แคคตัสแมมขนแมวและแมมขนแกะ

แคคตัสแมมขนแมวและแมมขนแกะ

แคคตัสแมมขนแมวและแมมขนแกะ

แคคตัสแมมขนแมวและแมมขนแกะ บ้านหลังไหนไม่ได้ปลูกกระบองเพชรแอดบอกได้เลยค่ะว่าพลาดมากเพราะต้นกระบองเพชรเป็นพืชที่ปลูกได้ง่ายถึงจะไม่ค่อยมีเวลาดูแลก็สามารถปลูกได้และยังเรียกทรัพย์เข้ามาหาเราด้วยนี่แหละค่ะคือสิ่งที่แอดบอกว่าพลาด แต่กระบองเพชรในไทยเราที่นำมาเพาะขยายพันธุ์นั้นมีหลากหลายสายพันธุ์โดยแต่ละพันธุ์ก็จะมีการออกดอกแตกหน่อที่ต่างกันไปวันนี้แอดอยากนำเสนอแคคตัสแมมขนแมวและแมมขนแกะซึ่งพันธุ์นี้จะมีลักษณะคล้ายกันทำให้คนนำชื่อมาตั้งรวมกันเพราะแมมขนแมวถูกพัฒนามาเป็นแมมขนแกะทำให้หลายคนนำสองชื่อนี้มารวมกัน

ลักษณะของต้นแคคตัสแมมขนแมวและแมมขนแกะ

แคคตัสขนแกะจะมีขนที่นุ่มฟูกว่าแคคตัสขนแมวลำต้นเป็นทรงหัวกลมจะมีหนามที่แหลมมากปลายหนามจะยื่นออกมาและโค้งงอคล้ายกับตะขอถ้าเดินไปเกี่ยวอาจจะทำให้แคคตัสหล่นมาทั้งกระถางได้เพราะมีหนามที่แข็งแรงและคมมากขนของขนแมวจะมีความโปร่งฟูไม่มากยังสามารถมองเห็นลำต้นสีเขียวได้แต่ถ้าเป็นขนแกะจะมีความหนาทึบมีความนุ่มฟูมากกว่า ลำต้นจะมีความนุ่มบริเวณโคนจะเป็นสีออกแดงๆถ้าใครสงสัยว่าน้องตายรึป่าวทำไมลำต้นนุ่มโคนสีแดงบอกเลยค่าน้องโตมาแบบนี้ไม่มีอะไรผิดปกตินะคะ จะเป็นดอกเล็กๆมีสีชมพูโดยจะออกดอกบ่อยมากเมื่อโตได้เต็มที่ตอนเช้าดอกจะบานเมื่อโดนแสงอาทิตย์และจะบานตลอดทั้งวันเมื่อพระอาทิตย์ตกดอกก็จะหุบ

การดูแลต้นแคคตัสแมมขนแมวและแมมขนแกะ

  1. ควรวางไว้บริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงในตลอดทั้งวันถ้าได้รับแสงน้อยเกินไปลำต้นจะยืดยาวเข้าหาดวงอาทิตย์ทำให้ต้นเป็นทรงไม่สวยตามธรรมชาติและในช่วงบ่ายแดดจะค่อนข้างจัดมากพยายามอย่าให้แคคตัสโดยแดดโดยตรงในช่วงบ่ายเพราะด้วยความที่ลำต้นนิ่มเมื่อมาเจอแดดแรงอาจจะทำให้ลำต้นสุกและอาจจะเน่าตายได้
  2. การให้น้ำสามารถให้เมื่อไหร่ก็ได้ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงสัปดาห์ละ1ครั้งเพราะต้นมีดินที่คอยระบายน้ำได้ดีดังนั้นการรดน้ำจึงไม่เป็นปัญหาเลยการรดน้ำรดบ่อยเท่าไหร่ยิ่งดีเพราะจะทำให้น้องเจริญเติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็วแต่การรดน้ำในแต่ละครั้งควรลดให้พอดีพอประมาณไม่มากเกินไป
  3. แคคตัสพันธุ์นี้ไม่มีการแตกหน่อจึงไม่มีการเอามาขยายพันธุ์วิธีนี้แต่จะนำมาผสมเกสรเพื่อเป็นการขยายพันธุ์เพราะพันธุ์นี้จะออกดอกมากและมีเกสรให้ได้ผสมเยอะดังนั้นเมื่อผสมเกสรสำเร็จจะมีฝักงอกขึ้นมาแต่ถ้าไม่สำเร็จใบก็จะหลุดร่วงนั่นเองค่ะ

 

 

 

 


 1000maidee.com

ต้นมอนสเตอร่า

ต้นมอนสเตอร่า

ต้นมอนสเตอร่า

ไม้ประดับที่เรียกว่าฮิต ราคาแพง ดูไฮโซที่สุดใน พ.ศ. นี้ คงต้องยกให้ต้น “มอนสเตอร่า” นี้เลยค่ะ เพราะเป็นที่นิยมในหมู่นักแต่งบ้านสายมินิมอลมาก ๆ แล้วยิ่งมีเซเลปคนดังมาถ่ายคู่กับต้นไม้ชนิดนี้ด้วยแล้ว ราคายิ่งพุ่งปรี๊ด บางสายพันธุ์นี่ราคาเป็นหลักล้านเลยทีเดียวนะ เอาละค่ะ ใครที่กำลังสนใจต้นไม้ไฮโซชนิดนี้เอาไปแต่งบ้านหรือแต่งสวนอยู่ละก็ ไปทำความรู้จักกันก่อน

คำว่า “Monstera” (มอนสเตอร่า) หลายคนฟังแล้วอาจจะรู้สึกว่ามีความคับคล้ายคับคลากับคำว่า มอนสเตอร์ หรือเปล่า บอกเลยว่าใกล้เคียงมาก ๆ เพราะจริง ๆ แล้ว คำว่า มอนสเตอร่า เป็นภาษาละติน แปลว่าแปลกประหลาดนั่นเอง ก็แหม ต้นอะไร มีรูอยู่ที่ใบเต็มไปหมด ดูไม่สมบูรณ์เอาเสียเลย แต่นี่แหละค่ะที่เป็นเสน่ห์ของไม้ประดับชนิดนี้ จับไปปลูกตรงไหนก็ให้ความเป็นมินิมอล ใบใหญ่ ๆ สีเขียวเข้มนั้นเห็นทีไรก็สดชื่นสบายตาจนขึ้นชื่อว่าเป็น “ราชินีแห่งใบไม้”

  • วิธีปลูกต้นมอนสเตอร่า

แม้ภายนอกจะดูแปลกประหลาด ภาพลักษณ์ดูไฮโซ แต่ต้นมอนสเตอร่าก็มีวิธีปลูกที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก ดินที่ควรนำมาใช้ปลูกควรเป็นดินที่ระบายน้ำได้ดี อย่างดินร่วน และควรนำไปผสมกับกาบมะพร้าว หรือวัสดุปลูกอื่น ๆ ที่จะช่วยให้ดินไม่มีน้ำขัง หรือชื้นแฉะเกินไป ในเรื่องของการรดน้ำ ต้นมอนสเตอร่าก็เหมือนกับไม้ประดับที่เรานิยมปลูกแต่งบ้านหรือแต่งสวนทั่วไป คือ ไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อย ปริมาณที่แนะนำคือ วันเว้นวัน หรืออาทิตย์ละครั้ง หรือไม่ก็อาจจะขึ้นอยู่กับความชื้นในดิน เช่น หากวันฝนตกที่มีความชื้นสูง ก็ไม่จำเป็นต้นรด แต่หากในวันที่มีแดดแรงจัด ดินอาจแห้ง จึงควรรดน้ำ

 

 

  • การดูแลต้นมอนสเตอร่า

เราไม่ควรปลูกต้นมอนสเตอร่าในจุดที่มีแดดจัด เพราะอาจทำให้ใบไหม้ได้ หากปลูกแต่งบ้าน ควรนำออกมาเจอแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าบ้าง หรือหากปลูกแต่งสวนก็ควรปลูกไว้ใต้ต้นไม้ที่มีร่มเงา นอกจากนี้ แนะนำให้หมั่นเช็ดทำความสะอาดใบด้วยผ้าชุดน้ำนุ่ม ๆ ตามเส้นใบเพื่อเพิ่มความเงางาม ดูสดชื่น

 

 

ต้นมอนสเตอร่าที่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับกันคือพันธุ์ “มอนสเตอร่า ไจแอนท์ (Monstera Deliciosa)” ลักษณะคือใบใหญ่ รูปวงรี มีแฉกดูมินิมอลสุด ๆ ในขณะเดียวกันคนก็นิยมปลูกมอนเตอร์ร่าชนิดใบด่าง เช่น ด่างเป็นจุด ๆ จะเรียกว่าพันธุ์ มอนสเตอร่า บอร์สิเจียน่าอัลโบ (Monstera Borsigiana Albo) หรือหากด่างมาก ๆ แบบครึ่งใบ จะเรียกว่าพันธุ์ มอนสเตอร่า อะแดนโซนี่ (Monstera Adansonii) ซึ่งบอกเลยว่า ยิ่งด่างมากเท่าไหร่ ราคาก็ยิ่งแพง อยากที่แพงที่สุดก็ไปถึงหลักล้านกันเลยทีเดียว

 

 

 

 

 

 ต้นมอนสเตอร่า

 พันธุ์ไม้

Echinofossulocactus Phyllacanthus หรือ คลื่นสมอง

Echinofossulocactus Phyllacanthus หรือ คลื่นสมอง

Echinofossulocactus Phyllacanthus หรือ คลื่นสมอง

       อีกหนึ่งต้นพืชแคสตัสหรือต้นกระบองเพชรขนาดจิ๋ว ที่อยากจะแนะนำให้ลองมาปลูกและเลี้ยงดูนั่นก็คือ “ตันกระบองเพชรคลื่นสมอง” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งต้นพืชที่ได้รับการตอบรับอย่างดีมาก สำหรับการที่จะเลี้ยงดูแล เพราะต้นพืชเป็นต้นที่อวบอิ่มน้ำและเป็นไม้ล้มลุก ที่สามารถทนต่อความแห้งแล้งได้เป็นอย่างดี  ซึ่งหากใครที่อยากจะลองปลูกแต่กังวลว่าจะไม่มีเวลามาดูแล บอกเลยว่าสายพันธุ์นี้ไม่ควรพลาดจริงๆ

 

 

โดยลักษณะลำต้นของชนิดนี้ จะมีรูปร่างคล้ายทรงกลมมีพื้นผิวสีเขียวเข้ม ถูกล้อมรอบด้วยหนามแหลมเรียว ขนาดใหญ่ มักจะนิยมปลูกในพื้นที่บริเวณที่มีแดดส่องถึงอยู่ตลอดเวลา ไม่ต้องการน้ำมาก ควรจะมีการรดน้ำเพื่อให้ดินมีความชุ่มฉ่ำสัปดาห์ละ 1 ครั้งก็คงจะเพียงพอ

 

 

ที่สำคัญในเรื่องของการขยายสายพันธุ์ต้นกระบองเพชรนี้ มักจะใช้วิธการที่เป็นการเพาะเมล็ดและการตัดกิ่ง เพื่อที่จะช่วยทำให้ต้นพืช มีความอุดมสมบูรณ์และสามารถเจริญเติบโตได้ดีที่สุดนั่นเอง ส่วนใหญ่มักจะปลูกด้วยปุ๋ยที่เป็นแคสตัส เพราะจะมีธาตุโพแทสเซียมสูง จะช่วยให้ลำต้นของต้นพืชชนิดนี้ มีความแข็งแรงในช่วงฤดูร้อนได้ จึงเหมาะอย่างมากสำหรับใครที่อยากจะลองหันมาปลูกต้นแคสตัสขนาดจิ๋ว เพราะบอกได้เลยว่าสายพันธุ์นี้สุดไปเลยจริงๆ

 

 

 พันธุ์ไม้

เก๋งจีน

เก๋งจีน

เก๋งจีน

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ของเจ้าแคสตัสหรือต้นกระบองเพชรจิ๋ว ซึ่งน้องเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่เป็นต้นพืชไม้ล้มลุก ซึ่งตอนนี้เป็นสายพันธุ์ที่มีจำนวนคนที่ปลูกเพิ่มขึ้นกันเป็นจำนวนมาก เพราะลักษณะของต้นพืชชนิดนี้เมื่อมีการเติบโตที่เต็มที่จะออกดอกที่มีสีสันลวดลายสวยงามอย่างมาก จึงทำให้คนสนใจหันมาปลูกและดูแลต้นกระบองเพชรจิ๋วเก๋งจีนกันเพิ่มขึ้นนั่นเอง โดยลำต้นน้องจะเป็นสีเขียวเข้มที่สูงเรียวยาว ลำต้นเป็นหนามให้ความรู้สึกเหมือนถั่วพลู แต่มีหนามที่แหลมกว่า

 

 

สำหรับต้นพืชชนิดนี้น้องชอบแสงแดดที่รำไร ไม่จัดจ้านจนเกินไป ควรรดน้ำให้น้องอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 – 3 ครั้ง ควรรดให้เปียกจนไปถึงรากเลย เพราะจะทำให้น้องเติบโตได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด อีกทั้งมักจะนิยมปลูกน้องด้วยดินร่วนหรือดินโปร่ง ที่สามารถมีการระบายน้ำได้ดี

 

 

ส่วนดอกของต้นพืชชนิดนี้ จะออกดอกเป็นดอกเดี่ยว มีกลีบเรียวยาวเล็กๆซ้อนกัน ส่วนมากดอกของน้องจะเป็นสีขาวสลับกับสีน้ำตาล มีเกสรสีเหลืองอยู่ภายใน จึงทำให้น้องกลายเป็นอีกหนึ่งแคสตัสจิ๋วที่น่าสนใจเลี้ยงดูอีกหนึ่งสายพันธุ์จริงๆ

 

 

พันธุ์ไม้

Echinopsis Subdenudata หรือ นูปต้า

Echinopsis Subdenudata หรือ นูปต้า

Echinopsis Subdenudata หรือ นูปต้า

สำหรับต้นกระบองเพชรนูปต้าเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่เลี้ยงง่าย และมีผู้คนนำมานิยมเป็นไม้ดอกไม้ประดับตกแต่ง ตามอาคารบ้านเรือนกันเป็นจำนวนมาก เพราะลักษณะรูปร่างลำต้นของต้นพืชชนิดนี้ จะเป็นสีเขียวที่ถูกล้อมรอบไปด้วยหนามที่มีความคมเรียวยาวเป็นสีขาวคล้ายปุยขนจุดกลมๆ

 

 

ซึ่งหากมีการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่แล้ว ก็จะมีดอกสีขาวคล้ายเบญจมาศ มีขนาดที่ใหญ่กว่า ออกมาให้รับชมกันอีกด้วย จึงทำให้มีลักษณะเด่นที่แปลกตากว่าสายพันธุ์อื่นๆนั่นเอง โดยเป็นต้นกระบองเพชรที่มีถิ่นกะเนิดมาจากประเทศอเมริกาตอนใต้ แต่มาเติบโตและเป็นที่รู้จักโด่งดังในประเทศไทย

 

 

วิธีการดูแลรักษาก็เหมือนกับต้นกระบองเพชรขนาดจิ๋วของสายพันธุ์อื่นๆทั่วไป ไม่ชอบปริมาณน้ำที่มากจนเกินไป อาจจะมีการรดน้ำในสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่ต้องรด 3 ช่วงเวลา เช้า เที่ยง เย็น อีกทั้งต้นพืชชนิดนี้ เมื่อมีการเจริญเติบโตที่คงที่ จะมีลักษณะเป็นก้านยาวที่ยื่นออกมาจากลำตัน สองข้างพร้อมมีขนขึ้นเกาะตามลำต้นอีกด้วย เพราะความน่ารักของตัวดอกต้นพืชชนิดนี้ จึงทำให้มีผู้คนหันมานิยมและสนใจที่จะปลูกสายพันธุ์นี้นั่นเอง

 

 

 

วิธีดูแลต้นไม้

คอนโดนางฟ้าวิธีปลูกมีแบบไหนบ้าง

คอนโดนางฟ้าวิธีปลูกมีแบบไหนบ้าง

คอนโดนางฟ้าวิธีปลูกมีแบบไหนบ้าง

คอนโดนางฟ้าวิธีปลูกลงในกระถาง ไม่ว่าจะเป็นกระถางเล็กหรือใหญ่ให้กะขนาดกระถางให้พอดีกับต้นที่จะปลูก เนื่องจากคอนโดนางฟ้าเป็นไม้อวบน้ำจึงไม่ชอบน้ำขังและดินปลูกต้องระบายน้ำได้ดี ดังนั้นกระถางที่ใช้ต้องมีรูระบายน้ำ ดินปลูกจะไม่ค่อยมีสูตรตายตัวแล้วแต่ความสะดวกของผู้ปลูก ส่วนใหญ่ถ้าเป็นกระถางเล็กจิ๋วนิยมใช้ดินสำหรับปลูกแคคตัสผสมกับเพอร์ไลต์ ซึ่งเป็นหินที่เกิดจากแร่ภูเขาไฟ เป็นวัสดุปลูกที่ทำให้ดินโปร่งเบา อุ้มน้ำได้แต่ระบายความชื้นได้ดี แต่ถ้าเป็นกระถางใหญ่สามารถใช้ดินร่วนผสมทรายและขุยมะพร้าวอัตราส่วน 1:1:1 ก็ได้ ถ้าใครมีปุ๋ยหมักหรือเปลือกไข่ก็สามารถใส่ผสมลงได้เลย

 

 

ก่อนใส่ดินลงกระถางควรนำถ่านหรือมะพร้าวสับรองก้นกระถางก่อนเพื่อช่วยระบายน้ำ การปลูกในกระถางสามารถดูแลเป็นพิเศษได้โดยโรยสตาร์เกิ้ลจีลงในดินนิดหน่อยเพื่อป้องกันแมลง พร้อมทั้งใส่ปุ๋ยละลายช้าสูตร 13-13-13 โดยโรยใส่ดินในกระถางไม่ต้องมาก เมื่อนำต้นลงปลูกและกลบดินเรียบร้อยแล้วขั้นตอนสุดท้ายควรนำหินโรยทับให้ทั่วหน้าดิน เพื่อเป็นการประคองต้นและช่วยไม่ให้หน้าดินกระเด็นกระจายเวลารดน้ำ การรดน้ำให้ค่อยๆรดพอให้ดินมีความชื้นหรือสังเกตพอให้ก้นกระถางมีน้ำหยดที่รูระบายก็เพียงพอ

แล้ว ในระยะแรกให้วางในที่ร่มรำไรก่อนซัก 1 อาทิตย์ หลังจากนั้นให้วางในที่รับแสงแดดช่วงเช้าประมาณ 4-5 ชั่วโมง รดน้ำ 5-7 วันต่อครั้ง ใส่ปุ๋ย 3-4 เดือนต่อครั้ง และคอยเปลี่ยนกระถางอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อไม่ให้ต้นแน่นกระถางจนเกินไป แค่นี้คุณก็ได้ปราสาทสวยๆไว้รอลุ้นดอกแล้ว

 

 

คอนโดนางฟ้าวิธีปลูกลงดิน ต้องเป็นบริเวณที่ไม่มีน้ำท่วมขังและมีแดดช่วงเช้าส่องถึง เตรียมดินปลูกสูตรเดียวกับปลูกในกระถาง หรือจะเป็นดินร่วนปนทรายธรรมดาก็ได้ ขุดหลุม 30x30x30 ซม. นำต้นหรือตอที่เตรียมไว้ลงดินแล้วกลบดินโรยทับด้วยหินเพื่อป้องกันหน้าดินกระเด็นจากการรดน้ำและเป็นการตกแต่งโคนต้นไปด้วย อาทิตย์แรกหาที่บังแดดมาป้องกันแสงแดดจัดไว้ก่อน ทิ้งไว้ 5-7 วันค่อยรดน้ำ จากนั้นค่อยรด 3-4 วันต่อครั้ง จนผ่านไป 1-2 เดือนค่อยเริ่มใส่ปุ๋ย จะเป็นปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยละลายช้าก็ได้ โดยใส่ปีละ 4-5 ครั้งก็เพียงพอ เมื่อต้นติดรากเติบโตแข็งแรงดีแล้วปล่อยให้ต้นเจอแสงแดดช่วงเช้าให้เต็มที่ รดน้ำอาทิตย์ละครั้ง ไม่นานต้นก็เปลี่ยนเป็นคอนโดนางฟ้ายักษ์ให้คุณแล้ว

 

 

คอนโดนางฟ้าวิธีปลูกมีแบบไหนบ้าง

ไม้ประดับ

แมมมิลลาเรีย เพอร์เบลลา (แมมนกฮูก)

แมมมิลลาเรีย เพอร์เบลลา (แมมนกฮูก)

แมมมิลลาเรีย เพอร์เบลลา (แมมนกฮูก)

เชื่อว่าใครหลายๆคนในตอนนี้ … กำลังศึกษาและสนใจที่อยากจะลองหาเจ้าแคสตัสหรือต้นกระบองเพชรขนาดจิ๋วมาเลี้ยงกันอยู่ใช่ไหมล่ะ ! และอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่อยากจะขอแนะนำเลยนั่นก็คือ “ต้นกระบองเพชรนกฮูก” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งต้นพืชที่มีความน่ารักตะมุตะมิ น่าเอ็นดูเป็นอย่างมาก เพราะตัวน้องมีลักษณะที่มีรูปร่างทรงกลมออกมนๆหน่อย

 

 

ตัวน้องถูกล้อมรอบไปด้วยหนามอ่อนขนสั้นสีขาว ที่มีการเรียงระดับชั้นอย่างสวยงาม และเมื่อมีการเติบโตที่เต็มที่อุดมสมบูรณ์แล้ว ก็จะมีการแตกหน่อเกิดขึ้นมาให้ความรู้สึกคล้ายๆเหมือนตานกฮูก ในส่วนของวิธีการดูแลและการรดน้ำ สายพันธุ์นี้จะเป็นต้นพืชที่ชอบแสงแดดส่องลงมาถึงทั้งวัน ไม่ชอบปริมาณน้ำ สัปดาห์ละ 1 ครั้งก็คงพอ เพราะตัวน้องสามารถทนความแห้งแล้งได้เป็นอย่างดี

ที่สำคัญชอบการขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและการตัดกิ่ง เพราะเป็นวิธีที่ช่วยทำให้น้องสามารถเจริญเติบโตและอุดมสมบูรณ์อย่างมากที่สุดนั่นเอง จึงเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ควรต้องลองเลี้ยงและดูแล เพราะน้องน่ารักมากจริงๆ

 

แมมมิลลาเรีย เพอร์เบลลา (แมมนกฮูก)

วิธีดูแลต้นไม้

แมมตุ๊กตา (Mammillaria Gracilis)

แมมตุ๊กตา (Mammillaria Gracilis)

แมมตุ๊กตา (Mammillaria Gracilis)

อีกหนึ่งสายพันธุ์ของเจ้าแคสตัสหรือต้นกระบองเพชรจิ๋วที่ไม่ควรพลาดในการเลี้ยงเลยนั่นก็คือ “ต้นกระบองเพชรจิ่วแมมตุ๊กตา” คือตัวน้องจะมีความน่ารัก น่าหลงใหลตามชื่อเลย เพราะลักษณะลำตัวของน้องจะเป็นทรงกลมมีความคล้ายคลึงเหมือนตะกร้อลูกเล็ก ถูกล้อมรอบไปด้วยหนามยาวสีขาว สวยงาม ดูยังไงน้องก็มีความน่ารักเหมือนตุ๊กตาจริงๆ

 

 

และเมื่อมีการเจริญเติบโตที่อุดมสมบูรณ์เต็มที่แล้ว น้องจะมีการแตกดอกออกมาให้เรารับชมและดูกันแบบเพลิดเพลืนอีกด้วย ส่วนตัวดอกจะพบเจอได้ทั้งสีขาวเหลือง และสีชมพูน่ารักละมุน จึงทำให้ต้นพืชสายพันธุ์นี้มีความน่ารัก น่าหลงใหลซะเหลือเกิน ใครเห็นก็อยากจะเอาน้องมาลองเลี้ยง

 

 

ซึ่งในส่วนของวิธีการเลี้ยงและการดูแล น้องเป็นต้นพืชที่ชอบแสงแดดแต่จะเป็นแสงแดดเพียงช่วงเช้าเท่านั่น สามารถเอาน้องไปตากไว้บริเวณที่มีแสงแดดได้ประมาณ 4 – 6 ชั่วโมง และควรมีการรดน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อให้น้องมีการเติบโตที่แข็งแรง และสมบูรณ์ที่สุด ส่วนต้นกำเนิดแท้จริงของน้อง อย่างที่ทราบว่าสายพันธุ์นี้จะมาจากประเทศแม็กซิโกกันซะส่วนใหญ่

 

 

แต่ถึงอย่างไรน้องก็มาเติบโตและเป็นที่รู้จักในประเทศไทย และความน่ารัก ความน่าเอ็นดูของน้อง ทำให้มีผู้คนเข้ามาศึกษาและทดลองปลูกน้องกันมากในตอนนี้นั่นเอง เรียกได้ว่าต้องมีประประดับไว้ที่บ้านกันแล้ว

 

 

แมมตุ๊กตา (Mammillaria Gracilis)

วิธีดูแลต้นไม้

เมโล Melocactus Amoenus

เมโล Melocactus Amoenus

เมโล Melocactus Amoenus

กำลังชั่งใจกันอยู่ใช่ไหมล่ะ … ว่าจะลองเลี้ยงเจ้าแคสตัสหรือต้นกระบองเพชรจิ๋วสายพันธุ์ไหนดี นี่เลยเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่อยากจะขอแนะนำนั่นก็คือ “ต้นกระบองเพชรจิ๋วเมโล” ซึ่งน้องมีความน่ารักตะมุตะมิอย่างมาก ด้วยรูปร่างและลักษณะมีความรู้สึกคล้ายกับหมวกมงกุฏ

และยิ่งเมื่อมีการออกดอกน้องจะกลายเป็นต้นพืชไม้ล้มลุกที่มีสีสันสวยงาม น่าจับตามองอย่างมากเลยจริงๆ ตัวน้องเป็นลำต้นที่มีพื้นผิวเป็นสีเขียวเข้ม ถูกล้อมรอบไปด้วยหนามยาว มีขนสีขาวปุยอ่อนๆ เมื่อเติบโตเต็มที่ดอกของน้องจะเป็นสีขาว สีส้ม และสีชมพู ที่จะทำให้คุณรู้สึกเพลิดเพลินทุกครั้งที่ได้จ้องมอง

ซึ่งตัวน้องก็จะเหมือนสายพันธุ์อื่นๆทั่วไปที่มีการดูแลด้วยปุ๋ยแคสตัสหรือดินร่วนปนทราย ชอบแสงแดดจัด แต่ไม่ชอบน้ำในปริมาณที่มาก ควรจะมีการรดน้ำให้น้องสัปดาห์ละ 1 ครั้งก็คงจะเพียงพอ เพื่อเป็นการรักษาไม่ให้น้องเน่าตาย ส่วนตัวต้นพืชชนิดนี้ สามารถทนต่อความแห้งแล้งได้ ซี่งมักจะนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับตกแต่งตามอาคารบ้านเรือน

จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่น่าทดลองมาเลี้ยงและดูแลอย่างมากเลยจริงๆ เพราะตัวน้องมีความน่ารัก น่าเอ็นดู จึงเหมาะที่จะนำมาประดับไว้บนโต๊ะทำงาน เพื่อจะช่วยทำให้เรารู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่ได้เห็นน้องกำลังเจริญเติบโต

 

 

วิธีดูแลต้นไม้

พลุสีทอง Cylindropuntia Spinosior

พลุสีทอง Cylindropuntia Spinosior

พลุสีทอง Cylindropuntia Spinosior

สำหรับใครที่กำลังมองหาต้นแคสตัสหรือเจ้ากระบองเพชรจิ๋ว ที่มีความน่ารัก น่าหลงใหล และเลี้ยงง่าย ก็ต้องแนะนำอีกหนึ่งสายพันธุ์นั่นก็คือ “ต้นกระบองเพชรจิ๋วพลุสีทอง” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแคสตัสที่มีลักษณะคล้ายพลุดอกไม้ไฟ มีสีเหลือง เขียวสวยงามที่เกิดขึ้นอยู่บริเวณลำต้น ที่เหมาะอย่างมากสำหรับใครที่อยากจะลองหัดเลี้ยงดู สายพันธุ์นี้ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ

โดยส่วนใหญ่ลำต้นของไม้ล้มลุกชนิดนี้ จะเป็นการแตกหน่อที่เป็นทรงยาวสูง ถูกปกคลุมด้วยหนามเรียวยาว มีความรู้สึกคล้ายพลุดอกไม้ไฟ เมื่อลำต้นมีการเติบโตที่เต็มที่อุดมสมบูรณ์แล้ว ก็มักจะมีการขยายตัวที่มีการยืดความยาวเพิ่มขึ้น

ส่วนใหญ่วิธีการดูแลและรักษาจะมีความคล้ายคลึงกับสายพันธุ์อื่นๆคือ ไม่ชอบปริมาณน้ำที่มากจนเกินไป ชอบแสงแดดที่รำไรที่มีการส่องอยู่ตลอดเวลาแต่ไม่จัดจ้าน สามารถทนต่อความแห้งแล้งได้เป็นอย่างดี ซึ่งต้นพืชชนิดนี้มักจะนิยมปลูกกับดินร่วนปนทราย ที่ต้องการพื้นที่การระบายน้ำออกมา เพื่อที่จะให้ลำต้นและเจ้าแคสตัสมีการเจริญเติบโตที่รวดเร็วและแข็งแรง อายุยืนนานที่สุด จึงไม่ควรพลาดอย่างมากเลยจริงๆ หากจะลองศึกษาและลองเลี้ยงครั้งแรก

 

 

วิธีดูแลต้นไม้