กล้วยฟอริด้าด่าง กล้วยที่เหล่าบรรดานักสะสมไม้ต่างต้องมี
กล้วยฟอริด้าด่าง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Musa ได้มีการค้นพบทางตอนใต้ของฟลอริด้า จึงเป็นที่มาของชื่อนั่นเอง ส่วนลักษณะของลำต้นถ้าสูงอยู่ประมาณ 2-3 เมตร จะมีหน่อด่าง แต่ถ้ามีลำต้นใหญ่ขึ้นแล้วหน่อจะมีสีเขียวอมชมพู มีใบขนาดใหญ่มีสีเขียวและขาวสลับกัน ขอบใบเรียบ โคนก้านใบจะเป็นสีชมพูอ่อน จะออกดอกในช่วงที่มีอากาศเย็น โดยจะออกเป็นช่อห้อยลงมา และตรงปลายจะเป็นหัวปลี
กล้วยฟอริด้าด่าง ได้รับความนิยมอย่างมาก เป็นกล้วยที่ควรมีประจำบ้าน และสวนกันเลยทีเดียว ถือว่าเป็นกล้วยที่เหล่าบรรดานักสะสมต้นไม้ต่างต้องมี เพราะเป็นกล้วยที่มีเสน่ห์ในตัว และมีลวดลายสวยงาม การเกิดสีด่างของใบและลำต้นนั้น เกิดจากการกลายพันธุ์ตามธรรมชาตินั่นเอง ส่วนใหญ่เมื่อนำมาปลูกแล้วจะให้ผลไม่ผิดหวัง ราคาของกล้วยนั้นจะมีราคาไม่ถูกมากจนถึงราคาที่แพงขึ้นอยู่กับขนาด การตัดสินใจเลือกซื้อกล้วยนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจเพียงอย่างเดียว แต่สำหรับบางคนหากต้องการที่จะนำไปปลูกเพื่อต่อยอด ส่วนใหญ่จะดูที่ความสมบูรณ์ของหน่อและต้นรวมไปถึงลวดลายประกอบกันด้วย ส่วนถ้าเราต้องการที่จะขยายพันธุ์สามารถทำได้โดยให้นำหน่อไปเพาะขยายพันธุ์ เมื่อผสมกันแล้วเกิดผล ผลที่ได้มักไม่มีเมล็ดกล้วย และจะได้ผลที่หน้าตาสวยเหมือนกับต้นแม่เลย ในหนึ่งต้นจะมีเครือประมาณ 4-5 หวี และในหนึ่งหวีจะมี 10-16 ผล ส่วนผลของกล้วยด่างนั้นสามารถนำมารับประทานได้ แต่ต้องรอให้สุกก่อน ซึ่งจะมีรสชาติคล้ายกับกล้วยไข่ แต่จะมีรสอมเปรี้ยวกว่า
วิธีการปลูกกล้วยฟอริด้าด่างนั้น ก่อนอื่นให้เลือกต้นที่มีรากแน่นและเยอะ ดูแล้วสมบูรณ์ เมื่อเลือกได้มาแล้วให้นำไปแช่น้ำผสมยาฆ่าหนอน แช่ยากันรา และแช่วิตามินเร่งราก เพื่อทำการฟื้นฟูต้นกล้วยก่อนที่จะนำมาปลูกลงในดิน หรือลงในกระถาง เมื่อปลูกต้นกล้วยลงดินแล้วให้สังเกตการแทงยอดใหม่ตลอด เพราะหากมีอาการของใบเหี่ยวเฉา ให้ทำการตัดต้นแล้วเช็คแกนกลางของลำต้นว่า ดำเหี่ยวด้วยหรือไม่ แล้วหลังจากนั้นให้ทำการรักษาใหม่อีกครั้งก่อนที่จะทำการปลูกใหม่ ส่วนอีกวิธีที่สามารถทำการขยายพันธุ์ได้นั่นก็คือการเพาะเมล็ด แต่วิธีนี้ส่วนใหญ่ยากที่จะให้ผลที่สวยเหมือนกับต้นแม่ แต่จะนิยมทำเพื่อการค้ามากกว่า เพราะให้ผลผลิตที่รวดเร็ว
กล้วยฟอริด้าด่าง เป็นประเภทไม้ล้มลุก ชอบแสงแดด แต่ต้องเป็นแดดที่ไม่แรงจัด เพราะถ้าถูกแดดมากไปใบบางส่วนอาจจะไหม้ได้ แต่ถ้าต้นไหนมีความสมบูรณ์ก็สามารถที่จะปลูกกลางแจ้งได้ ส่วนใหญ่มักนิยมปลูกเป็นไม้ประดับในบ้าน ในอาคาร เพื่อความสวยงามและความแปลกตา