือกหลายแบบหลายทรง  จะเลือกแบบไหนก็ได้ แต่ต้องเอาที่ก้นกระถางมีรู ไว้สำหรับระบายน้ำและเพื่อให้รากเดินได้ดี     ในเบื้องต้นให้เลี้ยงในกระถางทั่วไปก่อน  พอต้นไม้โตประมาณ80% ค่อยย้ายไปปลูกอีกกระถางที่เตรียมทำบอนไซ เพราะจะทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตช้า  ซึ่งเป็นหลักสำคัญของการทำบอนไซนั่นเอง    จริงๆ แล้วการดูแลบอนไซก็เหมือนกับการที่เราดูแลต้นไม้ทั่วไป   ควรที่จะนำออกแดดบ้างแต่ไม่ใช่ในแสงแดดจัด  แต่ให้เป็นแสงแดดรำไรก็พอ  หรือหากใครวางในที่ร่มก็ควรจะวางตรงที่มีแสงแดดส่องถึง   และไม่ต้องรดน้ำบ่อย แค่วันละ 1 ครั้งก็พอ  ส่วนการใส่ปุ๋ย เพื่อทำให้ใบมีสีเขียวสดใส  แต่ให้ใส่เดือนละครั้งเหมือนกัน

ในการจัดรูปทรงสำหรับ มือใหม่เลี้ยงบอนไซ  นั้นแล้วแต่เราจะเล่นรูปทรงแบบไหน แต่ทั้งนี้ให้ดูทรงลำต้นเป็นสำคัญ    ส่วนการแกะลวดที่ใช้มัดบอนไซนั้นให้เริ่มสังเกตุว่า  ต้นไม้อมลวด หรือต้นไม้เป็นรอยลวดหรือไม่   ถ้าเป็นก็แสดงว่าต้นไม้ได้อยู่ทรงแล้ว

วิธีดูแลต้นไม้

ศิลปะของบอนไซ วัฒนธรรมการปลูกต้นไม้ที่นที่รู้จักกันทั่วโลก 1000maidee บทความ

ศิลปะของบอนไซ วัฒนธรรมการปลูกต้นไม้ที่นที่รู้จักกันทั่วโลก

ศิลปะของบอนไซ วัฒนธรรมการปลูกต้นไม้ที่นที่รู้จักกันทั่วโลก

        ศิลปะของบอนไซThe Art of Bonsai กล่าวได้ว่าเป็นวัฒนธรรมที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณและเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก  การทำบอนไซนั้นต้องใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อให้เกิดเป็นบอนไซที่สวยงาม    มองดูเหมือนกับต้นไม้ใหญ่ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ   เพียงแต่เราได้นำรูปแบบของต้นไม้ใหญ่มาย่อสวนในกระถางด้วยฝีมือของเรานั่นเอง    ซึ่งต้องอาศัยความรู้  ความชำนาญ  ประสบการณ์ และระยะเวลา  ในการทำ

ศิลปะของบอนไซ   คืองานศิลปะที่มีชีวิต  เพราะบอนไซนั้นเป็นงานที่ต้องใช้ความประณีตในการทำอย่างมาก  ซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาในการสร้างเป็นปีกว่าที่จะได้บอนไซในรูปแบบที่ต้องการ   ดังนั้นเมื่อใช้เวลานานจึงทำให้มูลค่าของบอนไซเพิ่มสูงขึ้น    ถ้าจะแปลความหมายของบอนไซนั้น   เดิมเป็นคำที่ออกเสียงเพี้ยนมาจากภาษาจีน  คำว่า “เผินใจ่”   พอออกเสียงเพื้ยนมากเข้าเลยกลายเป็น “บอน”  แปลว่า “กระถาง”  ส่วนไซนั้น แปลว่า “ต้นไม้”  เมื่อนำมารวมกันจะให้ความหมายว่า “ต้นไม้ที่จัดวางในกระถาง”  จุดประสงค์ในการทำบอนไซขึ้นมาคือต้องการจะย่อส่วนของต้นไม้ใหญ่ เพื่อมาประดับไว้ในบ้านทำให้ดูสวยงาม

โดยผู้ที่คิดริเริ่มทำบอนไซคนแรก คือ “ตู๋หวยหมิง”  ซึ่งเป็นจินตกวี ของประเทศจีน   ปัจจุบันบอนไซแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ  ไม้จากป่า  กับไม้จากสวน   ซึ่งแตกต่างกันในเรื่องของต้นกำเนิด  ถ้าเป็นไม้จากป่าจะขึ้นเองตามธรรมชาติ  ส่วนไม้จากสวนจะเกิดขึ้นเพราะฝีมือมนุษย์ได้ทำการเพาะเมล็ด  หรือการชำกิ่ง  โดยเลี้ยงตั้งแต่ยังเล็กจนเติบโตเป็นไม้ใหญ่   แต่เมื่อเทียบกันแล้วไม้ป่าจะมีราคาแพงกว่า  เพราะไม้ป่าจะหายากและมีกฎหมายห้ามขุดนื่องจากเป็นเขตอนุรักษ์   แต่ที่ยังมีขายกันอยู่จะเป็นไม้เก่าที่ตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นนั่นเอง  เอกลักษณ์ของไม้จะไม่เหมือนกัน   อย่างไม้ป่าจะมีความแปลกของลำต้นตรงที่จะเจอความโหดร้ายจากภัยธรรมชาติ  ทำให้เกิดเป็นซากเกาะติดอยู่ที่ลำต้น มองดูคล้ายงานศิลปะ ซึ่งทำให้เกิดเป็นไม้ที่มีคุณค่า   แต่ถ้าเป็นไม้สวนนั้นจะไม่มีซากที่เกิดจากธรรมชาติที่ต้นไม้  ดังนั้นคนที่เลี้่ยงบอนไซจึงต้องเติมแต่งเลียนแบบต้นไม้ให้คล้ายคลึงกับต้นไม้จากป่ามากที่สุด  ซึ่งทำให้ขาดเสน่ห์ไป

ศิลปะของบอนไซ   นอกจากจะเป็นแค่งานศิลปะแล้ว  บอนไซยังถือว่าเป็นวัตถุมหัศจรรย์ชิ้นหนึ่ง  ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เราได้จ้องมองดู  หรือแม้แต่การลงมือทำ    ก็จะรู้สึกว่าจิตใจสงบ   ผ่อนคลาย  เหมือนกับเรากำลังตกอยู่ในภวังค์หรือต้องมนต์สะกด   ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์และยังถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของบอนไซอีกด้วย

สาระพันธุ์ไม้