ต้นสะเดา สมุนไพรมีประโยชน์ทางยา น้ำหมักชีวภาพไล่แมลง

ต้นสะเดา สมุนไพรมีประโยชน์ทางยา น้ำหมักชีวภาพไล่แมลง

สะเดา ( Siamese Neem Tree ) เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ที่ผู้เขียนอยากแนะนำให้กับผู้ที่รักต้นไม้ได้รู้จัก และควรหาปลูกไว้ในสวนสักต้น นอกจากสะเดามีประโยชน์ทางยากับคนแล้ว ยังเป็นประโยชน์ที่ให้ผลดีมากในการนำมาเป็นน้ำหมักชีวภาพไล่แมลงอย่างได้ผลและปลอดภัย โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี

ต้นสะเดา สมุนไพรมีประโยชน์ทางยา ทำน้ำหมักชีวภาพไล่แมลง

วิธีขยายพันธุ์

  • นำผลสุกสะเดาบี้เอาเนื้อหุ้มผลออกเหลือแต่เมล็ดในล้างน้ำแล้วผึ่งให้แห้ง
  • วัสดุเพาะใช้ดินผสมขุยมะพร้าวอัตราส่วน 1:1 ใส่ถุงพลาสติกแล้วนำเมล็ดลงดินแล้วกลบหน้าดินอีกรอบบางๆ เก็บไว้ในที่ร่ม รดน้ำทุกวันประมาณ 5-7 เมล็ดจะเริ่มงอก รอให้ต้นกล้าเติบโตจนมีความสูงของต้นประมาณ 10-12 นิ้ว ใช้เวลาประมาณ 4-5 เดือน แล้วค่อยนำลงดิน
  • ผู้ปลูกควรวางแผนคำนวณขั้นตอนและเวลาการเพาะให้เป็นต้นกล้าพร้อมปลูกในช่วงฤดูฝน เพราะสภาพอากาศและดินที่ชุ่มชื้น เหมาะกับการเจริญเติบโตของต้นกล้ามากที่สุด

นอกจากการเพาะเมล็ดแล้ว สามารถปลูกแบบชำต้นหรือตอนกิ่งก็ได้ แล้วแต่ใครสะดวกวิธีไหน เพราะผลออกมาไม่ต่างกัน

ขั้นตอนการปลูกและการดูแล

  • เลือกบริเวณที่น้ำไม่ท่วมขัง ปรับพื้นที่ให้เรียบถากถางวัชพืชโดยรอบให้หมด หลังจากกำหนดพื้นที่ปลูกแล้ว ขุดหลุมลึกประมาณ 30-50 ซม. ระยะห่างต่อหลุม 4 เมตร ตากดินที่ขุดขึ้นมาพร้อมวัชพืชที่ถางไว้ประมาณ 7-10 วัน
  • ผสมดินที่ตากแดดทิ้งไว้กับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกหมักอัตราส่วน 1:1 นำต้นกล้าลงหลุมกลบให้แน่นด้วยดินที่ผสมเตรียมไว้ หาไม้หลักมาปักเพื่อพยุงต้นกล้า สุดท้ายนำวัชพืชที่ตากจนแห้งมาคลุมโคนต้นเพื่อรักษาความชื้น แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
  • คอยรดน้ำดูแลจนกว่าต้นกล้าแข็งแรง ประมาณ 1-2 เดือน จึงค่อยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อให้อาหารทางดินอีกรอบ
  • ในช่วง 1-2 ปีแรก ควรคอยดูแลเรื่องวัชพืช และตัดแต่งกิ่งอยู่เสมอ เมื่อต้นเติบโตแข็งแรงดีแล้ว เราสามารถปล่อยให้สะเดาเติบโตตามธรรมชาติเองได้เลย เพราะต้นสะเดาเป็นต้นไม้ที่ชอบแล้งมาก ถ้าฝนทิ้งช่วงหรือดินแห้งมากๆก็ค่อยรดน้ำสักครั้ง การใส่ปุ๋ยก็เพียงปีละ 1-2 ครั้งพอ
  • ส่วนเรื่องศัตรูพืชหมดกังวลได้เลยปลอดภัยแน่นอน เพราะสะเดาเป็นต้นไม้ที่มีสารสารอะซาดิแรคติน (azadirachtin) ซึ่งออกฤทธิ์ฆ่าแมลงในตัวอยู่แล้ว สารนี้พบว่าอยู่ในส่วนของเมล็ดสะเดามากที่สุด ปัจจุบันมีผู้นำมาสกัดและทำขายเป็นการค้าเรียบร้อยแล้ว ส่วนใบ และดอก นิยมมาทำเป็นน้ำหมักชีวภาพซึ่งก็ได้ผลดีเช่นกัน วิธีทำก็ไม่ยุ่งยากสามารถทำไว้ใช้เองได้ในสวนของคุณเลย

สมุนไพร

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *