รองเท้านารีเหลือง กล้วยไม้อนุรักษ์ประดับบ้านและสวน
สำหรับใครที่ชื่นชอบการทำการประดับบ้านและสวน และกำลังมองหา กล้วยไม้ ที่มีความแปลกใหม่ไม่ซ้ำเดิม การปลูก รองเท้านารีเหลืองกาญจน์ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะเป็นกล้วยไม้ที่มีความสวยงาม ปลูกง่าย ขนาดไม่ใหญ่มากสามารถปลูกเอาไว้ประดับบ้านได้อย่างไม่กินพื้นที่ โดยจะถูกจัดอยู่ใน ประเภทของ กล้วยไม้ดิน ที่สามารถเจริญเติบโตทางด้านข้าง และตอนนี้ได้ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ของ พืชอนุรักษ์บัญชีที่ 1 ตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช ตั้งแต่ พุทธศักราช 2518 โดย ถูกทำการค้นพบครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2402 โดยถิ่นกำเนิดของกล้วยไม้ชนิดนี้จะอยู่แถบจังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดกำแพงเพชร ในการค้นพบ รองเท้านารีเหลือง กาญจน์ จะขึ้นอิงอยู่ตามต้นไม้ในป่าดิบ ที่มีความอุดมสมบรูณ เป็นกล้วยไม้ที่มีกลีบในคู่บิดเป็นเกลียวเป็นลักษณะสายออกมายาวกว่ากลีบ 2 และได้ทำการกระจายพันธุ์ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง ประเทศตีนในตอนใต้ และ ประเทศพม่า
สำหรับลักาณะใบของ รองเท้านารีเหลืองกาญจน์ ลักษณะของใบจะเป็นทรงขอบขนาน ใน 1 ใบ จะประกอบไปด้วย 2 สี เพราะมีลักษณะที่คล้ายกับรายตารางสีเขียมเข้มและสีเทา ทำให้ต้นนี้ดูมีความวินเทจ และโมเดิรน์ แน่นอนว่าความสวยงามของกล้วยไม้เรามักจะดูที่ดอก เพราะดอกของแต่ละพันธุ์จะมีความแตกต่างกัน โดยดอกของกล้วยไม้ชนิดนี้จะเป็นลักษณะของดอกเดี่ยว ภายใน 1 ดอก จะประกอบไปด้วย ช่อที่มีดอกย่อย ๆ อยู่ 2 – 3 ดอก สำหรับความยามของก้านช่อดอกจะมีความยาวประมาณ 12 – 15 เซนติเมตร โดยจะมีสีเขียวอ่อนมีขนปกคลุม ดอกจะเป็นลักษณะบานและค่อนข้างเป็นไปในลักษณะกลม มีเส้นผ่านศูนย์กลางของแต่ละดอกเมื่อมีการโตเต็มที่แล้วจะสามารถมีขนาดได้ประมาณ 6 – 9 เซนติเมตรเลย
สำหรับใครที่อยากจะปลูก รองเท้านารีเหลืองกาญจน์ ผู้เล่นควรจะต้องทำการเรียนรู้วิธีการปลูกที่ถูกต้อง เพื่อจะทำให้เราได้ดอกที่มีความสวยงาม โดยต้นนี้จะต้องการน้ำในปริมาณที่ปานกลาง ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป แสงแดดก็ไม่ได้ต้องการแสงแดดที่แรงมากจนเกินไป ต้องการแดดอ่อน ๆ เช่น แสงแดดในตอนเช้า จะดีมาก สำหรับการขยายพันธุ์สามารถทำได้หลายแบบ เช่น การแยกกอ การปักชำ และ การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ที่จะทำให้สามารถขยายพันธุ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างที่เราได้บอกไปว่าเราจะสามารถปลูกเป็นไม้ประดับบ้านและสวน เราก็คงอยากให้สวนของเรามีความสวยงามน่ามอง ดังนั้น การดูแลจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะนอกจากจะปลูกเพื่อความสวยงามแล้ว ยังจะสามารถปลูกเพื่อจำหน่ายก็ได้