การดูแลต้นพญาเสือโคร่ง ขั้นตอนการปลูกขยายพันธุ์
พญาเสือโคร่งเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กที่ไม่ชอบน้ำขัง เห็นทั่วไปตามบริเวณภูเขาและไหล่เขาทางภาคเหนือที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,000 เมตรขึ้นไป ถึงจะหาที่ที่เหมาะสมปลูกยาก แต่วิธีการปลูกและดูแลไม่ยุ่งยากเลย ลองมาดูกันค่ะ
วิธีขยายพันธุ์
- เพาะเมล็ดเป็นวิธีที่สะดวกและง่ายที่สุด นำเมล็ดที่ตากแห้งแล้วมาแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน ควรบุบเมล็ดก่อนลงปลูก ระวังอย่าให้เมล็ดแตก
- วัสดุเพาะใช้ขุยมะพร้าว ทรายหยาบ หรือแกลบดำก็ได้ นำมาใส่หลุมเพาะวางเมล็ดแล้วโรยวัสดุปลูกบางๆกลบเมล็ดไว้อีกทีแล้วรดน้ำให้ชุ่ม
- วางไว้ในที่ร่มรำไร พอเริ่มงอกให้โดนแสงแดดในช่วงเช้า การให้น้ำไม่ต้องทุกวันเพราะถ้าแฉะมากเมล็ดเน่าได้ดูแค่ให้มีความชื้นพอ รอจนต้นกล้ามี 2-3 คู่ใบแล้วย้ายลงถุงปลูกเพื่ออนุบาลต้นกล้าต่อไป
- ใช้ดินร่วน ปุ๋ยหมัก แกลบเก่า อัตราส่วน 1:1:1 ผสมใส่ถุงปลูก ย้ายต้นกล้ามาลงแล้วกลบ ช่วงนี้ต้นกล้าต้องการแสงแดดแต่ไม่จัด หาที่วางให้เหมาะสมแล้วคอยดูความชื้นให้พอสมควร 2-3 วันค่อยให้น้ำก็ได้ ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน เมื่อต้นแข็งแรงแล้วค่อยย้ายลงปลูกอีกครั้ง
ขั้นตอนการปลูกและการดูแล
- การปลูกลงดินให้ขุดหลุมไม่ต้องลึกมากหรือวางต้นปลูกลงบนดินเลย แล้วใช้ดินกลบให้พูนขึ้นที่รอบโคนต้น เพื่อป้องกันน้ำขัง หรือจะปลูกลงบ่อซีเมนต์ก็ได้แต่ไม่ต้องเทปูนก้นบ่อ
- ทั้งสองวิธีเมื่อลงปลูกให้ใช้ดินธรรมดาก่อนยังไม่ต้องผสมกับปุ๋ย แต่ต้องเป็นดินร่วนซุยระบายน้ำได้ดี ใน 2-3 อาทิตย์แรกคอยดูแลเรื่องน้ำทุกวันอย่าให้ดินชุ่มมากหรือแห้งจนเกินไป หลังจากนั้นค่อยๆลดการให้น้ำเรื่อยๆโดยสังเกตจากตัวต้นไม้เลย ถ้ายังไม่เริ่มมีอาการเฉาก็ยังไม่ต้องรด เพราะพญาเสือโคร่งเป็นต้นไม้ที่ไม่ชอบน้ำ
- หลังจากลงปลูก 2 เดือน ค่อยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักรอบโคนต้น และหมั่นใส่ปุ๋ยเดือนละ 1-2 ครั้งตามความสะดวก ทุกครั้งที่ใส่ปุ๋ยควรรดน้ำให้ชุ่ม เมื่อต้นสูงประมาณ 2.5-3 เมตร ควรตัดยอดทิ้งเพื่อให้ต้นเป็นทรงพุ่ม
- การดูแลโรคพืชหนอนแมลง ควรเลือกใช้น้ำยาชีวภาพป้องกันเบื้องต้นก่อน เช่น น้ำส้มควันไม้หรือน้ำหมักชีวภาพทำเอง จะได้ปลอดภัยทั้งคนทั้งต้นไม้เพียงแค่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีให้มากที่สุด ถ้าจำเป็นควรต้องใช้อย่างระมัดระวัง ใส่ถุงมือ หน้ากาก สวมเสื้อผ้ามิดชิดในขณะฉีดพ่นหรือรดรากทางดิน