ต้นเศรษฐีพันล้าน

ปลูกแล้วปัง!! ต้นเศรษฐีพันล้าน

ปลูกแล้วปัง!! ต้นเศรษฐีพันล้าน

ต้นเศรษฐีพันล้าน
ต้นเศรษฐีพันล้าน

ไม้มงคลที่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็น ต้นเศรษฐีพันล้าน เพราะฉะนั้น คงจะเป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้  นั่นก็คือเรื่องที่เกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ ซึ่งไม้มงคลชนิดนี้ ผู้คนให้ความนิยมปลูกเอาไว้ในบ้านสูงมาก เพราะนอกจากที่จะช่วยเรื่องการเงินแล้ว ลำต้นยังมีความแข็งแรง สามารถเติบโตได้เป็นอย่างดี ในทุกสภาพอากาศ หรือจะตั้งไว้ในบ้าน เพื่อช่วยฟอกอากาศให้ดีขึ้น ก็ได้เหมือนกัน

หลายคนคงมีความเชื่อเรื่องไม้มงคล ที่แตกต่างกันออกไป โดยเชื่อกันว่าถ้าเกิดปลูกไม้มงคลชนิดนี้ เอาไว้ บริเวณรอบบ้านจะช่วยเสริมดวงให้กับผู้คนในบ้าน ถ้าเป็นครอบครัวใหญ่ๆ ก็จะทำให้ครอบครัวนั้น มีเงินใช้ไม่ขาดมือ ทำให้ครอบครัวเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น  และหากทำงานเกี่ยวกับการเงินเป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่น เปิดกิจการของครอบครัว,พนักงานธนาคาร ก็จะช่วยเสริมดวงเพิ่มเติมด้วย  หรือถ้าเกิดปลูกไว้รอบๆร้านค้า ก็จะช่วยเรียกลูกค้าเข้าร้าน ช่วยให้ขายดีขึ้น ทำให้ลูกค้าเข้ามาอุดหนุนจนกลายเป็นลูกประจำ และบอกต่อให้คนเข้ามาอุดหนุนเยอะๆ  และยังช่วยให้มีคนคอยสนับสนุนเกี่ยวกับการเงินอีกด้วย  ซึ่งมีอีกหนึ่งความเชื่อบอกไว้วว่า  ถ้าดูแลรักษาไม้มงคลชนิดนี้ให้ดี ทำให้ใบมีสีเขียวสด ตลอดเวลา  จะส่งผลให้คนปลูกมีโชคมีลาภ เข้ามาตลอด มีทั้งลาภจากคนรู้จัก รวมถึงลาภลอย

ปลูกแล้วปัง!! ต้นเศรษฐีพันล้าน
ปลูกแล้วปัง!! ต้นเศรษฐีพันล้าน

ลักษณะของลำต้น จะมีรูปทรงเป็นพุ่ม โผล่พ้นดินมาเล็กน้อย โดยพอโตแบบเต็มที่แล้วก็จะสูงไม่มาก ใบจะเป็นทรงรี มีความนุ่ม ส่วนดอกจะไม่ได้ออกดอกสักเท่าไร จะอยู่บริเวณซอกใบมากกว่า ดอกจะสีเหลือง ปลายสีส้ม ส่วนมากจะปลูกในกระถาง  เพราะเป็นไม้อวบน้ำขนาดเล็ก จะทำให้สามารถย้ายที่ได้ง่าย คนจึงชอบปลูกเอาไว้ในบ้าน และยกมารับแดดตอนเช้า ถ้าเกิดโตเกินไวแล้วก็ตั้งไว้นอกบ้านก็ได้เหมือนกัน  ซึ่งถ้านำลงดินแล้วอยากปลูกเป็นกอใหญ่ ก็ปลูกติดกับตัวบ้านได้ เนื่องจากรากของต้นสั้น ทำให้ไม่รบกวนพื้นที่โดยรอบ

ปลูกแล้วปัง!! ต้นเศรษฐีพันล้าน
ปลูกแล้วปัง!! ต้นเศรษฐีพันล้าน

ต้นเศรษฐีพันล้าน ต้องการแสงแดดไม่มาก แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับอายุของการปลูกด้วย บางต้นทนได้หนึ่งวันเต็มๆ บางต้นก็ต้นได้แค่ครึ่งวัน ส่วนการรดน้ำ  รดแค่ประมาณ 2ครั้งต่อสัปดาห์ ก็พอ เพราะเป็นต้นไม้ที่ต้องการน้ำน้อยมาก แนะนำให้ใช้ดินร่วนซุยในการปลูก เพราะว่าสามารถระบายน้ำได้ดี และนอกจากต้นไม้ชนิดนี้จะเป็นไม้มงคลที่ช่วยเสริมดวงเรื่องเงินๆทองๆ และช่วยเรื่องการฟอกอากาศแล้ว ใบของต้น ยังนำไปบด ละเอียด และใช้รักษาอาการไหม้แดดได้ด้วย แต่ว่าจำเป็นจะต้องเลี่ยงการใช้กับแผลที่ผุผอง นั่นเอง


https://www.1000maidee.com/

ต้นกระบองเพชรสายพันธุ์ Opuntia aciculate

ต้นกระบองเพชรสายพันธุ์ Opuntia aciculate

ต้นกระบองเพชรสายพันธุ์ Opuntia aciculate

เป็นอีกหนึ่งต้นกระบองเพชรที่มาจากสายพันธุ์ aciculate เป็นไม้ยืนต้นที่มีลักษณะรูปร่างที่น่ารักเล็กกะทัดรัด เป็นการแพร่ขยายสายพันธุ์มาจากทางเหนืองของเม็กซิโก เป็นต้นไม้ที่เต็มไปด้วยหนามมากมายซึ่งอยู่ในกลุ่มต้นไม้ที่เป็นผลัดใบและอวบอิ่มด้วยน้ำ ส่วนใหญ่มักจะเติบโตและพบเจออยู่บริเวณบนก้อนหินและภูเขาแห้ง

ซึ่งลักษณะของต้นไม้สายพันธุ์นี้จะมีรูปร่างที่เป็นวงรี คล้ายหูกระต่าย บริเวณปลายมีส่วนที่เป็นโค้ง และมีหนามหรือเข็มที่เกาะกันอยู่เป็นกลุ่มๆ เมื่อโตเต็มที่จะมีผลดอกที่เป็นสีเหลืองทอง หรือสีส้มแดง มาให้เรารับชมความสวยงามของมันนั่นเอง

ส่วนวิธีการเลี้ยงและการดูแลต้นกระบองเพชรนี้ ควรนำไปวางในพื้นที่ที่มีแสงแดดกระทบในยามเช้า เพราะเป็นช่วงที่แดดไม่ร้อนจนเกินไป และต้องรดน้ำเมื่อดินมีความแห้ง ที่สำคัญต้องหมั่นคอยสังเกตุอยู่เสมอว่าจะเกิดโรคและมีแมลงหรือศัครูพืชมาคอยก่กวนหรือไม่ เพียงเท่านี้ก็ทำให้ต้นกระบองเพชรสายพันธุ์นี้สามารถเจริญเติบโตและขยายการแตกหน่อแบบสวยๆให้เราได้ชื่นชม และเอ็นดูในความน่ารักของพืชชนิดนี้นั่นเอง

 

 

วิธีดูแลต้นไม้

Mammillaria scrippsiana หรือ หนามพิกุล

Mammillaria scrippsiana หรือ หนามพิกุล

Mammillaria scrippsiana หรือ หนามพิกุล

สำหรับใครที่กำลังมองหาหรือมีแพลนที่อยากจะลองปลูกแคสตัสหรือต้นกระเบองเพชรขนาดจิ๋ว ที่ชื่นชอบในความสวยงาม และการเลี้ยงดูแลที่ง่าย ก็คงต้องแนะนำอีกหนึ่งสายพันธุ์ของต้นกระบองเพชรหนามพิกุล ที่เป็นอีกหนึ่งต้นพืชที่มีความสวยงามชวนน่าหลงไหล เมื่อเวลาที่ออกดอก สีสันมีความสวยงามจนทำให้ใครเห็นก้อยากที่มองและลองเลี้ยงกันอย่างมาก

เพราะลักษณะของต้นพืชชนิดนี้ลำต้นมีรูปทรงคล้ายทรงกลม ถูกล้อมรอบไปด้วยหนามที่มีความยาวประมาณ 1- 2 เซนติเมตร อีกทั้งมักจะพบเจอปุยขนที่เป็นสีขาวแทรกกลางช่องว่างของลายริ้วของลำต้น เมื่อมีการเจริญเติบโตที่อุดมสมบูรณ์และเต็มที่แล้ว มักจะมีดอกที่เป็นสีชมพูสวยงามคล้ายดอกพิกุล

โดยวิธีการเลี้ยงและการดูแลรักษา ไม่ควรนำไปวางในบริเวณที่มีแสงแดดจัดจนเกินไป อาจพอให้มีแสงรำไรบ้างและควรเปลี่ยนปุ๋ยแคสตัสทุกครั้งที่มีการรดน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง มักจะปลูกกับดินร่วนปนทรายที่มีรูระบายอากาศได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็ทำให้เป็นอีกหนึ่งวิธีในการเลี้ยงที่ง่ายมากเช่นกัน

 

พันธุ์ไม้