ศิลปะของบอนไซ วัฒนธรรมการปลูกต้นไม้ที่นที่รู้จักกันทั่วโลก
ศิลปะของบอนไซThe Art of Bonsai กล่าวได้ว่าเป็นวัฒนธรรมที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณและเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก การทำบอนไซนั้นต้องใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อให้เกิดเป็นบอนไซที่สวยงาม มองดูเหมือนกับต้นไม้ใหญ่ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เพียงแต่เราได้นำรูปแบบของต้นไม้ใหญ่มาย่อสวนในกระถางด้วยฝีมือของเรานั่นเอง ซึ่งต้องอาศัยความรู้ ความชำนาญ ประสบการณ์ และระยะเวลา ในการทำ
ศิลปะของบอนไซ คืองานศิลปะที่มีชีวิต เพราะบอนไซนั้นเป็นงานที่ต้องใช้ความประณีตในการทำอย่างมาก ซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาในการสร้างเป็นปีกว่าที่จะได้บอนไซในรูปแบบที่ต้องการ ดังนั้นเมื่อใช้เวลานานจึงทำให้มูลค่าของบอนไซเพิ่มสูงขึ้น ถ้าจะแปลความหมายของบอนไซนั้น เดิมเป็นคำที่ออกเสียงเพี้ยนมาจากภาษาจีน คำว่า “เผินใจ่” พอออกเสียงเพื้ยนมากเข้าเลยกลายเป็น “บอน” แปลว่า “กระถาง” ส่วนไซนั้น แปลว่า “ต้นไม้” เมื่อนำมารวมกันจะให้ความหมายว่า “ต้นไม้ที่จัดวางในกระถาง” จุดประสงค์ในการทำบอนไซขึ้นมาคือต้องการจะย่อส่วนของต้นไม้ใหญ่ เพื่อมาประดับไว้ในบ้านทำให้ดูสวยงาม
โดยผู้ที่คิดริเริ่มทำบอนไซคนแรก คือ “ตู๋หวยหมิง” ซึ่งเป็นจินตกวี ของประเทศจีน ปัจจุบันบอนไซแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ไม้จากป่า กับไม้จากสวน ซึ่งแตกต่างกันในเรื่องของต้นกำเนิด ถ้าเป็นไม้จากป่าจะขึ้นเองตามธรรมชาติ ส่วนไม้จากสวนจะเกิดขึ้นเพราะฝีมือมนุษย์ได้ทำการเพาะเมล็ด หรือการชำกิ่ง โดยเลี้ยงตั้งแต่ยังเล็กจนเติบโตเป็นไม้ใหญ่ แต่เมื่อเทียบกันแล้วไม้ป่าจะมีราคาแพงกว่า เพราะไม้ป่าจะหายากและมีกฎหมายห้ามขุดนื่องจากเป็นเขตอนุรักษ์ แต่ที่ยังมีขายกันอยู่จะเป็นไม้เก่าที่ตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นนั่นเอง เอกลักษณ์ของไม้จะไม่เหมือนกัน อย่างไม้ป่าจะมีความแปลกของลำต้นตรงที่จะเจอความโหดร้ายจากภัยธรรมชาติ ทำให้เกิดเป็นซากเกาะติดอยู่ที่ลำต้น มองดูคล้ายงานศิลปะ ซึ่งทำให้เกิดเป็นไม้ที่มีคุณค่า แต่ถ้าเป็นไม้สวนนั้นจะไม่มีซากที่เกิดจากธรรมชาติที่ต้นไม้ ดังนั้นคนที่เลี้่ยงบอนไซจึงต้องเติมแต่งเลียนแบบต้นไม้ให้คล้ายคลึงกับต้นไม้จากป่ามากที่สุด ซึ่งทำให้ขาดเสน่ห์ไป
ศิลปะของบอนไซ นอกจากจะเป็นแค่งานศิลปะแล้ว บอนไซยังถือว่าเป็นวัตถุมหัศจรรย์ชิ้นหนึ่ง ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เราได้จ้องมองดู หรือแม้แต่การลงมือทำ ก็จะรู้สึกว่าจิตใจสงบ ผ่อนคลาย เหมือนกับเรากำลังตกอยู่ในภวังค์หรือต้องมนต์สะกด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์และยังถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของบอนไซอีกด้วย