กล้วยป่าด่าง ของป่าแต่งสวน

กล้วยป่าด่าง ของป่าแต่งสวน

กล้วยป่าด่าง ของป่าแต่งสวน

กล้วยป่าด่าง ของป่าแต่งสวน เดิมคนไทยปลูกกล้วยไว้เป็นไม้มงคลประจำบ้าน โดยมีเคล็ดว่าถ้ามีต้นกล้วยอยู่ในบ้านทำการงานอะไรจะราบรื่นเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก แต่เหตุผลหลักคือปลูกไว้เพื่อเก็บผลมารับประทาน ซึ่งถือว่าเป็นผลไม้ที่ให้คุณประโยชน์ทางโภชนาการเป็นอย่างมาก เด็กกินดีผู้ใหญ่กินได้ แต่ใครจะคิดล่ะว่า..ปัจจุบันเป้าประสงค์ของการปลูกกล้วยนั้นเปลี่ยนไป กลายเป็นไม่ได้ปลูกไว้เพื่อรับประทานแต่มีไว้เพื่อประดับบ้านและบารมีเจ้าของ กล้วยที่ว่านั้นตอนนี้เป็นที่รู้จักกันดีนั่นคือ กล้วยด่าง

จะว่าไปทุกสายพันธุ์กล้วยตอนนี้ถ้าต้นไหนด่างจะเป็นที่สนใจของนักสะสมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ตานี กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า เทพพนม และสายพันธุ์อื่นๆอีกมากมาย  ขึ้นอยู่กับความนิยมว่าช่วงไหนกระแสพันธุ์อะไรมา แม้กระทั่งกล้วยป่าด่าง ถ้าตามชื่อมันก็ควรเป็นกล้วยที่อยู่ในป่า  แต่ถ้าต้นไหนด่างก็จะโดนย้ายรกรากมาปลูกเติบโตอยู่สวนในบ้านแทน ทั้งที่ผลก็ไม่อร่อย จริงๆแล้วกล้วยป่าด่างเป็นกล้วยด่างสายพันธุ์แรกๆที่นักสะสมในวงการกล้วยด่างจะรู้จักกันดี เพราะเป็นกล้วยที่ขึ้นตามธรรมชาติป่าเขาถึงจะหายากแต่ก็ไม่ต้องไปหาซื้อเสียเงิน ปัจจุบันก็ยังมีคนเข้าป่าลึกฝ่าดงเขาหากันอยู่ ใครเจอก็เหมือนถูกรางวัลนำมาขายโดยไม่มีต้นทุนอะไร บางคนก็นำมาขยายพันธุ์ขายเมล็ดขายหน่อสร้างรายได้ดีกว่าของป่าทั่วไปซะอีก

ถึงกล้วยป่าด่างราคาไม่แรงเท่าสายพันธุ์อื่น เช่น ฟลอริด้า หรือแดงอินโด แต่ก็ได้รับความนิยมไม่น้อย ราคาก็จะขึ้นอยู่กับลายด่างเช่นกัน และสายพันธุ์ที่เป็นที่รู้จักกันในตลาดซื้อขายคือ

 

 

ลายหินอ่อน ลักษณะลายด่างจะเป็นสีขาวถึงเขียวอ่อน ลายด่างจะมีให้เห็นอยู่ทั่วใบจนถึงก้านใบ ลวดลายจะดูคล้ายลายหินอ่อน จึงเป็นที่มาของชื่อนี้

 

 

ลายเสือพราน กล้วยป่าด่างตัวนี้จะค่อนข้างทำให้คนสับสนมากพอสมควร บางทีแค่ใช้สายตาดูก็อาจจะงงๆเหมือนกันว่าแล้วมันต่างกันตรงไหน เพราะจะมีเสือพรานด่างอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ลักษณะจะคล้ายกันมากแต่ราคาก็จะสูงกว่ามาก ข้อสังเกตความต่างระหว่างสองสายพันธุ์นี้คือให้ดูที่ทรงใบ ถ้าเป็นกล้วยป่าด่างลายเสือพรานจะสั้นและอ้วนกว่า ก้านใบและลำต้นจะเป็นสีเขียว หลังใบเป็นสีเขียวหม่น ในส่วนที่คล้ายกันจนทำให้สับสนคือลายที่แทบจะแยกกันไม่ออกกับสีของลายด่างจะเป็นสีแดงเข้มหรือสีเลือดหมู

 

 

 


1000maidee.com

กล้วยไม้ รองเท้านารี

กล้วยไม้ รองเท้านารี

กล้วยไม้ รองเท้านารี

รองเท้านารี จัดเป็นกล้วยไม้ที่ได้รับความนิยมในการปลูกกันอย่างแพร่หลาย มีการลักลอบในการนำออกมาจากป่าเป็นจำนวนมาก ทำให้ปริมาณของกล้วยไม้รองเท้านารีจากแหล่งธรรมชาติใกล้สูญพันธุ์ กล้วยไม้นารีจัดเป็นพืชอนุรักษ์พันธุ์พืชที่ใกล้สูญพันธุ์ ถูกควบคุมไม่ให้มีการส่งออกกล้วยไม้พันธุ์แท้ที่เก็บจากป่า ยกเว้นพืชอนุรักษ์ที่ได้จากการขยายพันธุ์เทียเท่านั้น หากมีการปลูกเลี้ยงหรือจัดจำหน่ายต้องจดทะเบียนพืชอนุรักษ์และจดทะเบียนสถานที่ปลูกเลี้ยงและขยายพันธุ์กับกรมวิชาการเกษตรกร

 

 

กล้วยไม้รองเท้านารี นักพฤกษศาสตร์ได้จำแนกไว้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มแรก : เป็นประเภทที่ขึ้นอยู่ตามพื้นดินที่มีเศษซากใบไม้ผุทับถมกันอยู่ เช่น รองเท้านารีคางคบ

กลุ่มที่สอง : เป็นประเภทอิงอาศัยอยู่ตามร่มเงาบนต้นไม้ เช่น รองเท้านารีอินทนนท์

กลุ่มที่สาม : เจริญเติบโตอยู่ตามหน้าผาหินปูน ที่มีเศษซากพืชติดค้างทับถมกันแทรกอยู่ตามรอยแยกของผาหิน เช่น รองเทานารีสีเหลืองตรัง

ดังนั้น การเตรียมวัสดุปลูกกล้วยไม้รองเท้านารีแต่ละชนิดจึงแตกต่างกันไปตามกลุ่ม หรือชนิดที่จำแนกไว้ข้างต้น ทั้งนี้ วัสดุปลูกกล้วยไม้รองเท้านารี ต้องทำเป็น 2 ชั้น ตามความสูงของกระถาง หรือภาขนะปลูก หากใช้กระถางดินเผาที่มีรูรอบข้าง ข้อดีคือ สามารถรักษาความชื้นได้ดี แต่ข้อเสียที่มีน้ำหนักมากและราคาแพง กระถางพลาสติก ข้อดีคือ หาง่ายและน้ำหนักเบา ข้อเสีย ความสามารถในการระเหยน้ำได้น้อย และกระเช้าหรือกระถางไม้ เหมาะสำหรับกลุ่มที่อิงอาศัยอยู่ตามคาบไม้

 

 

กลุ่มอาศัยตามพื้นดิน : ใส่วัสดุเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างใส่วัสดุปลูก ปริมาณ 2 ใน 3 ส่วน ตามความสูงของกระถาง วัสดุปลูกประกอบด้วย โฟมหักเป็นชิ้นเล็ก ๆ กระถางหินเผาแตก และอิฐหัก ในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน ส่วนบนของกระถาง ใช้ปริมาณ 1 ใน 3 ของกระถาง หรือภาชนะปลูก มีกาบมะพร้าวสับ ใบก้ามปูหมัก และพีทมอสส์ ในอัตราส่วน 2 : 2 : 1 และจากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนจะใส่ลงในภาชนะปลูก

กลุ่มอิงอาศัยตามคาคบไม้ : ให้ทำแบบเดียวกับกลุ่มแรก โดยวัสดุส่วนล่างนั้นเหมือนกัน ส่วนวัสดุด้านบน มีกาบมะพร้าวสับ และเปลือกถั่ว ในอัตราส่วนที่เท่ากัน และผสมก่อนลงปลูก

กลุ่มอาศัยอยู่ตามซอกหินผาปูน : วัสดุปลูกด้านล่างใช้ส่วนผสมของหินภูเขาไฟ ถ่านไม้ และกระถางแตก อันตราส่วนเท่ากัน ส่วนบนใช้กาบมะพร้าวสับ ใบก้ามปูหมัก และเปลือกถั่ว อัตราส่วนเท่ากัน กล้วยไม้รองเท้านารีทุกกลุ่ม ต้องการแสงแดดไม่เกิน 40 องศาเซลเซียส การให้ปุ๋ย แนะนำให้ใช้ปุ๋ย ละลายน้ำอย่างเจือจาง เดือนละ 1-2 ครั้งก็พอ ระวังอย่าให้ปุ๋ยไปสัมผัสกับดอก หรือใบของต้นกล้วยไม้ การให้น้ำควรเป็นตอนเช้าจะดีที่สุด แต่ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องเลื่อนเวลา แต่อย่าให้เกิน หกโมงเย็น

 

 

 

กล้วยไม้ รองเท้านารี

 ไม้ประดับ

กล้วยไม้ ยอดฮิต ติดลมบน

กล้วยไม้ ยอดฮิต ติดลมบน 3 สกุลที่คนนิยมปลูก

กล้วยไม้ ยอดฮิต ติดลมบน 3 สกุลที่คนนิยมปลูก

              กล้วยไม้เนี่ย ถือว่าเป็นไม้ประดับยอดฮิตในทุกยุคทุกสมัยจริง ๆ เลยนะคะ เพราะนอกจากจะมีสีสันที่สวยงามแล้วก็ยังมีกลิ่นหอมอีก จะปลูกไว้ดูเล่นเป็นไม้ประดับก็แสนจะเพลิดเพลิน จะนำไปไหว้พระบูชาพระก็ได้บุญไปอี้กกก แต่ทุกท่านทราบไหมคะว่า กล้วยไม้จริง ๆ แล้ว มีอยู่ด้วยกันหลายสกุลมาก ๆ  เลยค่ะ ซึ่งแต่ละสกุลก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป  อีกทั้งยังมีเทคนิคในการปลูกและชื่อดอกกล้วยไม้แต่ละสกุลก็แตกต่างกันออกไปอีกด้วย วันนี้เรามี กล้วยไม้ ยอดฮิต ติดลมบน 3 สกุล ที่คนนิยมปลูก รวมไปถึงทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการปลูกกล้วยไม้มาฝากกันค่า

 

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกล้วยไม้กันสักเล็กน้อยก่อนนะคะ กล้วยไม้ เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวค่ะ อีกทั้งยังเป็นพันธุ์พืชมีดอก ที่มีมากกว่า 25,000 ชนิด โอ้โห เยอะแยะไปหมด ชื่อดอกกล้วยไม้ ทางวิทยาศาสตร์ คือ Orchidaceae และอย่างที่บอกไปนะคะ กล้วยไม้แต่ละสกุลก็มีความชอบที่ต่างกัน หลัก ๆ แล้วคือเราต้องศึกษาสกุลที่เราต้องการปลูกค่ะ เพื่อจัดสถานที่ แสงแดด อุณหภูมิ ให้เหมาะสมกับเขา เช่น กล้วยไม้สกุลหวาย ต้องการแดดมากถึง 60-70 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่สกุลแวนด้าต้องการเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็มีสิ่งที่คล้ายคลึงกันค่ะ คือกล้วยไม้ส่วนใหญ่ชอบความชื้น อยู่ระหว่าง 60-80 เปอร์เซ็นต์ แต่ที่พูดถึงอยู่คือการรักษาความชื้นในรากนะคะ ไม่ใช้การรดน้ำบ่อย ๆ เพราะหากรดน้ำมากไปก็ไม่ดีค่ะ ที่สำคัญภายในโรงเรือนต้องมีอากาศถ่ายเทได้สะดวกด้วยนะคะ  และนี่ก็คือ 3 พันธุ์กล้วยไม้ยอดฮิต ติดลมบนที่คนนิยมปลูกกันค่า

 

  • แคทลียา ( Cattleya )

หลายคนเห็นชื่อนี้ก็ต้อง อ๋อ กันออกมาเสียงดังกันเลยทีเดียวนะคะ บ้ารึเปล่า ใครจะไม่รู้จักบ้างล่ะ แคทลียา ไง ที่เป็นนักร้อง ใช่ค่ะ แหมเจ๊ สาวยุค 90 สินะเรา แฮร่ ! คนละแคทแล้วค่ะ แคทรียาที่พูดถึงนี้คือชื่อดอกกล้วยไม้ค่ะ สำหรับกล้วยไม้สกุลนี้ เรียกได้ว่าเป็นราชินีแห่งกล้วยไม้เลยล่ะค่ะ ทั้งสีสันที่สวยงามบวกกับรูปทรงเฉพาะตัว อีกทั้งยังเป็นสกุลที่เจริญเติบโตได้ดีในอากาศร้อน จึงทำให้สกุลนี้ค่อนข้างแพร่หลายในบ้านเราค่ะ

 

 

 

  • ฟาแลนนอปซิส ( phalandopsis )

 

สำหรับกล้วยไม้สกุลนี้ ก็เป็นอีกสกุลนึงที่มีฉายาค่ะ ซึ่งฉายาของเขาก็คือ ผีเสื้อกลางคืน นั่นเองค่ะ โดยฉายานี้มีที่มาจากชื่อภาษากรีกของเขา สกุลนี้มีลักษณะเด่นอยู่ที่ช่อดอกยาวค่ะ และลักษณะโดยรวมคือใบกว้าง ลำตัวเป็นปล้อง และเนื่องจากสกุลนี้ค่อนข้าง อึด ถึก ทน ได้ทุกสภาพอากาศ จึงเป็นอีกสกุลนึงที่นิยมปลูกกันค่ะ

 

 

 

  • แวนด้า ( vanda )

สำหรับสกุลนี้ มีการค้นพบในแถบเอเชียมากถึง 40 ชนิด ด้วยกันค่ะ  โดยแบ่งออกมาได้เป็นหลายแบบ ทั้ง ใบกลม ใบแบน ใบร่อง และอีกมากมายเลยค่ะ สำหรับสกุลนี้ก็อาจจะรับบทสาวน้อยช่างเลือกมากกว่าพี่ ๆ ทั้งสองสกุลที่กล่าวมาข้างบนสักหน่อยนะคะ เพราะแวนด้าจะชอบอยู่ในกระถางโปร่งที่อากาศสามารถถ่ายเทได้ง่ายมากกว่าการอยู่ในกระถางทึบ ๆ นั่นเองค่ะ

และยังมีดอกกล้วยไม้อีกหลายสกุลด้วยกันนะคะที่มีความสวยงามและกลิ่นหอมไม่แพ้กับสามสกุลนี้เลย ถ้าหากว่าเพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจปลูกกล้วยไม้ ก็ขอฝากไว้สักนิดค่ะว่า อย่าลืมศึกษาข้อมูลกันให้ดี ๆ ก่อนตัดสินใจปลูกนะคะ

 ไม้ประดับ

กล้วยไม้แวนด้า

กล้วยไม้แวนด้า

กล้วยไม้แวนด้า

กล้วยไม้ที่เราเห็นกันบ่อย ๆ นั้น แท้ที่จริงแล้ว เขามีอยู่ด้วยกันมากมายหลายสกุลเลยล่ะค่ะ ทั้งแคทรียา , ฟาแลนนอปซิน ฯลฯ แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงกล้วยไม้สกุลแวนด้าค่ะ

แวนด้า คือกล้วยไม้ประเภทโมโนโพเดี้ยลค่ะ ซึ่งถูกพบในป่าตามธรรมชาติ โดยถูกจำแนกได้เป็นประมาณ 40 ชนิด กระจายกันออยู่ในทวีปเอเชีย ทั้งอินเดีย ศรีลังกา พม่า ไทย ฯลฯ เราสามารถจำแนกประเภทของแวนด้าได้จากลักษณะของใบค่ะ โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท นั่นก็คือ

แวนด้าใบกลม

ลักษณะของใบจะเป็นทรงทรงกระบอก กลมยาว ค่ะ มีหลายชนิดด้วยกัน ทั้ง แวนด้าฮุกเกอเรียนา หรือจะเป็นพันธุ์ที่เป็นลูกผสม เช่น แวนด้า โจคิม ซึ่งมาจากการผสมระหว่าง แวนด้า ฮุกเกอเรียนา กับเอื้องโมก เนื่องจากเป็นพันธุ์ที่ผสมขึ้นมา จึงทำให้เลี้ยงได้ง่าย และออกดอกเก่งค่ะ ถ้าหากว่าท่านไหนที่ อยากลองเลี้ยงกล้วยไม้สกุลนี้ดู ขอแนะนำให้เลือกเป็น แวนด้าใบกลม ก่อนค่ะ เนื่องจากแวนด้าใบกลมนั้น ถือเป็นแวนด้าประเภทที่เลี้ยงง่ายที่สุด สามารถปลูกกลางแจ้งได้ค่ะ จึงน่าจะเหมากับมือใหม่ที่ยังไม่มีโรงเรือน แต่ข้อเสียคือดอกมักจะบานได้ไม่นานค่ะ

แวนด้าใบแบน

ลักษณะของใบแผ่แบน มีหน้าตัดตรงใบเป็นรูปตัววี ข้อถี่ และปล้องสั้นค่ะ มีอยู่หลายชนิดด้วยกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ฟ้ามุ่ย , สามปอยนก , เข็มขาว เป็นต้น และถ้าหากว่า แวนด้า ที่เลี้ยงง่ายที่สุดคือแวนด้าใบกลมล่ะก็ แวนด้าที่เลี้ยงยากที่สุดก็ต้องยกให้แวนด้าใบแบนเลยค่ะ

แวนด้าใบร่อง

แวนด้าประเภทนี้ไม่ถูกพบในธรรมชาตินะคะ เพราะเกิดจากการนำแวนด้าใบแบน และ แวนด้าก้างปลามาผสมกันค่ะ โดยลักษณะใบจะออกไปทางแวนด้าใบแบนค่ะ ตัวอย่างเช่น แวนด้า บลูมูน , แวนด้า ที เอ็ม เอ เป็นต้น

แวนด้าก้างปลา

กล้วยไม้แวนด้า

แวนด้าประเภทนี้มีลักษณะใบกึ่งกลมกึ่งแบนค่ะ จริง ๆ แล้วแวนด้าประเภทนี้ค่อนข้างหาได้ยาก อีกทั้งยังพบได้น้อยในธรรมชาติอีกด้วยค่ะ เท่าที่พบมี 2 ชนิด ได้แก่ แวนด้า อะเมสเซียนา และแวนด้า คิมบาลเลียนา ซึ่งกล้วยไม้สองชนิดนี้คาดว่าจะไม่ใช่ชนิดแท้ค่ะ เนื่องจากตรวจพบว่ากล้วยไม้สองชนิดนี้เป็นหมัน แวนด้าก้างปลา ที่มีให้พบในปัจจุบันเกิดจากการที่มนุษย์นำมาผสมจนเกิดเป็นสายพัรธุ์ใหม่ค่ะ เช่น แวนด้า มาเจสติก , แวนด้า เอ็มมา แวน ดีเวนเตอร์ เป็นต้น และนี่ก็คือเรื่องราวพอสังเขปของกล้วยไม้สกุลแวนด้านั่นเองนะคะ หากท่านไหนที่สนใจอยากลองเลี้ยงกล้วยไม้สกุลนี้ดู น่าจะถือเป็นอีกสกุลนึงที่มีความสวยงามอีกทั้งยังเลี้ยงไม่ยากอีกด้วยนะคะ

 

 

 

กล้วยไม้แวนด้า

พันธุ์ไม้

ต้นไม้เสริมเสน่ห์

วิธีดูแลกล้วยไม้ สกุลแวนด้า เลี้ยงยังไงให้ออกดอกสวย

วิธีดูแลกล้วยไม้ สกุลแวนด้า เลี้ยงยังไงให้ออกดอกสวย

              ต้นไม้ ดอกไม้ ทั้งหลาย ก็ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตอีกประเภทหนึ่งค่ะ การเลี้ยงดูและบำรุงรักษาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก การให้น้ำ ให้ปุ๋ย รวมไปถึงการให้สารอาหารเสริมต่าง ๆ เราจึงจำเป็นต้องรู้ถึงปริมาณที่เหมาะสม อีกทั้งการจัดสถานที่ไว้สำหรับพวกเขาก็สำคัญเช่นกันค่ะ ดังนั้นก่อนการตัดสินเลี้ยง ต้นไม้และพืช เราจึงควรศึกษาให้ละเอียดรอบคอบเสียก่อน เพื่อที่จะได้เรียนรู้ถึงพวกเขามากขึ้นค่ะ และวันนี้เราจะมาพูดถึง กล้วยไม้สกุลแวนด้าค่ะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสกุลที่วิธีการเลี้ยงไม่ได้ยากหรือซับซ้อนมากเกินไปค่ะ เราจะมาดูว่าวิธีการดูแลรักษาแวนด้าทำได้อย่างไรบ้าง แวนด้า ออกดอกปีละกี่ครั้ง และอะไรคือสิ่งที่แวนด้าชอบค่ะ

  • ห้ามมืดสนิท สำหรับแวนด้า การถูกเลี้ยงกลางแดดหรือในร่มที่มืดสนิท จะไม่ส่งผลดีต่อแวนด้าค่ะ เพราะแวนด้าชอบที่ที่มีแสงแดดรำไร ถ้าหากปลูกในโรงเรือนก็ต้องมีการพรางแสงให้เขาสักเล็กน้อยค่ะ
  • ทำเลในการจัดวาง กล้วยไม้ควรนำไปแขวนให้ด้านหนึ่งไปทางทิศตะวันออกและอีกด้านหนึ่งไปทางทิศตะวันตก

  • ทริคการถ่ายลงกระถาง สำหรับคนที่กำลังจะเตรียมถ่ายกล้วยไม้ลงสู่กระถางก็มีทริคเล็ก ๆ มาฝากกันค่ะ สิ่งสำคัญคือ ห้ามดึงตัวกล้วยไม้นะคะ เพราะจะทำให้เสียหายได้ แต่ควรนำไปแช่น้ำ ก่อน จากนั้นจึงค่อยนำลงกระถาง

ปุ๋ยกล้วยไม้ ยี่ห้อไหนดีเพื่อให้ดอกกล้วยไม้ออกมาสวยงาม 1000maidee

  • น้ำ นอกจากนี้น้ำก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สำคัญสำหรับแวนด้าค่ะ ไม่ควรให้น้ำเยอะไปหรือไม่น้อยไปค่ะ วิธีเช็คให้ลองม้วนรากดูค่ะ หากรากมีลักษณะนิ่ม ๆ แปลว่าน้ำเพียงพอ แต่หากรากแตกหัก แปลว่าให้น้ำน้อยไปค่ะ
  • ปุ๋ย อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นก็คือปุ๋ยนั่นเองค่ะ สำหรับสูตรการการให้ปุ๋ยกับแวนด้าแต่ละคนก็มีเทคนิคต่างกันออกไปค่ะ เช่น บางคนจะให้สูตร 21-21-21 สัปดาห์ละ 1 ครั้ง และอย่าลืมฉีดพ่นยาเพื่อป้องกันโรคและแมลง โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนนะคะ

ในส่วนของคำถามที่ว่า  แวนด้า ออกดอกปีละกี่ครั้ง คงต้องบอกแบบนี้ค่ะว่า ระยะการออกดอกของแวนด้าในแต่ละพันธุ์นั้นแตกต่างกันค่ะ ส่วนใหญ่แล้วต้องรอประมาณ 2-3 ปี จึงจะเริ่มออกดอกค่ะ และจะออกดอกเฉลี่ยประมาณ 2-3 เดือนต่อครั้ง ในบางคนที่ปลูกแวนด้าและเลี้ยงดูอย่างดี ก็สามารถออกดอกได้ทุกเดือนเลยล่ะค่ะ ดังนั้น ถ้าจถามว่า แวนด้า ออกดอกปีละกี่ครั้ง ก็คงต้องสรุปว่าขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของแต่ละบุคคลค่ะ

วิธีดูแลต้นไม้

กล้วยไม้ฟานแลนนอปซิส อีกสกุลที่คนให้ความนิยม 1000maidee บทความ

กล้วยไม้ฟานแลนนอปซิส อีกสกุลที่คนให้ความนิยม

กล้วยไม้ฟานแลนนอปซิส อีกสกุลที่คนให้ความนิยม

 เฮ้อ ช่วงกักตัว อยากตามเทรนบ้างจัง อยากปลูกไม้ดอกไม้ประดับสวย ๆ จังเลย ปลูกอะไรดีน้า ?”… แหม ถามแบบนี้ก็ตอบยากนิดนึงนะคะ เพราะไม้ประดับเนี่ยมีมากมายจริง ๆ ทั้งแนวสายมูต้นไม้มงคลทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น เงินไหลมา กวักมรกต หรือไม้ประดับที่ใช้ฟอกอากาศ เช่น ลิ้นมังกร อ้อ หรืออันนี้ดีนะ สเตอร่า สวย หรู ดู แพง … “ฮะ ทำไมเยอะจัง … เอ่อ งั้นเอาแบบนี้ดีกว่า อยากปลูกกล้วยไม้อ่ะ” … เลือกได้ดีมากเลยค่ะคุณพี่ เพราะกล้วยไม้นอกจากจะสวยแล้วยังมีกลิ่นหอมอีกด้วยนะคะ แต่คุณพี่ทราบไหมคะว่า กล้วยไม้ที่เราเห็นกันอยู่ทั่ว ๆ ไปเนี่ย แท้ที่จริงแล้ว เขามีกันอยู่หลายสกุลมาก ๆ และแต่ละสกุลก็มีความชอบที่ต่างกัน เพราะฉะนั้นการเลี้ยงดูก็จะต่างกันออกไปด้วยค่ะ

กล้วยไม้ฟานแลนนอปซิส อีกสกุลที่คนให้ความนิยมและในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับกล้วยไม้สกุล ฟานแลนนอปซิส ( Phalaenopsis Orchid ) ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกสกุลที่คนให้ความนิยมมากเลยล่ะค่ะ และนอกจากไปรู้จักแล้ว เราจะมาแนะนำด้วยว่าเจ้าฟาแลนนอปซิส ดูแลยังไง ซึ่งจริง ๆ แล้วกล้วยไม้สกุลนี้เธอมีฉายาของเธอนะคะ นั่นก็คือ  “ผีเสื้อกลางคืน”  ซึ่งมีที่มาจากชื่อเดิมในภาษากรีกค่ะ คำว่า ฟาไลนา แปลว่า “ผีเสื้อกลางคืน” และ ออปซิส แปลว่า “เหมือน”  ซึ่งที่มาของชื่อนี้มาจากลักษณะใบของเธอที่เหมือนกับผีเสื้อราตรีนั่นเองค่ะ ลักษณะโดยทั่วไปจะมี ลำต้นสั้น รากค่อนข้างใหญ่ ช่อดอกยาว ฯลฯ โดยทั่วไปการเลี้ยงกล้วยไม้ ควรเลี้ยงในที่พรางแสงค่ะ ให้มีแสงสักประมาณ 50-70% หากเจอแดดหรือลงแรง ๆ อาจทำให้ กล้วยไม้ฟานแลนนอปซิส ตายได้ค่ะ

แต่กล้วยไม้สกุลนี้ เธอค่อนข้างที่จะมีความชอบพิเศษของเธออยู่ค่ะ นั่นก็คือ เธอชอบอากาศเย็น และชอบความชื้นสูง จึงทำให้โรคที่เกิดขึ้นกับกล้วยไม้สกุลนี้ส่วนใหญ่จะเป็นโรคเกี่ยวกับเชื้อราค่ะ ฟานแลนนอปซิส ชอบอยู่ในกระถางที่โปร่งและอากาศถ่ายเทได้ดี เพราะรากของเธอต้องการรับแสงเพื่อใช้ในการลดเชื้อราค่ะ บางคนอาจจะบอกว่า ฟาแลนนอปซิส ดูแลยาก แต่จริง ๆ แล้วถ้าเรารู้จักเขาดี ๆ ก็ไม่ยากหรอกค่ะ หากต้องการปลูกกล้วยไม้สกุลนี้ สามารถดูแลได้ดังนี้

  • แสง เรื่องแสงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญกับกล้วยไม้ค่ะ ฟาแลนนอปซิสชอบแสงแดดรำไร เพราะแสงแดดที่แรงเกินไปอาจทำให้ใบเกิดรอยไหม้ได้
  • อุณหภูมิ  ทั้งความชื้นและอุณหภูมิล้วนมีผลต่อเธอค่ะ สำหรับช่วงปกติควรปลูกในที่ที่อุณหภูมิอยู่ในช่วง 23–28 องศาเซลเซียส และในช่วงออกดอกอยู่ที่ประมาณ 18–25 องศาเซลเซียส ปกติแล้วฟาแลนฯ อยูในอุณหภูมิสูง ได้ถึง 35องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่ำสุดได้ถึง 10 องศาเซลเซียส ในส่วนของความชื้นควรอยู่ที่ 60–65 เปอร์เซ็นต์
  • น้ำ ต้องบอกว่าไม่ควรให้น้ำมากเกินไปค่ะ ถึงฟาแลนฯจะชอบความชื้นแต่การให้น้ำมากเกินไปจะทำให้รากเน่าได้ค่ะ หากพบว่าวัสดุปลูกแห้งแล้ว ก็จึงให้น้ำได้ค่ะ โดยไม่ควรให้ถูกดอกนะคะ เพราะหากมีน้ำขังบริเวณยอดก็อาจจะทำให้ยอดเน่าได้อีกด้วย เมื่อพบว่าส่วนใดเน่า ควรตัดส่วนนั้นออกและทาแผลด้วยปูนแดงค่ะ

  • ปุ๋ย ระยะเวลาที่เหมาะสมในการให้ปุ๋ยคือทุก 10–14 วัน ในช่วงแรกที่เป็นต้นกล้าปุ๋ยควรมีธาตุไนโตรเจนสูง โดยอาจจะใช้สูตร 30-20-10 ในระยะใกล้ออกดอก ควรเปลี่ยนสูตรปุ๋ยให้มีธาตุโปรแตสเซียมและฟอสฟอรัสสูงแทนค่ะ
  • เปลี่ยนวัสดุปลูก เพื่อป้องกันรากเน่า เราจึงควรเปลี่ยนวัสดุปลูกทุก ๆ 3–6 เดือน ค่ะ อีกทั้งหากพบว่าวัสดุมีการยุบตัว ควรทำการเสริมวัสดุปลูกอีกด้วยค่ะ
  • การป้องกันโรคและแมลง ควรพ่นยากำจัดโรคและแมลงเป็นระยะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เกิดโรคระบาดได้ง่าย นั่นก็คือ ฤดูฝน นั่นเองค่ะ

ตอนนี้ทุกท่านก็ทราบแล้วใช่ไหมคะว่า ฟาแลนนอปซิน ดูแลยังไง หากใครที่สนใจอยากจะปลูกกล้วยไม้สกุลนี้ก็ลองศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเขาให้ดีก่อนนะคะ เพื่อการดูแลรักษาที่ถูกวิธีค่ะ

 ไม้ประดับ

รองเท้านารีคางกบ กล้วยไม้ปลูกเลี้ยงยากแต่ราคาดี 1000maidee บทความ

รองเท้านารีคางกบ กล้วยไม้ปลูกเลี้ยงยากแต่ราคาดี

รองเท้านารีคางกบ กล้วยไม้ปลูกเลี้ยงยากแต่ราคาดี

เมื่อพูดถึง กล้วยไม้ รองเท้านารีนั้น ความสวยงาม มาเป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว วันนี้เรามาทำความรู้จักกับร้องเท้านารี คางกบ กันเลย รองเท้านารีคางกบ ( Paphiopedilum callosum ) เป็นกล้วยไม้ชนิดหนึ่งในสกุลรองเท้านารี รองเท้านารีคางกบเป็นรองเท้านารีใประเภทใบลายสีเขียว สลับขาว ปลายใบเรียวแหลม ใบค่อนข้างบาง  ยาว 10-15 ซม. กว้าง 2-2.5 ซม. ก้านช่อดอกยาว 15-20 ซม. ก้านดอกแข็ง ให้ดอกเดี่ยว ดอกมีจุดขาดใหญ่ แต่มีขนที่จุดประปรายอยู่ตามผิวของกลีบในทั้งคู่ กลีบนอกบนตั้งและกว้างเล็กน้อย ริมกลีบสีขาว ด้านในมีเส้น สีม่วงคล้ำบนพื้นสีเขียว กลีบในทั้งคู่แคบ เฉียงลงด้านล่างเล็กน้อย

รองเท้านารีจัดว่าเป็นกล้วยไม้ที่ปลูกเลี้ยงยากที่สุด ด้วยเหตุนี้จึงควรทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมของรองเท้านารีแต่ละชนิดว่าต้องการอย่างไร โดยเฉพาะวัสดุปลูก ความเข้มแสง การระบายน้ำและถ่ายเทอากาศตลอดจนอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อให้เข้าใจระบบนิเวศวิทยา สภาพแวดล้อมทางภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของรองเท้านารี ทำให้การจัดสภาพแวดล้อมเป็นไปอย่างถูกต้อง

การปลูกรองเทานารีคางกบ

       สามารถใช้วัสดุปลูกได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น อิฐมอญทุบ ถ่าน หินเกล็ด ใบก้ามปูผุ ปุ๋ยหมักจากเศษใบไม้ผุหรือปุ๋ยคอก ดินขุยไผ่ เปลือกถั่วลิสงหมัก หรือโฟมหักเป็นชิ้นเล็ก ๆ เป็นต้น ผู้ปลูกเลี้ยงควรเปลี่ยนวัสดุปลูกทุกปีหรือเมื่อวัสดุปลูกยุบตัว หรือเมื่อต้นแตกกอคับกระถาง สำหรับการเปลี่ยนเครื่องปลูกเมื่อเทวัสดุปลูกเก่าออกแล้วให้ใส่ของใหม่ ควรปลูกให้เสร็จทันทีไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เพราะต้นไม้อาจชะงักการเจริญเติบโตได้ เนื่องจากรากของรองเท้านารีมีขนอยู่รอบ ๆ ถ้ารื้อออกแล้วปล่อยทิ้งไว้นานรากจะแห้ง และอย่าให้รากกระทบกระเทือนมากจะหักและขาด ควรระวังไม่ให้ใบมีรอยช้ำหรือเป็นแผล เพราะจะทำให้ติดเชื้อได้ง่าย

ควรปลูกในโรงเรือนที่มีการพรางแสง ถ้าจะให้ดีควรมีหลังคากันฝน อากาศถ่ายเทได้สะดวก รดน้ำสม่ำเสมอ ปลูกในกระถางพลาสติก หรือกระถางดินเผา ใส่วัสดุเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างใส่วัสดุปลูก ปริมาณ 2 ใน 3 ส่วน ตามความสูงของกระถาง วัสดุปลูกประกอบด้วย โฟมหักเป็นชิ้นเล็ก ๆ กระถางหินเผาแตก และอิฐหัก ในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน ส่วนบนของกระถาง ใช้ปริมาณ 1 ใน 3 ของกระถาง หรือภาชนะปลูก มีกาบมะพร้าวสับ ใบก้ามปูหมัก และพีทมอสส์ ในอัตราส่วน 2 : 2 : 1 และจากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนจะใส่ลงในภาชนะปลูก ต้องการอากาศเย็นและชุมชื้น รองเท้านารีมีโรคและศัตรูพืชรบกวนไม่มากนัก โรคที่สำคัญคือ โรคโคนเน่า และดอกเน่าเท่านั้น ส่วนแมลงสำคัญที่พบมีชนิดเดียว คือ เพลี้ยไฟ

 ไม้ประดับ

แวนด้าลูกผสม สีจัดจ้านสวยงาม กลิ่นหอมนาน1000maidee บทความ

แวนด้าลูกผสม สีจัดจ้านสวยงาม กลิ่นหอมนาน

แวนด้าลูกผสม สีจัดจ้านสวยงาม กลิ่นหอมนาน

รู้หรือไม่ แวนด้าลูกผสม ( Vanda Cross Breeds orchids ) เป็นกล้วยไม้สกุลชนิดหนึ่งในวงศ์กล้วยไม้ซึ่งเป็นสกุลไม่ใหญ่ นับประมาณ80ปีที่แล้วแต่เป็นดอกไม้สำคัญที่ใช้ในการจัดดอกไม้กล้วยไม้สกุลนี้ได้รับการพัฒนามากที่สุดในกลุ่มกล้วยไม้ทั้งหมดในวงกล้วยไม้มีราคาแพงมาก เนื่องจากเป็นกล้วยไม้ที่มีความสวยงามมีกลิ่นหอมทนทานและสีจัดจ้านการปลูกแวนด้าแพร่หลายทั่วเอเชียตะวันออกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาะนิวกินีรวมถึงยังมีบางสายพันธุ์ในรัฐควีนส์แลนด์และบางเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งตะวันตกอีกด้วยแวนด้าเป็นชื่อในภาษาสันสกฤตสายพันธุ์นี้เป็นกล้วยไม้อิงอาศัยแต่บางพันธุ์ก็เป็นกล้วยไม้ที่ขึ้นบนหินและขึ้นบนดินที่กระจายอยู่ในอินเดียเเถวๆ เทือกเขาหิมาลัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และนิวกินีทางตอนใต้ของจีน รวมถึงทางตอนเหนือของออสเตรเลีย

แวนด้าใบกลม มีลักษณะของใบกลมยาวทรงกระบอก ต้นสูง ข้อห่าง สังเกตได้ที่ใบติดอยู่ห่างๆ กัน มีดอกช่อละหลายดอก เมื่อดอกข้างบนบานเพิ่มขึ้น ดอกข้างล่างจะโรยไล่กันขึ้นไปเรื่อยๆ แวนด้าใบแบน ลักษณะใบแผ่แบนออก มีข้อถี่ปล้องสั้น ใบซ้อนชิดกัน ปลายใบโค้งลงและจักเป็นแฉก แวนด้าใบร่อง มีรูปทรงของใบและลำต้นคล้ายใบแบนมากกว่าใบกลม แวนด้าประเภทนี้ไม่พบในป่าธรรมชาติ แวนด้าก้างปลา มีรูปทรงของใบและลำต้น กิ่งใบกลมกับใบแบน พบตามป่าน้อยมากเพราะพันธุ์นี้เป็นหมันบางสายพันธุ์ใบจะแบนๆแต่ส่วนใหญ่แล้วใบกว้างใบรูปไข่ตรงกลางเป็นร่องใน

ขณะที่กล้วยไม้สกุลอื่นมีแบบเป็นทรงกลมทรงกระบอกใบอวบน้ำเพื่อปรับตัวให้เข้าสู่ช่วงแร้งน้ำมีขนาดที่แตกต่างกันไปซึ่งมีบางสายพันธุ์ที่เป็นพันธุ์แคระความยาวไม่กี่เมตรและสามารถปลูกให้ต้นใหญ่ได้ในเรือนปลูกและเพาะเลี้ยงในเรือนปลูกแวนด้าลูกผสมมีจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งพันธุ์ฟ้ามุ่ยอยู่ในสภาวะใกล้สูญพันธุ์เนื่องจากการเข้าถึงถิ่นที่อยู่ถึงทำให้พบเห็นได้ไม่บ่อยนักทั้งอยากเห็นได้ไม่บ่อยในป่าเนื่องจากโดนรบกวนและได้รับแสงแดดจัดไปเเวนด้าเป็น1ใน5ของตระกูลกล้วยไม้ที่มีการปลูกในสวนกล้วยไม้มากที่สุด

เเละแวนด้าใบกลมเป็นแวนด้าที่เลี้ยงง่ายที่สุดสามารถปลูกลงแปลงกลางแจ้งได้โดยไม่ต้องมีโรงเรือนแต่ดอกมักจะบานไม่ทนส่วนที่เลี้ยงยากที่สุดคือแวนด้าใบแบนมีหลายพันธุ์ทั้งดอกใหญ่และดอกเล็กแต่ที่ได้รับความนิยมได้แก่ฟ้ามุ่ยเพราะว่ามันมีดอกที่มีความงดงามมากที่สุดในบรรดาพืชวงศ์กล้วยไม้ทั้งหมดแวนด้าลูกผสมมีส่วนอย่างมากในการสร้างสรรค์ไม้ดอกเพื่อส่งตลาดดอกไม้ดอกแวนด้าสายพันธุ์ฟ้ามุ่ยเป็นหนึ่งในกล้วยไม้มีกี่ชนิดที่จะออกน้ำเงินซึ่งได้สีที่น่ากลัวพอใจมากในการผสมพันธุ์ข้ามชนิดและการผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์และเป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศสิงคโปร์อีกด้วย

 ไม้ประดับ

กล้วยไม้ป่า กับสิ่งที่หลาย ๆ คนไม่รู้เกี่ยวสายพุนธุ์นี้ 1000maidee

กล้วยไม้ป่า กับสิ่งที่หลาย ๆ คนไม่รู้เกี่ยวสายพุนธุ์นี้

กล้วยไม้ป่า กับสิ่งที่หลาย ๆ คนไม่รู้เกี่ยวสายพุนธุ์นี้

     กล้วยไม้ เป็นหนึ่งต้นไม้ประดับที่คนไทยเรานิยมเอามาประดับตกเเต่งบ้าน ทั้งบริเวณในบ้านหรือหน้าบ้าน ถ้าใครที่อยู่คอนโดก็มักจะเอากล้วยไม้ไปเเขวนบริเวณระเบียง ด้วยความที่กล้วยไม้เป็นไม้ประดับที่มีราคาถูก เเละยังมีสีสันสวยสดใส เวลามองไปเห็นเเล้วสบายตา ถึงเเม้ว่าจะมีขนาดไม่ใหญ่เเต่ยังมีประสิทธิภาพในการดูดซับอากาศไม่ดี เเละคายอากาศดี ๆ ให้เราได้ดม นอกจากกนี้กล้วยไม้ยังไม่หลากหลายชนิด เเต่วันนี้เราจะมาเเนะนำ กล้วยไม้ ป่า เเละสิ่งที่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ จะมีอะไรกันบ้าง ไปดูเลย

  • กล้วยไม้ป่า ไม่ได้กำเนิดในประเทศไทย

หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่ากล้วยไม้ชนิดนี้ไม่ได้เกิดในประเทศไทยเพราะมีเเหล่งกำเนิดหรือจุดเริ่มต้น มาจากสถานที่สำคัญของโลก 2 สถานที่ นั่นก็คือ ลาตินอเมริกา เเละ เอเชียแปซิฟิค เนื่องจากทั้ง 2 สถานที่เป็นสถานที่ที่ค่อนข้างมีภูมิอากาศร้อนชื้น เเละระบบนิเวศที่เพรียบพร้อมสำหรับการเกิดของกล้วยไม้ชนิดนี้ ซึ่งสำหรับในลาตินอเมริกาเป็นบริเวณเเถว ๆ อเมริกากลางที่ติดต่อกับเขตเหนือของอเมริกาใต้ ส่วนแหล่งกำเนิดกล้วยไม้ป่าใน เอเชียและแปซิฟิค ก็พบหลากหลายที่ รวมถึงประเทศไทยนอกจากนี้ประเทศอื่น ๆ ยังค้นพบพันธุ์ของกล้วยไม้เเค่พันธุ์เดียว เเต่สำหรับประเทศไทยเรานั้นยังค้นพบกล้วยไม้หลากหลายชนิด รวมถึง กล้วยไม้ ป่า ด้วย

กล้วยไม้ป่า กับสิ่งที่หลาย ๆ คนไม่รู้เกี่ยวสายพุนธุ์นี้

  • ไม่สามารถค้นพบได้ที่ทะเลทราย

ตามทะเลทรายเราจะไม่สามารถค้นพบค้นไม้หรือสิ่งมีชีวิต อาจจะสามารถค้นพบต้นกระบองเพชร เเละอูฐที่เราเห็นกันในละคร การ์ตูน หรือ ภาพยนตร์ต่าง ๆ รวมไปถึง กล้วยไม้ ป่า ด้วย สำหรับกล้วยไม้เราสามารถค้นพบได้หลาย ๆ พื้นที่ของโลก ไม่ว่าเป็น ป่าดงดิบ, ป่าร้อนชื้น หรือ บนเกาะ แต่เราจะไม่สามารถค้นพบ กล้วยไม้ ได้ที่ทะเลทราย เเละ ธารน้ำเเข็ง

  • เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย

รู้หรือไม่ว่า กล้วยไม้ ป่า นอกจากจะมีความสวยงามหาซื้อง่ายในประเทศไทยเเล้ว  ยังเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทยเราด้วย เพราะเราได้มีการเพาะ ปลูก ทั้งเพื่อเลี้ยงดูและเพื่อจำหน่าย นอกจากนี้ยังมีวิธีการใหม่ ๆ มากมาย เช่น การผสมเกสร เพื่อให้ได้กล้วยไม้พันธุ์ใหม่ ๆ โดยตอนนี้ก็กำลังคิดค้นกันอยู่ เพราะกล้วยไม้ของประเทศไทยเรานั้น สามารถทำรายได้ให้กับเราปีละหลายร้อยล้านบาท

  • แหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติเกือบหมดแล้ว

และข้อสุดท้ายนี่ก็สิ่งที่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับ กล้วยไม้ ป่า ในปัจจุบันนี้เราอาจจะไม่ได้พบเห็นแหล่งกล้วยไม้ที่อุดมสมบรูณของประเทศไทย แต่ถ้าย้อนกลับไปในอดีต เราสามารถค้นพบได้หลายที่มาก เพราะพื้นที่ป่าของประเทศเราตอนนี้โดนบุกรุกจากหลาย ๆ อย่าง มีการถางป่าเพื่อสร้างอาคารบ้านเรือน

สาระพันธุ์ไม้

รองเท้านารีเหลืองกาญจน์ กล้วยไม้ประดับบ้านและสวน 1000maidee

รองเท้านารีเหลือง กล้วยไม้อนุรักษ์ประดับบ้านและสวน

รองเท้านารีเหลือง กล้วยไม้อนุรักษ์ประดับบ้านและสวน

     สำหรับใครที่ชื่นชอบการทำการประดับบ้านและสวน และกำลังมองหา กล้วยไม้ ที่มีความแปลกใหม่ไม่ซ้ำเดิม การปลูก รองเท้านารีเหลืองกาญจน์ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะเป็นกล้วยไม้ที่มีความสวยงาม ปลูกง่าย ขนาดไม่ใหญ่มากสามารถปลูกเอาไว้ประดับบ้านได้อย่างไม่กินพื้นที่ โดยจะถูกจัดอยู่ใน ประเภทของ กล้วยไม้ดิน ที่สามารถเจริญเติบโตทางด้านข้าง และตอนนี้ได้ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ของ พืชอนุรักษ์บัญชีที่ 1 ตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช ตั้งแต่ พุทธศักราช 2518 โดย ถูกทำการค้นพบครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2402  โดยถิ่นกำเนิดของกล้วยไม้ชนิดนี้จะอยู่แถบจังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดกำแพงเพชร ในการค้นพบ รองเท้านารีเหลือง กาญจน์ จะขึ้นอิงอยู่ตามต้นไม้ในป่าดิบ ที่มีความอุดมสมบรูณ เป็นกล้วยไม้ที่มีกลีบในคู่บิดเป็นเกลียวเป็นลักษณะสายออกมายาวกว่ากลีบ 2 และได้ทำการกระจายพันธุ์ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง ประเทศตีนในตอนใต้ และ ประเทศพม่า

รองเท้านารีเหลือง กล้วยไม้อนุรักษ์ประดับบ้านและสวน

สำหรับลักาณะใบของ รองเท้านารีเหลืองกาญจน์ ลักษณะของใบจะเป็นทรงขอบขนาน ใน 1 ใบ จะประกอบไปด้วย 2 สี เพราะมีลักษณะที่คล้ายกับรายตารางสีเขียมเข้มและสีเทา ทำให้ต้นนี้ดูมีความวินเทจ และโมเดิรน์ แน่นอนว่าความสวยงามของกล้วยไม้เรามักจะดูที่ดอก เพราะดอกของแต่ละพันธุ์จะมีความแตกต่างกัน โดยดอกของกล้วยไม้ชนิดนี้จะเป็นลักษณะของดอกเดี่ยว ภายใน 1 ดอก จะประกอบไปด้วย ช่อที่มีดอกย่อย ๆ อยู่ 2 – 3 ดอก สำหรับความยามของก้านช่อดอกจะมีความยาวประมาณ 12 – 15 เซนติเมตร โดยจะมีสีเขียวอ่อนมีขนปกคลุม ดอกจะเป็นลักษณะบานและค่อนข้างเป็นไปในลักษณะกลม มีเส้นผ่านศูนย์กลางของแต่ละดอกเมื่อมีการโตเต็มที่แล้วจะสามารถมีขนาดได้ประมาณ 6 – 9 เซนติเมตรเลย

สำหรับใครที่อยากจะปลูก รองเท้านารีเหลืองกาญจน์ ผู้เล่นควรจะต้องทำการเรียนรู้วิธีการปลูกที่ถูกต้อง เพื่อจะทำให้เราได้ดอกที่มีความสวยงาม โดยต้นนี้จะต้องการน้ำในปริมาณที่ปานกลาง ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป แสงแดดก็ไม่ได้ต้องการแสงแดดที่แรงมากจนเกินไป ต้องการแดดอ่อน ๆ เช่น แสงแดดในตอนเช้า จะดีมาก สำหรับการขยายพันธุ์สามารถทำได้หลายแบบ เช่น การแยกกอ การปักชำ และ การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ที่จะทำให้สามารถขยายพันธุ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  อย่างที่เราได้บอกไปว่าเราจะสามารถปลูกเป็นไม้ประดับบ้านและสวน เราก็คงอยากให้สวนของเรามีความสวยงามน่ามอง ดังนั้น การดูแลจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะนอกจากจะปลูกเพื่อความสวยงามแล้ว ยังจะสามารถปลูกเพื่อจำหน่ายก็ได้

 ไม้ประดับ