ต้นตะเคียนทอง ไม้มงคลประโยชน์ ทำเป็นยารักษาโรคต่างๆ
ต้นตะเคียนทองเป็นต้นที่มีถิ่นกำเนิดในป่าดิบแล้งทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย กัมพูชา มาเลเซียจะเป็นไม้ในป่าดงดิบที่จะสามารถกระจายอยู่เต็มพื้นที่ราบนั้นๆ ในประเทศไทยต้นตะเคียนทองถือเป็นไม้มีค่าไม้มงคลประจำจังหวัดปัตตานีเพราะด้วยความทนทาน การนำมาใช่ประโยชน์ ทำเป็นยารักษาโรคต่างๆทำให้ไม้ชนิดนี้สำคัญมาก
ลักษณะพิเศษ
จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ลำต้นตรงสูงประมาณ 40 เมตรเรือนยอดจะเป็นทรงพุ่มหนาทึบคล้ายเจดีย์ต่ำๆต้นเล็กเปลือกลำต้นจะเรียบเมื่อแก่จะหนาเป็นสีน้ำตาลดำแตกเป็นสะเก็ด แก่นไม้จะเป็นสีน้ำตาลแดงเนื้อไม้จะมีสีน้ำตาลอมเหลืองจะมีเส้นสีขาวผ่านเสมอซึ่งเป็นท่อลำเลียงน้ำยางของต้น เนื้อไม้จะมีความละเอียดไม่มาก ไม้มีความแข็ง เหนียวและมีความทนทาน เป็นใบเลี้ยงเดี่ยวที่คล้ายรูปไข่ ปลายใบมีความเรียว โคนใบมนเบี้ยว แผ่นใบจะมีความเหนียวหลังใบเกลี้ยงเป็นมัน ท้องใบมีตุ่มหูดเกลี้ยงๆอยู่บริเวณง่ามแขนงของใบ ปลายโค้งไม่จรดกัน เชื่อมกับใบย่อยคล้ายขั้นบันได หูใบจะเป็นรูปสามเหลี่ยม
จะออกดอกเป็นช่อยาวแยกแขนงตามปลายกิ่งและง่ามใบแต่ละช่อจะมีดอกย่อยประมาณ40-50ดอก ดอกมีสีเหลืองน้ำตาลกลิ่นหอมอ่อนๆและมีขนนุ่มเมื่อดอกบานเต็มที่กลีบดอกจะบิดคล้ายกงจักร ปลายกลีบดอกจะมีความหยักล่างกลีบจะบิดและเชื่อมติดกันด้วย มีเกสรเพศผู้ อับเรณูมียอดแหลม เกสรเพศเมียจะมีรังไข่เหนือกลีบมีความเรียวและเล็กเมื่อร่วงเกสรเพศผู้จะร่วงติดมาด้วยโดยจะออกดอกในช่วงเดือนมกราคม แต่จะออกดอกประมาณ3-5ครั้ง/ปี ผลจะมีสีเขียวอ่อนแห้งไม่แตกเมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มเป็นทรงกลม ปลายมนเป็นติ่งคล้ายหนามแหลม ปีกหนึ่งคู่คล้ายใบพาย ปีกจะซ้อนกันอยู่แต่จะหุ้มกลางผลไม่มิดโดยภายในผลจะมีเมล็ด1เมล็ดทรงกลมสีน้ำตาลจะออกผลในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน
การดูแลต้นตะเคียนทอง
- ปลูกในบริเวณที่ต้นสามารถรับแสงแดดได้อย่างเต็มที่
- ควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจนและฟอสฟอรัสเพื่อไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของต้น
- ให้น้ำในปริมาณ7-10/สัปดาห์
- ควรมีทางระบายน้ำที่ดีไม่ปล่อยให้มีน้ำขัง
ประโยชน์ของต้นตะเคียนทอง
- ยางสามารถนำมาบดเป็นผง เพื่อใช้เป็นยารักษาช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด บรรเทารักษาบาดแผล อาการฟกช้ำตามร่างกาย
- เนื้อไม้ช่วยแก้อาการท้องร่วง
- เปลือกต้นช่วยแก้อาการอักเสบ ใช้เป็นสมานแผล และช่วยห้ามเลือดได้