กล้วยไม้แคทลียาป่า ดอกขนาดใหญ่ สีสันสวยงาม
เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะรู้จัก กล้วยไม้ กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เเต่สำหรับบางคนที่อาจจะไม่ได้ทำการศึกษากล้วยไม้อย่างละเอียด อาจจะไม่รู้ว่าเเท้ที่จริงเเล้ว กล้วยไม้มีหลากหลายชนิดมาก ถ้าไปซื้อตามเเหล่งเพาะพันธุ์กล้วยไม้โดยตรง เราจะเห็นเลยว่ากล้วยไม้ได้มีการเเบ่งออกเป็นหลายชนิด เเละอีกหนึ่งพันธุ์กล้วยไม้ที่นิยมมากก็คือ กล้วยไม้เเคทลียาป่า
กล้วยไม้เเคทลียาป่า ( Schomburgkia tibicinis ) เป็นพันธุ์กล้วยไม้ที่มีความสวยงามมากกว่ากล้วยไม้พันธุ์อื่น ๆ โดยสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่หลัก ๆ ด้วยกัน ดังนี้ กลุ่มเเรกคือ Unifoliate group จะมีใบเพียง 1 ใบเท่านั้น เเละยังมีดอกที่มีขนาดใหญ่ เป็นลักษณะบานออกสวยงาม สำหรับกลุ่มนี้มีจุดเด่นของดอกคือมีสีออกโทน ม่วง ๆ หรือชมพูอ่อน เเละกลุ่มที่ 2 คือ Bifoliate group สำหรับกลุ่มนี้ในหนึ่งลำลูกกล้วยจะมีใบมากกว่า 1 ใบขึ้นไป เเละดอกจะมีขนาดค่อนข้างเล็กไปจนถึงกลาง กลีบดอกเป็นมัน ๆ มีจำนวนดอกต่อช่อมากถึง 6 – 20 ดอก มีดอกเล็กปลายเเหลมมีรูปร่างคล้าย ๆ หอก ส่วนของดอกสีดอกมีความหลากหลาย ได้แก่ สีเหลือง, เขียว, น้ำตาลเขียว, น้ำตาล, ส้ม, แดงส้ม, ขาว และชมพูม่วง เน้นไปที่สีสันสดใส มีหลายชนิดที่กลีบดอกมีจุดน้ำตาลหรือม่วงแดงแต้ม โดยในปัจจุบันนี้ก็มีการคิดค้นการผสมผสานระหว่างทั้ง 2 กลุ่มเข้าด้วยกัน ให้ได้ดอกที่มีความสวยงามลงตัว
สำหรับ กล้วยไม้แคทลียาป่า จะเป็นกล้วยไม้ที่ไม่ชอบอากาศเย็นมากหรือเย็นจัด เเละยิ่งโดยเฉพาะไม่ชอบอากาศที่มีการเปลี่ยนเเปลงอย่างรวดเร็วเหมือนประเทศไทยของเราที่มีอากาศเปลี่ยนเเปลงปล่อยมากจากร้อนมาก เป็นเย็นมากในวันเดียวกัน ถ้าอุณหภูมิในการปลูกในช่วงเวลากลางคืน ไม่ควรต่ำกว่า 130 องศา ส่วนเวลากลางวันควรจะประมาณ 28 องศา เเต่ถ้าในจังหวัดเชียงใหม่ต้องบอกเลยว่า เป็นจังหวะที่มีอุณหภูมิที่เหมาะสมกับการปลูก
กล้วยไม้เเคทลียาป่า เราจะเห็นว่าในจังหวัดเชียงใหม่จะมีฟาร์มกล้วยไม้ชนิดนี้มาก เพราะมีทั้งอากาศกับความชื้นที่พอดี เเละในเรื่องของเเสง ต้องได้รับเเสงประมาณ 70 % ต่อวัน วัสดุที่ใช้ก็ต้องเป็นวัสดุที่ระบายน้ำได้ดี ไม่ขัง ส่วนวัสดุที่ใช้ในการปลูก ขอแนะนำให้ใช้เป็น อิฐมอญ หรือไม่ก็ถ่าน ที่จริงแล้วกากมะพร้าวก็เป็นสิ่งหนึ่งที่นำมาปลูกได้ แต่ว่าต้องจัดทรงให้อยู่ในแนวตั้งตลอดเวลา เพราะถ้ากากมะพร้าวอมน้ำไว้ ก็จะทำให้เกิดน้ำขังที่เป็นเหตุให้ กล้วยไม้แคทลียาป่า ล้มตาย เหี่ยว แถมยังส่งกลิ่นอับชื้นด้วย